นายอู๋ ซินหมิน เจ้าหน้าที่ระดับสูงของกระทรวงรักษาความมั่นคงสาธารณะ แถลงว่า ภายหลังจากสืบสวนและทดสอบอย่างละเอียด ตำรวจจีนได้สรุปว่า กรณีเกี๊ยวซ่าที่เกิดขึ้นเป็นการเจตนาวางยา ไม่ใช่การปนเปื้อนยาฆ่าแมลงระหว่างขั้นตอนการผลิตในจีน และว่าผลตรวจสอบชี้ว่า อาจมียาฆ่าแมลงรั่วซึมจากภายนอกบรรจุภัณฑ์ ตรงข้ามกับผลทดสอบจากตำรวจญี่ปุ่นที่ระบุไม่น่าเป็นไปได้อย่างยิ่งที่จะมีการลอบวางยาในญี่ปุ่น เนื่องจากประเทศมีระเบียบข้อบังคับที่เข้มงวดเกี่ยวกับยาฆ่าแมลง
ขณะที่นายเหว่ย ชวนจ่ง รองผู้อำนวยการสํานักงานควบคุมคุณภาพและตรวจสอบกักกันโรคของจีน ระบุว่า กรณีที่เกิดขึ้นไม่ใช่ปัญหาความปลอดภัยด้านอาหาร แต่เป็นเจตนาก่ออาชญากรรมและไม่ควรตัดประเด็นที่อาจมีบุคคลจากประเทศอื่นซื้อยาฆ่าแมลงผิดกฎหมายแล้วลักลอบนำเข้าไปยังประเทศญี่ปุ่น เพราะยาฆ่าแมลงเมธามิโดฟอสที่พบปนเปื้อนในเกี๊ยวซ่านั้นเป็นสารที่ห้ามใช้ในญี่ปุ่น
ภายหลังเกิดเหตุจีนและญี่ปุ่นได้ตั้งคณะสืบสวนหาข้อเท็จจริงร่วมกัน และได้เข้าตรวจสอบโรงงานผลิตเกี๊ยวซ่าในมณฑลเหอเป่ย์ รวมทั้งสอบปากคำพนักงาน 55 คน แต่ก็ไม่พบสารเคมีที่เป็นอันตรายหรือการดำเนินงานที่ผิดปกติใดๆ นายอู๋ระบุว่า เจ้าหน้าที่จีนและญี่ปุ่นจะร่วมมือกันหาความจริงต่อไป
ขณะที่นายเหว่ย ชวนจ่ง รองผู้อำนวยการสํานักงานควบคุมคุณภาพและตรวจสอบกักกันโรคของจีน ระบุว่า กรณีที่เกิดขึ้นไม่ใช่ปัญหาความปลอดภัยด้านอาหาร แต่เป็นเจตนาก่ออาชญากรรมและไม่ควรตัดประเด็นที่อาจมีบุคคลจากประเทศอื่นซื้อยาฆ่าแมลงผิดกฎหมายแล้วลักลอบนำเข้าไปยังประเทศญี่ปุ่น เพราะยาฆ่าแมลงเมธามิโดฟอสที่พบปนเปื้อนในเกี๊ยวซ่านั้นเป็นสารที่ห้ามใช้ในญี่ปุ่น
ภายหลังเกิดเหตุจีนและญี่ปุ่นได้ตั้งคณะสืบสวนหาข้อเท็จจริงร่วมกัน และได้เข้าตรวจสอบโรงงานผลิตเกี๊ยวซ่าในมณฑลเหอเป่ย์ รวมทั้งสอบปากคำพนักงาน 55 คน แต่ก็ไม่พบสารเคมีที่เป็นอันตรายหรือการดำเนินงานที่ผิดปกติใดๆ นายอู๋ระบุว่า เจ้าหน้าที่จีนและญี่ปุ่นจะร่วมมือกันหาความจริงต่อไป