หลังจากการเลือกตั้งล่วงหน้า คณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. รวบรวมผู้ออกไปใช้สิทธิ์ทั่วประเทศทั้งในเขตและนอกเขตเลือกตั้ง กว่า 1.1 ล้านคน แต่ยังน้อยกว่าที่ตั้งเป้าไว้มาก กกต.มุกดาหาร ยังคงเดินหน้าเร่งประชาสัมพันธ์โค้งสุดท้าย โดยได้ร่วมกับ อ.หนองสูง ขอความร่วมมือกำนัน ผู้ใหญ่บ้านทุกหมู่บ้าน ช่วยประชาสัมพันธ์ให้ชาวบ้านออกไปใช้สิทธิ์ ในวันที่ 2 มีนาคม ให้มาก รวมทั้งสอดส่องการทุจริตการเลือกตั้งด้วย เนื่องจากมีผู้สมัครมากถึง 11 คน อาจจะมีการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้งได้
ทางภาคตะวันออก การเลือกตั้ง ส.ว.ในหลายจังหวัด มีผู้ออกไปใช้สิทธิ์กันน้อย แต่ที่น่าผิดหวังคือ ผู้ที่แจ้งขอใช้สิทธิ์แต่ออกไปใช้สิทธิ์จริงน้อยมาก เช่น จ.ตราด แจ้งใช้สิทธิ์ไว้ 3,800 คน แต่ใช้สิทธิ์จริงเพียง 1,049 คน จ.ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง ปราจีนบุรี สระแก้ว และนครนายก มีผู้ไปใช้สิทธิ์น้อยกว่าครึ่งกับที่แจ้งไว้
สำหรับหีบบัตรเลือกตั้งล่วงหน้า เจ้าหน้าที่จากสำนักงานไปรษณีย์ไทย ทั่วประเทศ ไปรอรับเพื่อส่งไปตามจังหวัดต่างๆ โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจคอยดูแลให้ความเรียบร้อยทุกขั้นตอน เพื่อให้การเลือกตั้งในครั้งนี้เป็นไปด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรมง
ส่วนที่ จ.แม่ฮ่องสอน พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นภูเขา การเดินทางลำบากเป็นอุปสรรคต่อการหาเสียงของผู้สมัคร ส.ว. ทำให้ชาวเขาไม่ค่อยจะรู้จักหน้าผู้สมัคร จึงไม่ทราบจะเลือกใครในวันที่ 2 มีนาคม แต่จะออกไปเลือกตั้งแน่นอน ซึ่งปัญญานี้ กกต.แม่ฮ่องสอน ทราบดี จึงได้เร่งประชาสัมพันธ์โค้งสุดท้ายนี้ พร้อมกับขอความร่วมมือไปยังผู้สมัครให้ใช้รถแห่ออกหาเสียงมากขึ้น เพื่อให้ชาวบ้านรู้จึก และตื่นตัวออกไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งกัน
ด้าน กกต.อุตรดิตถ์ เปิดเวทีกลางให้ผู้สมัคร ส.ว.แสดงวิสัยทัศน์ จาก 6 คน มาร่วมเวทีจำนวน 4 คน ส่วนความตื่นตัวของประชาชนไม่ต่างจากพื้นที่อื่น คือให้ความสนใจน้อย ผู้สมัครจึงต้องใช้รถแห่หาเสียงเพิ่ม ส่วนผู้สมัครที่ถูก กกต.ตัดสิทธิ์ แต่ศาลฎีกามีคำสั่งให้เป็นผู้สมัคร ส.ว.อยู่ ต่างเร่งหาเสียงกันอย่างเต็มที่
ที่เวทีกลาง จ.เชียงใหม่ เปิดใจแสดงวิสัยทัศน์ เนื่องจากเป็นสนามเลือกตั้งใหญ่ มีผู้สมัครถึง 18 คน จึงได้รับความสนใจจากชาวเชียงใหม่พอสมควร ส่วนผู้สมัครที่ไม่ได้มาร่รวม เปิดเผยว่า ไม่ได้ไม่ให้ความร่วมมือ แต่มีตารางหาเสียงนัดหมายกับชาวบ้านไว้ก่อนหน้าแล้ว
