พล.ต.ต.จรัมพร สุระมณี รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เป็นประธานในพิธีทำลายของกลาง ในคดีทรัพย์สินทางปัญญาที่ศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุด บริเวณสถานีขนส่งสินค้า อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี มีทั้งแผ่นซีดี ดีวีดี เสื้อผ้า รถจักรยานยนต์ นาฬิกา กระเป๋า และเครื่องสำอางและยาต่างๆ จำนวนเกือบ 2,000,000 ชิ้น มูลค่ากว่า 255 ล้านบาท ซึ่งการทำลายเจ้าหน้าที่ใช้วิธีจุดไฟเผา และใช้รถบดทำลาย
พล.ต.ต.วิสุทธิ์ วานิชบุตร ผู้บังคับการตำรวจปราบปรามอาชญากรรมทางเศรษฐกิจและเทคโนโลยี (ปศท.) กล่าวว่า ของกลางที่เผาทำลายครั้งนี้ เป็นผลงานการปราบปรามของ ปศท.ในรอบ 1 ปีที่ผ่านมา โดยสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งสิ้น 3,399 คน อย่างไรก็ตาม ของกลางร้อยละ 80 เป็นลักลอบผลิตและนำเข้ามาจากประเทศจีน ส่วนที่เหลือร้อยละ 20 ลักลอบผลิตในประเทศไทยและประเทศเพื่อนบ้าน จากนี้ ปศท.จะเดินหน้ากวาดล้างสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาอย่างเข้มข้น ส่วนของกลางหลังจากทำลายแล้ว จะมอบให้กรมราชทัณฑ์ เพื่อนำไปให้นักโทษฝึกทำงานฝีมือต่อไป
ด้านนายสุทธิศักดิ์ ประศาสน์ครุการ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญหา (ภาคเอกชน) กล่าวว่า ขณะนี้ยังมีขบวนการลักลอบผลิตและจำหน่ายเทปผีซีดีเถื่อนในย่านคลองถม และสะพานเหล็ก 18 ราย ซึ่งตนได้มอบข้อมูลและหลักฐานทั้งหมดให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไปดำเนินการสืบสวนจับกุมแล้ว ส่วนผลการจับกุมที่เห็นว่า มีจำนวนมาก สะท้อนว่า ส่วนหนึ่งมาจากกระบวนการยุติธรรมที่ยังมีปัญหาทำให้มีการลักลอบผลิตและจำหน่ายยังมีอยู่อย่างต่อเนื่อง
พล.ต.ต.วิสุทธิ์ วานิชบุตร ผู้บังคับการตำรวจปราบปรามอาชญากรรมทางเศรษฐกิจและเทคโนโลยี (ปศท.) กล่าวว่า ของกลางที่เผาทำลายครั้งนี้ เป็นผลงานการปราบปรามของ ปศท.ในรอบ 1 ปีที่ผ่านมา โดยสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งสิ้น 3,399 คน อย่างไรก็ตาม ของกลางร้อยละ 80 เป็นลักลอบผลิตและนำเข้ามาจากประเทศจีน ส่วนที่เหลือร้อยละ 20 ลักลอบผลิตในประเทศไทยและประเทศเพื่อนบ้าน จากนี้ ปศท.จะเดินหน้ากวาดล้างสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาอย่างเข้มข้น ส่วนของกลางหลังจากทำลายแล้ว จะมอบให้กรมราชทัณฑ์ เพื่อนำไปให้นักโทษฝึกทำงานฝีมือต่อไป
ด้านนายสุทธิศักดิ์ ประศาสน์ครุการ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญหา (ภาคเอกชน) กล่าวว่า ขณะนี้ยังมีขบวนการลักลอบผลิตและจำหน่ายเทปผีซีดีเถื่อนในย่านคลองถม และสะพานเหล็ก 18 ราย ซึ่งตนได้มอบข้อมูลและหลักฐานทั้งหมดให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไปดำเนินการสืบสวนจับกุมแล้ว ส่วนผลการจับกุมที่เห็นว่า มีจำนวนมาก สะท้อนว่า ส่วนหนึ่งมาจากกระบวนการยุติธรรมที่ยังมีปัญหาทำให้มีการลักลอบผลิตและจำหน่ายยังมีอยู่อย่างต่อเนื่อง
