นายสรรเสริญ ปาลวัฒวิชัย ผู้บัญชาการสำนักคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยถึงความคืบหน้าการสอบสวนกรณีการจัดสร้างพระสมเด็จเหนือหัว ว่า ขณะนี้พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ได้สอบปากคำผู้เสียหายไปแล้วบางส่วนและได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตามจังหวัดต่างๆ เพื่อรับเรื่องราวร้องทุกข์จากผู้เสียหาย แต่ผู้เสียหายส่วนใหญ่ไม่ให้ความร่วมมือเท่าที่ควร ส่วนการสอบปากคำเจ้าอาวาสวัดที่รับปลุกเสกพระสมเด็จเหนือหัว ต่างให้การตรงกันว่าไม่ทราบรายละเอียดในการจัดสร้าง แค่เป็นผู้ให้เช่าสถานที่เพื่อทำการปลุกเสกพระเครื่องชุดนี้เท่านั้น อย่างไรก็ตาม หลักฐานที่ดีเอสไอรวบรวมได้ขณะนี้มากพอสมควรที่จะสามารถออกหมายเรียกผู้ที่เกี่ยวข้องกับการจัดสร้างพระสมเด็จนี้อีกประมาณ 2-3 ราย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ที่เกี่ยวข้องในธุรกิจของนายสิทธิกร บุญฉิม หรือ เสี่ยอู๊ด มารับทราบข้อกล่าวหาจากดีเอสไอ
สำหรับรายละเอียดเรื่องการนำดอกไม้พระราชทาน และตราสัญลักษณ์พระมหามงกุฎ มาประทับด้านหลังพระสมเด็จนั้น ขณะนี้มีความชัดเจนแล้วว่า คณะผู้จัดสร้างไม่ได้มีการขออนุญาตจากสำนักพระราชวัง ตามที่ลงในโฆษณาไว้ ซึ่งถือว่าเป็นการหมิ่นเบื้องสูง ดีเอสไอจะดำเนินการกับผู้ที่เกี่ยวข้องตามข้อหาความผิดต่อไป แต่ขอให้รวบรวมเอกสารต่างๆ ให้ครบก่อน ทั้งนี้ ในส่วนของพระวิสุทธาธิบดี เจ้าอาวาสวัดสุทัศน์ คาดว่าดีเอสไอจะดำเนินการเป็นขั้นตอนสุดท้ายหลังจากรวบรวมหลักฐานในคดีครบถ้วนแล้ว ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาอีกไม่เกิน 4 เดือน
สำหรับรายละเอียดเรื่องการนำดอกไม้พระราชทาน และตราสัญลักษณ์พระมหามงกุฎ มาประทับด้านหลังพระสมเด็จนั้น ขณะนี้มีความชัดเจนแล้วว่า คณะผู้จัดสร้างไม่ได้มีการขออนุญาตจากสำนักพระราชวัง ตามที่ลงในโฆษณาไว้ ซึ่งถือว่าเป็นการหมิ่นเบื้องสูง ดีเอสไอจะดำเนินการกับผู้ที่เกี่ยวข้องตามข้อหาความผิดต่อไป แต่ขอให้รวบรวมเอกสารต่างๆ ให้ครบก่อน ทั้งนี้ ในส่วนของพระวิสุทธาธิบดี เจ้าอาวาสวัดสุทัศน์ คาดว่าดีเอสไอจะดำเนินการเป็นขั้นตอนสุดท้ายหลังจากรวบรวมหลักฐานในคดีครบถ้วนแล้ว ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาอีกไม่เกิน 4 เดือน