นายจรัญ ภักดีธนากุล ปลัดกระทรวงยุติธรรม กล่าวในโอกาสเป็นประธานเปิดโครงการอบรมสัมมนาเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เตรียมพร้อมปฏิบัติงาน กรณีร่าง พ.ร.บ. ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ…. ประกาศใช้ ว่า กฎหมายดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้จริง วันที่ 5 มิถุนายน 2551 เป็นต้นไป ดีเอสไอต้องเร่งกำหนดขอบเขตว่าคดีอย่างไรจึงจะเป็นคดีพิเศษในเรื่องการค้ามนุษย์ จะมีการตกลงร่วมกันกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) เพื่อแบ่งขอบเขตของคดี
นายจรัญ กล่าวว่า แนวคิดเบื้องต้นที่จะนำไปหารือกับ สตช.คือ กำหนดว่า หากเป็นเรื่ององค์กรอาชญากรรมการค้ามนุษย์ข้ามชาติ หรือมีเจ้าหน้าที่ของรัฐเข้าไปเกี่ยวข้อง ก็จะให้เป็นคดีพิเศษ และจะกำหนดให้ดีเอสไอเข้าไปดำเนินการสืบสวนสอบสวน นอกจากนี้ จะมีการตั้งกองทุนเพื่อป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ ในลักษณะเดียวกับกองทุนของสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) และสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.)
ปลัดกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า ดีเอสไอจะต้องร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งศาลฎีกา สำนักงานอัยการสูงสุด (อสส.) และ สตช. เพื่อกำหนดมาตรฐานและวิธีการแยกแยะผู้กระทำผิดออกจากเหยื่อ รวมทั้งกำหนดวิธีคุ้มครองผู้เสียหาย
นายจรัญ กล่าวว่า แนวคิดเบื้องต้นที่จะนำไปหารือกับ สตช.คือ กำหนดว่า หากเป็นเรื่ององค์กรอาชญากรรมการค้ามนุษย์ข้ามชาติ หรือมีเจ้าหน้าที่ของรัฐเข้าไปเกี่ยวข้อง ก็จะให้เป็นคดีพิเศษ และจะกำหนดให้ดีเอสไอเข้าไปดำเนินการสืบสวนสอบสวน นอกจากนี้ จะมีการตั้งกองทุนเพื่อป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ ในลักษณะเดียวกับกองทุนของสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) และสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.)
ปลัดกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า ดีเอสไอจะต้องร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งศาลฎีกา สำนักงานอัยการสูงสุด (อสส.) และ สตช. เพื่อกำหนดมาตรฐานและวิธีการแยกแยะผู้กระทำผิดออกจากเหยื่อ รวมทั้งกำหนดวิธีคุ้มครองผู้เสียหาย
