ความเคลื่อนไหวที่รัฐสภาวันนี้ (18 ก.พ.) เวลา 09.30 น. จะมีการประชุมร่วมกันของรัฐสภาครั้งที่ 1 เพื่อรับฟังคำแถลงนโยบายของคณะรัฐมนตรีตามแนวทางนโยบายพื้นฐานแห่งรัฐ ตามมาตรา 146 ของรัฐธรรมนูญ โดยคำแถลงดังกล่าวมีความยาวรวมทั้งสิ้น 28 หน้า
ขณะที่ ส.ส.ของฝ่ายรัฐบาล ฝ่ายค้าน และสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ปฏิบัติหน้าที่แทนสมาชิกวุฒิสภา จะใช้สิทธิอภิปรายสนับสนุนท้วงติงและเสนอแนะ โดยเบื้องต้นกำหนดให้ใช้เวลา 3 วัน วันละประมาณ 10 ชั่วโมง ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้เวลา 4 ชั่วโมง ส.ส.ฝ่ายรัฐบาล 10 ชั่วโมง ฝ่ายค้าน 13 ชั่วโมง และ สนช. 9 ชั่วโมง แต่ทั้งนี้ ไม่มีจำกัดเวลาการอภิปรายของนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคฝ่ายค้าน และการอภิปรายจะไม่มีการลงมติไว้วางใจ อย่างไรก็ตาม ภายหลังผ่านการแถลงนโยบายแล้ว รัฐบาลจะสามารถเดินหน้าบริหารราชการแผ่นดินได้อย่างเต็มตัว
อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นทาง ส.ส.ฝ่ายค้านได้มีการวางตัวผู้อภิปรายไว้ถึง 50 คน โดยจะให้บทบาทความสำคัญกับคณะรัฐมนตรีเงา ที่มีการจัดตั้งขึ้น ขณะที่ ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลมีผู้อภิปราย 40 คน ส่วนสาระสำคัญของนโยบายของรัฐบาลมี 2 ด้าน คือ นโยบายที่ต้องทำภายใน 1 ปี มี 19 ด้าน โดยส่วนใหญ่เป็นเรื่องของการสานต่อโครงการประชานิยมและนโยบายหลัก ซึ่งทำใน 4 ปี มี 8 ด้าน
ขณะที่ ส.ส.ของฝ่ายรัฐบาล ฝ่ายค้าน และสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ปฏิบัติหน้าที่แทนสมาชิกวุฒิสภา จะใช้สิทธิอภิปรายสนับสนุนท้วงติงและเสนอแนะ โดยเบื้องต้นกำหนดให้ใช้เวลา 3 วัน วันละประมาณ 10 ชั่วโมง ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้เวลา 4 ชั่วโมง ส.ส.ฝ่ายรัฐบาล 10 ชั่วโมง ฝ่ายค้าน 13 ชั่วโมง และ สนช. 9 ชั่วโมง แต่ทั้งนี้ ไม่มีจำกัดเวลาการอภิปรายของนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคฝ่ายค้าน และการอภิปรายจะไม่มีการลงมติไว้วางใจ อย่างไรก็ตาม ภายหลังผ่านการแถลงนโยบายแล้ว รัฐบาลจะสามารถเดินหน้าบริหารราชการแผ่นดินได้อย่างเต็มตัว
อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นทาง ส.ส.ฝ่ายค้านได้มีการวางตัวผู้อภิปรายไว้ถึง 50 คน โดยจะให้บทบาทความสำคัญกับคณะรัฐมนตรีเงา ที่มีการจัดตั้งขึ้น ขณะที่ ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลมีผู้อภิปราย 40 คน ส่วนสาระสำคัญของนโยบายของรัฐบาลมี 2 ด้าน คือ นโยบายที่ต้องทำภายใน 1 ปี มี 19 ด้าน โดยส่วนใหญ่เป็นเรื่องของการสานต่อโครงการประชานิยมและนโยบายหลัก ซึ่งทำใน 4 ปี มี 8 ด้าน