ส่วนที่ จ.ยะลา ผู้สมัคร 3 คน ออกหาเสียงน้อยมาก ทั้งนี้อาจจะมาจากเป็นพื้นที่ประสบปัญหาความไม่สงบ ทำให้บางคนไม่กล้าออกหาเสียงหรือพบปะประชาชน โดยทางการควรเร่งสร้างความมั่นใจให้กับผู้สมัคร รวมทั้งประชาชนด้วยว่าจะได้รับความคุ้มครองดูแลด้านความปลอดภัย ไม่ต้องกังวล เพื่อหาเสียงได้อย่างเต็มที่
ทางภาคตะวันออก การเลือกตั้ง ส.ว.ในหลายจังหวัด มีผู้ออกไปใช้สิทธิ์กันน้อย แต่ที่น่าผิดหวังคือ ผู้ที่แจ้งขอใช้สิทธิ์แต่ออกไปใช้สิทธิ์จริงน้อยมาก เช่น จ.ตราด แจ้งใช้สิทธิ์ไว้ 3,800 คน แต่ใช้สิทธิ์จริงเพียง 1,049 คน จ.ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง ปราจีนบุรี สระแก้ว และนครนายก มีผู้ไปใช้สิทธิ์น้อยกว่าครึ่งกับที่แจ้งไว้
สำหรับหีบบัตรเลือกตั้งล่วงหน้า เจ้าหน้าที่จากสำนักงานไปรษณีย์ไทย ทั่วประเทศ ไปรอรับเพื่อส่งไปตามจังหวัดต่างๆ โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจคอยดูแลให้ความเรียบร้อยทุกขั้นตอน เพื่อให้การเลือกตั้งในครั้งนี้เป็นไปด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรมง
ส่วนที่ จ.แม่ฮ่องสอน พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นภูเขา การเดินทางลำบากเป็นอุปสรรคต่อการหาเสียงของผู้สมัคร ส.ว. ทำให้ชาวเขาไม่ค่อยจะรู้จักหน้าผู้สมัคร จึงไม่ทราบจะเลือกใครในวันที่ 2 มีนาคม แต่จะออกไปเลือกตั้งแน่นอน ซึ่งปัญญานี้ กกต.แม่ฮ่องสอน ทราบดี จึงได้เร่งประชาสัมพันธ์โค้งสุดท้ายนี้ พร้อมกับขอความร่วมมือไปยังผู้สมัครให้ใช้รถแห่ออกหาเสียงมากขึ้น เพื่อให้ชาวบ้านรู้จึก และตื่นตัวออกไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งกัน
ด้าน กกต.อุตรดิตถ์ เปิดเวทีกลางให้ผู้สมัคร ส.ว.แสดงวิสัยทัศน์ จาก 6 คน มาร่วมเวทีจำนวน 4 คน ส่วนความตื่นตัวของประชาชนไม่ต่างจากพื้นที่อื่น คือให้ความสนใจน้อย ผู้สมัครจึงต้องใช้รถแห่หาเสียงเพิ่ม ส่วนผู้สมัครที่ถูก กกต.ตัดสิทธิ์ แต่ศาลฎีกามีคำสั่งให้เป็นผู้สมัคร ส.ว.อยู่ ต่างเร่งหาเสียงกันอย่างเต็มที่
ที่เวทีกลาง จ.เชียงใหม่ เปิดใจแสดงวิสัยทัศน์ เนื่องจากเป็นสนามเลือกตั้งใหญ่ มีผู้สมัครถึง 18 คน จึงได้รับความสนใจจากชาวเชียงใหม่พอสมควร ส่วนผู้สมัครที่ไม่ได้มาร่รวม เปิดเผยว่า ไม่ได้ไม่ให้ความร่วมมือ แต่มีตารางหาเสียงนัดหมายกับชาวบ้านไว้ก่อนหน้าแล้ว
ส่วนที่ จ.ยะลา ผู้สมัคร 3 คน ออกหาเสียงน้อยมาก ทั้งนี้อาจจะมาจากเป็นพื้นที่ประสบปัญหาความไม่สงบ ทำให้บางคนไม่กล้าออกหาเสียงหรือพบปะประชาชน โดยทางการควรเร่งสร้างความมั่นใจให้กับผู้สมัคร รวมทั้งประชาชนด้วยว่าจะได้รับความคุ้มครองดูแลด้านความปลอดภัย ไม่ต้องกังวล เพื่อหาเสียงได้อย่างเต็มที่