นายเกรียงไกร สัมปัชชลิต อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวภายหลังตรวจพื้นที่ท้องสนามหลวงฝั่งทิศใต้ เพื่อเตรียมประกอบพิธียกเสาเอกพระเมรุ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ในวันที่ 28 มีนาคมนี้ ว่า พิธียกเสาเอกพระเมรุ เปรียบเสมือนการยกเสาเอกของบ้าน ต้องใช้ช่างผู้มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญเพื่อความสมบูรณ์มากที่สุด นอกจากนี้ จะต้องหาคนที่มีชื่อความหมายมงคล อาทิ ทองมี สมบูรณ์ และพูนสุข มาช่วยกันยกเสาเอก เพื่อความเป็นสิริมงคล
ขณะที่การจัดเตรียมพื้นที่นั้น ทางกรมศิลปากรจะเป็นผู้ดูแล ทั้งการปรับพื้นที่และจัดปะรำพิธี ส่วนพระครูวามเทพมุนี หัวหน้าพราหมณ์เทวสถานโบสถ์พราหมณ์ จะเป็นผู้จัดเตรียมเครื่องบวงสรวงทั้งหมด
นอกจากนี้ จะให้สำนักงานสังคีตเตรียมงานแสดงร่ายรำเทพเทวดาประกอบพิธีด้วย พร้อมประสานกรมโยธาธิการ เข้าจัดพื้นที่ กางเต็นท์ เพื่อรองรับผู้เข้าร่วมพิธี ซึ่งจะประกอบด้วยคณะรัฐมนตรี และบุคคลต่างๆ กว่า 300 คน
ขณะที่การจัดเตรียมพื้นที่นั้น ทางกรมศิลปากรจะเป็นผู้ดูแล ทั้งการปรับพื้นที่และจัดปะรำพิธี ส่วนพระครูวามเทพมุนี หัวหน้าพราหมณ์เทวสถานโบสถ์พราหมณ์ จะเป็นผู้จัดเตรียมเครื่องบวงสรวงทั้งหมด
นอกจากนี้ จะให้สำนักงานสังคีตเตรียมงานแสดงร่ายรำเทพเทวดาประกอบพิธีด้วย พร้อมประสานกรมโยธาธิการ เข้าจัดพื้นที่ กางเต็นท์ เพื่อรองรับผู้เข้าร่วมพิธี ซึ่งจะประกอบด้วยคณะรัฐมนตรี และบุคคลต่างๆ กว่า 300 คน