สนช.อภิปรายกลางสภาฯ ค้านแนวคิดรัฐบาล ยกเลิกแอลซียา หวั่นอุ้มบริษัทข้ามชาติ สวนทางกับนโยบายของรัฐบาล ที่ต้องการให้ประชาชนทุกคนเข้าถึงระบบสาธารณสุขถ้วนหน้า
นพ. อำพล จินดาวัฒนะ สมาชิกนิติบัญญัญแห่งชาติ (สนช.) อภิปรายนโยบายรัฐบาล ตอนหนึ่งถึงนโยบายด้านสาธารณสุขถ้วนหน้า ว่า ไม่เห็นด้วยกับที่รัฐบาลมีแนวคิดจะยกเลิกซีแอลยา ซึ่งเรื่องการทำซีแอลยาเป็นการเปิดให้ประชาชนสามารถเข้าถึงยารักษาโรคที่มีราคาถูกได้ และการที่รัฐบาลทำเช่นนี้เหมือนกับรัฐบาลเข้าไปอุ้มบริษัทข้ามชาติ ถือเป็นการสวนทางกับนโยบายของรัฐบาล ที่ต้องการให้ประชาชนทุกคนเข้าถึงระบบสาธารณสุขถ้วนหน้าตามที่ประกาศไว้เป็นการทำลายโอกาสเข้าถึงยาราคาถูกของประชาชน
“การทำซีแอลยานั้น ไม่ถือเป็นเรื่องใหม่ ในหลายประเทศในโลกได้มีการทำซีแอลยา กันมานานแล้วโดยเฉพาะประเทศในกลุ่มเอเชีย ได้มีการซีแอลยาเช่นกัน ส่วนที่รัฐบาลจะยกเลิกซีแอลยา เพื่อไม่ให้กระทบต่อการกีดกันทางการค้าจากสหรัฐอเมริกา ซึ่งไม่เป็นความจริง การทำซีแอลยา ถือว่าทุกประเทศสามารถทำได้ และไม่ผิดกฎหมายและไม่ขัดต่อการค้า หากเราผลิตเพื่อช่วยเหลือคนภายในประเทศ โดยไม่มุ่งหวังการผลิตส่งขายเพื่อธุรกิจ” นพ.อำพล กล่าวด้วยว่า ส่วนกรณีที่สหรัฐฯ กีดกันทางการค้าไทยและจัดไทยอยู่ในกลุ่มประเทศที่ถูกตัดสิทธิ์และจับตามองเป็นพิเศษนั้น ขอยืนยันว่าเกิดขึ้นมาจากการละเมิดลิขสิทธิ์ทางการค้า ไม่เกี่ยวข้องกับการทำซีแอลยาแต่อย่างใด
นพ. อำพล จินดาวัฒนะ สมาชิกนิติบัญญัญแห่งชาติ (สนช.) อภิปรายนโยบายรัฐบาล ตอนหนึ่งถึงนโยบายด้านสาธารณสุขถ้วนหน้า ว่า ไม่เห็นด้วยกับที่รัฐบาลมีแนวคิดจะยกเลิกซีแอลยา ซึ่งเรื่องการทำซีแอลยาเป็นการเปิดให้ประชาชนสามารถเข้าถึงยารักษาโรคที่มีราคาถูกได้ และการที่รัฐบาลทำเช่นนี้เหมือนกับรัฐบาลเข้าไปอุ้มบริษัทข้ามชาติ ถือเป็นการสวนทางกับนโยบายของรัฐบาล ที่ต้องการให้ประชาชนทุกคนเข้าถึงระบบสาธารณสุขถ้วนหน้าตามที่ประกาศไว้เป็นการทำลายโอกาสเข้าถึงยาราคาถูกของประชาชน
“การทำซีแอลยานั้น ไม่ถือเป็นเรื่องใหม่ ในหลายประเทศในโลกได้มีการทำซีแอลยา กันมานานแล้วโดยเฉพาะประเทศในกลุ่มเอเชีย ได้มีการซีแอลยาเช่นกัน ส่วนที่รัฐบาลจะยกเลิกซีแอลยา เพื่อไม่ให้กระทบต่อการกีดกันทางการค้าจากสหรัฐอเมริกา ซึ่งไม่เป็นความจริง การทำซีแอลยา ถือว่าทุกประเทศสามารถทำได้ และไม่ผิดกฎหมายและไม่ขัดต่อการค้า หากเราผลิตเพื่อช่วยเหลือคนภายในประเทศ โดยไม่มุ่งหวังการผลิตส่งขายเพื่อธุรกิจ” นพ.อำพล กล่าวด้วยว่า ส่วนกรณีที่สหรัฐฯ กีดกันทางการค้าไทยและจัดไทยอยู่ในกลุ่มประเทศที่ถูกตัดสิทธิ์และจับตามองเป็นพิเศษนั้น ขอยืนยันว่าเกิดขึ้นมาจากการละเมิดลิขสิทธิ์ทางการค้า ไม่เกี่ยวข้องกับการทำซีแอลยาแต่อย่างใด
