นายแพทย์ธงชัย ตรีวิบูลย์วณิชย์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสุรินทร์ เปิดเผยว่า ในช่วงนี้สภาพอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย โดยเฉพาะอากาศที่หนาวเย็นและร้อน ทำให้ร่างกายปรับสภาพไม่ทันและป่วยเป็นโรคต่างๆ ได้ง่าย โดยเฉพาะโรคระบบทางเดินหายใจ ซึ่งช่วงนี้พบว่ามีผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ และปอดบวม ทั้งในเด็กและผู้สูงอายุเข้ารับการรักษาพยาบาลอยู่ในโรงพยาบาลสุรินทร์เป็นจำนวนมาก เนื่องจากเป็นโรคที่เกิดจากเชื้อไวรัส สามารถแพร่ระบาดติดต่อกันได้ง่าย โดยการหายใจเอาเชื้อที่กระจายอยู่ในอากาศ เชื้อเหล่านี้อยู่ในละอองเสมหะ น้ำมูก น้ำลายของผู้ป่วยที่ไอจามออกมา โดยอาการของไข้หวัดจะเริ่มด้วยการมีไข้สูง ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร น้ำมูกไหล ไอ จาม เจ็บคอ ส่วนผู้ป่วยที่เป็นไข้หวัดใหญ่ จะมีอาการรุนแรงกว่า คือ ตัวร้อนจัด หนาวสั่น ปวดศีรษะมาก ปวดตามกระดูก กล้ามเนื้อ และมักมีอาการคลื่นไส้ร่วมด้วย หากไม่ได้รับการดูแลรักษาที่ดีอาจเรื้อรังมีอาการแทรกซ้อน กลายเป็นหลอดลมอักเสบและปอดบวม ซึ่งเป็นอันตรายถึงชีวิตได้
ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสุรินทร์ กล่าวว่า หากได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง พักผ่อนอย่างเพียงพอ ผู้ป่วยจะหายจากโรคนี้ได้ภายใน 2-7 วัน ดังนั้นจึงขอเตือนให้ประชาชนได้ระมัดระวัง โดยการป้องกันและดูแลรักษาสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงอยู่เสมอ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ รักษาร่างกายให้อบอุ่น พักผ่อนให้เพียงพอ และควรหลีกเลี่ยงการเข้าไปอยู่ในสถานที่ที่มีคนแออัด ไม่ควรสัมผัสหรือคลุกคลีกับผู้ป่วย
ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสุรินทร์ กล่าวว่า หากได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง พักผ่อนอย่างเพียงพอ ผู้ป่วยจะหายจากโรคนี้ได้ภายใน 2-7 วัน ดังนั้นจึงขอเตือนให้ประชาชนได้ระมัดระวัง โดยการป้องกันและดูแลรักษาสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงอยู่เสมอ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ รักษาร่างกายให้อบอุ่น พักผ่อนให้เพียงพอ และควรหลีกเลี่ยงการเข้าไปอยู่ในสถานที่ที่มีคนแออัด ไม่ควรสัมผัสหรือคลุกคลีกับผู้ป่วย