วันนี้ (13 มี.ค.) นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง (รมช.คลัง) เดินทางตรวจเยี่ยมพร้อมมอบนโยบายแก่ผู้บริหารโรงงานยาสูบ โดยกล่าวว่า กิจการยาสูบเป็นกิจการผูกขาด ที่สร้างผลกำไรและเสียภาษีให้กับรัฐบาลจำนวนมาก โดยคิดเป็นเงินประมาณ 30,000 - 40,000 ล้านบาท แต่ปัจจุบันสังคมมองว่า บุหรี่สร้างปัญหาบั่นทอนสุขภาพ กิจการยาสูบจึงเติบโตในสัดส่วนลดลง และเชื่อว่าในอนาคตการเติบโตจะลดลงจนถึงขั้นติดลบ ประกอบกับข้อตกลงเขตการค้าเสรีอาเซียน จะทำให้บุหรี่ที่ผลิตในอาเซียนมีต้นทุนถูก เข้ามาแข่งขันกับบุหรี่ที่ผลิตในประเทศมากขึ้น ดังนั้นอนาคตของกิจการยาสูบจึงไม่สดใส ทั้งนี้เมื่อดูจากแนวโน้มรายได้อนาคต เชื่อว่าปี 2552 กำไรจะเหลือประมาณ 4,500 ล้านบาทจากที่กำไรกว่า 6,300 ล้านบาทในปีที่ผ่านมา ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการหักค่าเสื่อมโรงงานยาสูบใหม่ที่จะสร้างเสร็จในปี 2555
อย่างไรก็ตาม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ขณะนี้ได้กำชับให้โรงงานยาสูบรักษาผลกำไรให้อยู่ในระดับปัจจุบัน โดยหาพันธมิตรและเพิ่มช่องทางแข่งขันกับบุหรี่นอก ส่วนนโยบายการย้ายโรงงานยาสูบไปที่แห่งใหม่ ยังยึดตามมติคณะรัฐมนตรีรัฐบาลชุดก่อน
อย่างไรก็ตาม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ขณะนี้ได้กำชับให้โรงงานยาสูบรักษาผลกำไรให้อยู่ในระดับปัจจุบัน โดยหาพันธมิตรและเพิ่มช่องทางแข่งขันกับบุหรี่นอก ส่วนนโยบายการย้ายโรงงานยาสูบไปที่แห่งใหม่ ยังยึดตามมติคณะรัฐมนตรีรัฐบาลชุดก่อน