นายกรณ์ จาติกวนิช ทีมเศรษฐกิจพรรคฝ่ายค้าน และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเงา พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวภายหลังเข้าหารือ นายแพทย์สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เพื่อเสนอแนวทางกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยระบุว่า หลังจากรัฐบาลมีนโยบายลดภาษี ถือว่าเป็นประโยชน์ต่อภาคธุรกิจและประชาชน แต่เห็นว่ายังไม่เพียงพอต่อการลดภาระของผู้มีรายได้น้อย จึงต้องการใช้งบประมาณเพื่อเพิ่มกำลังซื้อและลดภาระประชาชน เพราะจะเป็นส่วนกระตุ้นเศรษฐกิจโดยตรง หากรอเงินจากโครงการลงทุนขนาดใหญ่ อาจมีกำลังแรงไม่พอกระตุ้นเศรษฐกิจ จึงเสนอให้รัฐบาลตั้งงบกลางปี 2551 จำนวน 50,000 ล้านบาท เพื่อดำเนินการเร่งด่วนในช่วง 6 เดือนที่เหลือของปีงบประมาณ
ทั้งนี้ ได้เสนอให้จัดให้มีการเรียนฟรีสำหรับนักเรียน นักศึกษา ในช่วงปิดเทอม วงเงิน 17,500 ล้านบาท การจัดเบี้ยเลี้ยงให้อาสาสมัครสาธารณสุขหมู่บ้านทั่วประเทศ 800,000 คน คนละ 600 บาทต่อเดือน วงเงิน 2,880 ล้านบาท การจัดตั้งกองทุนเศรษฐกิจพอเพียง กองละ 1-2 ล้านบาท ทุกตำบลและแขวงทั่วประเทศ วงเงิน 11,000 ล้านบาท เพื่อใช้ในการให้ความรู้ หรือจัดซื้ออุปกรณ์ที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนในตำบลต่าง ๆ รองรับนโยบายเศรษฐกิจพอเพียง การจัดให้มีเบี้ยเลี้ยงสำหรับผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป จำนวน 6 ล้านคน คนละ 500 บาทต่อเดือน วงเงิน 18,000 ล้านบาท และยังเสนอให้นำเงินจากโครงการอยู่ดีมีสุขกว่า 18,000 ล้านบาท สนับสนุนกองทุนหมู่บ้านเอสเอ็มแอล แต่เตือนให้ระวังกรณีรัฐบาลให้สถาบันการเงินของรัฐเข้าช่วยเหลือเศรษฐกิจฐานรากในการปล่อยสินเชื่อ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาเอ็นพีแอลตามมา
ทั้งนี้ ได้เสนอให้จัดให้มีการเรียนฟรีสำหรับนักเรียน นักศึกษา ในช่วงปิดเทอม วงเงิน 17,500 ล้านบาท การจัดเบี้ยเลี้ยงให้อาสาสมัครสาธารณสุขหมู่บ้านทั่วประเทศ 800,000 คน คนละ 600 บาทต่อเดือน วงเงิน 2,880 ล้านบาท การจัดตั้งกองทุนเศรษฐกิจพอเพียง กองละ 1-2 ล้านบาท ทุกตำบลและแขวงทั่วประเทศ วงเงิน 11,000 ล้านบาท เพื่อใช้ในการให้ความรู้ หรือจัดซื้ออุปกรณ์ที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนในตำบลต่าง ๆ รองรับนโยบายเศรษฐกิจพอเพียง การจัดให้มีเบี้ยเลี้ยงสำหรับผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป จำนวน 6 ล้านคน คนละ 500 บาทต่อเดือน วงเงิน 18,000 ล้านบาท และยังเสนอให้นำเงินจากโครงการอยู่ดีมีสุขกว่า 18,000 ล้านบาท สนับสนุนกองทุนหมู่บ้านเอสเอ็มแอล แต่เตือนให้ระวังกรณีรัฐบาลให้สถาบันการเงินของรัฐเข้าช่วยเหลือเศรษฐกิจฐานรากในการปล่อยสินเชื่อ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาเอ็นพีแอลตามมา