นายยรรยง พวงราช อธิบดีกรมการค้าภายใน ในฐานะประธานคณะทำงานแก้ไขการขาดสภาพคล่องของบริษัท สหประกันชีวิต เปิดเผยว่า ในการแก้ไขปัญหาบริษัทสหประกันชีวิตในช่วงกลางปีที่ผ่านมาจนถึงขณะนี้สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างดี แม้บริษัทจะขาดสภาพคล่องและการดำรงเงินกองทุนให้เป็นไปตามกฎหมายจำนวน 270 ล้านบาท แต่มีบริษัททั้งในประเทศและต่างประเทศสนใจเข้าร่วมทุนกับบริษัท สหประกันชีวิต 3 กลุ่ม ได้แก่ สหกรณ์ออมทรัพย์ นักลงทุนจากต่างประเทศและบุคคลในแวดวงประกันชีวิต ซึ่งได้มอบหมายให้คณะทำงานฯ ไปเจรจาให้แล้วเสร็จภายในเดือนเมษายนนี้ ก่อนบริษัท สหประกันชีวิตจะมีการประชุมผู้ถือหุ้นประจำปีเดือนเมษายน ซึ่งคาดว่าหากสามารถได้ผลสรุปก็น่าจะทำให้บริษัทดำเนินกิจการต่อไปได้
นายยรรยง กล่าวว่า ขณะนี้ทางบริษัท สหประกันชีวิตมีกลุ่มสมาชิกที่ทำประกันนับหมื่นราย และมีกรมธรรม์กว่า 2,000 กรมธรรม์ หากดูผลดำเนินงานช่วงปี 2546 ที่บริษัทมีปัญหาเพิ่มทุนและขาดทุนจากการดำเนินงาน 76 ล้านบาท ต่อมาในปี 2549 ขาดทุนลดลงเหลือ 34 ล้านบาท และในปี 2550 ขาดทุน 32 ล้านบาท หากได้ผู้ร่วมทุนรายใหม่ที่จะนำเงินเข้ามาร่วมลงทุนจำนวน 270 ล้านบาท น่าจะทำให้บริษัท สหประกันชีวิตสามารถ ดำเนินการได้ต่อไป โดยให้บริษัทจัดทำแผนลดการขาดทุนและลดค่าใช้จ่ายที่อาจจะเกิดการรั่วไหล และจัดทำแผนขยายการรับประกันชีวิตทั้งฐานลูกค้าเก่าและใหม่ เพื่อให้คณะทำงานฯ พิจารณาโครงสร้างต่อไป
นายยรรยง กล่าวว่า ขณะนี้ทางบริษัท สหประกันชีวิตมีกลุ่มสมาชิกที่ทำประกันนับหมื่นราย และมีกรมธรรม์กว่า 2,000 กรมธรรม์ หากดูผลดำเนินงานช่วงปี 2546 ที่บริษัทมีปัญหาเพิ่มทุนและขาดทุนจากการดำเนินงาน 76 ล้านบาท ต่อมาในปี 2549 ขาดทุนลดลงเหลือ 34 ล้านบาท และในปี 2550 ขาดทุน 32 ล้านบาท หากได้ผู้ร่วมทุนรายใหม่ที่จะนำเงินเข้ามาร่วมลงทุนจำนวน 270 ล้านบาท น่าจะทำให้บริษัท สหประกันชีวิตสามารถ ดำเนินการได้ต่อไป โดยให้บริษัทจัดทำแผนลดการขาดทุนและลดค่าใช้จ่ายที่อาจจะเกิดการรั่วไหล และจัดทำแผนขยายการรับประกันชีวิตทั้งฐานลูกค้าเก่าและใหม่ เพื่อให้คณะทำงานฯ พิจารณาโครงสร้างต่อไป