นางสดศรี สัตยธรรม กรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต.ด้านกิจการพรรคการเมือง กล่าวถึงความคืบหน้าของคณะอนุกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีที่ กกต.มีมติเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งกรรมการบริหารพรรค (พรรคชาติไทย-พรรคมัชฌิมาธิปไตย) ว่า ทราบว่าวันที่ 4 มีนาคม นี้ อนุกรรมการฯ จะมีการประชุม นัดสุดท้าย และสรุปผลส่งมาให้ กกต.พิจารณา ดังนั้น สัปดาห์หน้าคณะอนุกรรมการฯ น่าจะส่งสำนวนการตรวจสอบข้อเท็จจริงที่แล้วเสร็จ มาให้ กกต.พิจารณาได้ แต่ตอนนี้ยังไม่ทราบว่า ผลจะออกมาเป็นอย่างไร ซึ่งถือเป็นเรื่องดี ที่ผลการสอบสวนของคณะอนุกรรมการฯ ไม่ได้รั่วออกมา
นางสดศรี กล่าวถึง กรณีที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย จะขอให้ไปเป็นพยานในศาลฎีกา กรณี กกต.ลงมติเพิกถอนสิทธิ์เลือกตั้งนายยงยุทธ ติยะไพรัช ประธานสภาผู้แทนราษฎร ว่าถ้าศาลมีหมายเรียกมา กกต.ทุกคนคงไม่ขัดข้อง เพราะถือเป็นหน้าที่ แต่ส่วนตัวเห็นว่าเรื่องนี้ได้ยุติไปแล้ว และไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องการเมืองอะไรทั้งสิ้น และจะให้การตามที่ลงมติไป
ทั้งนี้ นางสดศรี กล่าวอีกว่า การเขียนสำนวนคดีนี้ เจ้าหน้าที่นิติกรของ กกต.เป็นผู้ร่างสำนวน ดังนั้น อนุกรรมการฯ ที่มีนายสุวิทย์ ธีรพงษ์ เป็นประธาน จึงไม่ได้เกี่ยวข้อง คาดว่ากลางสัปดาห์นี้ เจ้าหน้าที่จะสามารถส่งร่างสำนวนมาให้ กกต.พิจารณาได้ อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าไม่หนักใจในการทำงานของ กกต.ที่มีอีกหลายเรื่องที่จะต้องพิจารณา
นางสดศรี กล่าวถึง กรณีที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย จะขอให้ไปเป็นพยานในศาลฎีกา กรณี กกต.ลงมติเพิกถอนสิทธิ์เลือกตั้งนายยงยุทธ ติยะไพรัช ประธานสภาผู้แทนราษฎร ว่าถ้าศาลมีหมายเรียกมา กกต.ทุกคนคงไม่ขัดข้อง เพราะถือเป็นหน้าที่ แต่ส่วนตัวเห็นว่าเรื่องนี้ได้ยุติไปแล้ว และไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องการเมืองอะไรทั้งสิ้น และจะให้การตามที่ลงมติไป
ทั้งนี้ นางสดศรี กล่าวอีกว่า การเขียนสำนวนคดีนี้ เจ้าหน้าที่นิติกรของ กกต.เป็นผู้ร่างสำนวน ดังนั้น อนุกรรมการฯ ที่มีนายสุวิทย์ ธีรพงษ์ เป็นประธาน จึงไม่ได้เกี่ยวข้อง คาดว่ากลางสัปดาห์นี้ เจ้าหน้าที่จะสามารถส่งร่างสำนวนมาให้ กกต.พิจารณาได้ อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าไม่หนักใจในการทำงานของ กกต.ที่มีอีกหลายเรื่องที่จะต้องพิจารณา