รัฐบาลสหรัฐฯ เปิดเผยว่า เงินจำนวนกว่า 1 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 3,100,000 ล้านบาท จะถูกอัดฉีดเข้าสู่ตลาดการเงินของประเทศ โดยผ่านระบบธนาคารเงินกู้เพื่อที่อยู่อาศัยของรัฐบาลกลาง เพื่อพยุงเสถียรภาพของตลาดการเงินที่กำลังผันผวนท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจโลกที่กำลังย่ำแย่จากปัญหาสินเชื่อด้อยคุณภาพในภาคอสังหาริมทรัพย์ โดยเงินนับแสนล้านดอลลาร์ที่อัดฉีดเข้าสู่ระบบนั้น จะช่วยให้ธนาคารปล่อยเงินกู้เพื่อที่อยู่อาศัย ถือครองหลักทรัพย์ในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพิ่มขึ้น 2 เท่า จากที่มีอยู่ในปัจจุบัน ตลอดระยะเวลา 2 ปี ซึ่งหมายความว่า ธนาคารระดับภูมิภาค 12 แห่ง ในสหรัฐฯ จะสามารถซื้อหลักทรัพย์เพิ่มได้อีกจากบริษัทรับซื้ออสังหาริมทรัพย์ 2 แห่ง ที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล เพื่อพยุงภาวะล้มละลายของภาคธุรกิจ