อาหารจีนที่ขึ้นชื่อเรื่องความอร่อยติดอันดับโลก กำลังหลุดจากกระแสความนิยมในญี่ปุ่น หลังเกิดเหตุเกี๊ยวซ่าผลิตจากจีน ปนเปื้อนสารพิษ ทำให้คนญี่ปุ่นเจ็บป่วยไปนับสิบคน เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา
โดยการจัดงาน ฟู้ดเด็กซ์ เจแปน ชานกรุงโตเกียว ซึ่งเป็นหนึ่งในนิทรรศการอาหารที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย ปรากฏว่า ผู้ร่วมงานซึ่งล้วนแต่เป็นเจ้าของร้านอาหารหรือผู้ทำธุรกิจขายส่งอาหาร ต่างปฏิเสธที่จะเข้าไปชมบูธอาหารจีน ทั้งที่บูธอาหารจีนเคยมีผู้เข้าชมอย่างล้นหลามเมื่อปีก่อน สะท้อนให้เห็นว่า ข่าวเกี๊ยวซ่าจีนปนเปื้อนสารพิษ ทำให้อาหารจีนเสื่อมความนิยมในญี่ปุ่นแล้วอย่างแท้จริง ทั้งยังมีรายงานว่า ห้างสรรพสินค้าญี่ปุ่นตลอดจนบริษัทนำเข้าอาหารต่างได้รับผลกระทบกันโดยถ้วนทั่ว จากกระแสความวิตกเรื่องความไม่ปลอดภัยของอาหารจีน จึงทำให้อาหารจีนจำหน่ายได้น้อยลงในญี่ปุ่น
ห้างสรรพสินค้าชั้นนำแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น เผยว่า อาหารแช่แข็งนำเข้า ขายได้น้อยลงถึงร้อยละ 30 หลังมีข่าวแพร่สะพัดว่า เกี๊ยวซ่าแช่แข็งจากจีน ปนเปื้อนสารพิษ ขณะที่คนญี่ปุ่นก็หันมาซื้อผลิตภัณฑ์อาหารภายในประเทศกันมากขึ้น ส่งผลให้หัวหอม เนื้อวัว และเนื้อหมู ที่ผลิตขึ้นเองในญี่ปุ่น มียอดขายพุ่งขึ้นกว่าเท่าตัว แต่สำหรับคนญี่ปุ่นที่ยังอยากจะลิ้มลองอาหารจีนต่อไป ก็เลือกที่จะไม่ซื้ออาหารที่นำเข้าจากประเทศจีน แต่หันไปสั่งซื้อผลิตภัณฑ์อาหารจากไต้หวันแทน ส่งผลให้ธุรกิจอาหารนำเข้าจากไต้หวัน คึกคักขึ้นมากในช่วงนี้ แม้คนญี่ปุ่นจะต้องเสียเงินมากขึ้นก็ตาม เพราะอาหารจากไต้หวัน มีราคาแพงกว่าอาหารที่นำเข้าจากจีน
โดยการจัดงาน ฟู้ดเด็กซ์ เจแปน ชานกรุงโตเกียว ซึ่งเป็นหนึ่งในนิทรรศการอาหารที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย ปรากฏว่า ผู้ร่วมงานซึ่งล้วนแต่เป็นเจ้าของร้านอาหารหรือผู้ทำธุรกิจขายส่งอาหาร ต่างปฏิเสธที่จะเข้าไปชมบูธอาหารจีน ทั้งที่บูธอาหารจีนเคยมีผู้เข้าชมอย่างล้นหลามเมื่อปีก่อน สะท้อนให้เห็นว่า ข่าวเกี๊ยวซ่าจีนปนเปื้อนสารพิษ ทำให้อาหารจีนเสื่อมความนิยมในญี่ปุ่นแล้วอย่างแท้จริง ทั้งยังมีรายงานว่า ห้างสรรพสินค้าญี่ปุ่นตลอดจนบริษัทนำเข้าอาหารต่างได้รับผลกระทบกันโดยถ้วนทั่ว จากกระแสความวิตกเรื่องความไม่ปลอดภัยของอาหารจีน จึงทำให้อาหารจีนจำหน่ายได้น้อยลงในญี่ปุ่น
ห้างสรรพสินค้าชั้นนำแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น เผยว่า อาหารแช่แข็งนำเข้า ขายได้น้อยลงถึงร้อยละ 30 หลังมีข่าวแพร่สะพัดว่า เกี๊ยวซ่าแช่แข็งจากจีน ปนเปื้อนสารพิษ ขณะที่คนญี่ปุ่นก็หันมาซื้อผลิตภัณฑ์อาหารภายในประเทศกันมากขึ้น ส่งผลให้หัวหอม เนื้อวัว และเนื้อหมู ที่ผลิตขึ้นเองในญี่ปุ่น มียอดขายพุ่งขึ้นกว่าเท่าตัว แต่สำหรับคนญี่ปุ่นที่ยังอยากจะลิ้มลองอาหารจีนต่อไป ก็เลือกที่จะไม่ซื้ออาหารที่นำเข้าจากประเทศจีน แต่หันไปสั่งซื้อผลิตภัณฑ์อาหารจากไต้หวันแทน ส่งผลให้ธุรกิจอาหารนำเข้าจากไต้หวัน คึกคักขึ้นมากในช่วงนี้ แม้คนญี่ปุ่นจะต้องเสียเงินมากขึ้นก็ตาม เพราะอาหารจากไต้หวัน มีราคาแพงกว่าอาหารที่นำเข้าจากจีน