นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะรัฐมนตรีสำนักนายกรัฐมนตรีเงา แถลงถึงกรณีที่นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ สนทนาประสาสมัคร โดยตำหนิสื่อที่เผยแพร่ข่าวการขึ้นเงินเดือนราชการส่งผลให้สินค้าราคาแพงว่า ในมาตรา 45 ส่วนที่ 7 ของรัฐธรรมนูญที่ว่าด้วยเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นของบุคคลและสื่อมวลชนในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยปี 2550 ระบุไว้ชัดเจนว่าการห้ามสื่อมวลชนเสนอข่าวสาร แสดงความคิดเห็นทั้งหมดหรือบางส่วน หรือการแทรกแซงด้วยวิธีการใดๆ เพื่อลิดรอนเสรีภาพตามมาตรานี้จะกระทำไม่ได้ ดังนั้น จึงขอเตือนนายกรัฐมนตรีว่าไม่ควรแสดงความคิดเห็นที่ส่อให้เห็นว่าขัดต่อเจตนารมณ์ตามรัฐธรรมนูญ และอยากให้นายกรัฐมนตรีเคารพการทำหน้าที่ของสื่อมวลชน
นายองอาจ ยังกล่าวถึงกรณีที่นายเจิมศักดิ์ ปิ่นทอง อดีต ส.ว.ยุติการจัดรายการมุมมองของเจิมศักดิ์ ทางสถานี 105 เมกะเฮิร์ตซ์ กรมประชาสัมพันธ์ ว่าได้มีความพยายามที่อธิบายจากนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องว่าไม่ได้มีส่วนเข้าไปเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ แต่ตนอยากจะตั้งข้อสังเกตในฐานะที่ติดตามตรวจสอบการทำงานด้านนี้ว่า การหยุดจัดรายการของนายเจิมศักดิ์ น่าจะเป็นการกระทำที่มีเบื้องหน้าเบื้องหลัง เพราะคงไม่มีผู้ดำเนินรายการวิทยุใดอยากจะหยุดจัดรายการที่ดำเนินมานานโดยไม่มีเหตุผล แม้ว่าจะไม่สามารถตรวจสอบได้ชัดเจนว่า มีการแทรกแซงจากบุคคล หรือคณะบุคคลใดหรือไม่ก็ตาม แต่การกระทำในลักษณะนี้ เชื่อว่าน่าจะมีการแทรกแซงจากผู้มีอำนาจ อาจจะทางตรงหรือทางอ้อมก็ตาม จึงคิดว่ารัฐบาลควรต้องระมัดระวังว่าจะไม่ดำเนินการใดๆ ในการเข้าไปแทรกแซงการทำหน้าที่ของสื่อมวลชน ไม่ว่าจะรูปแบบใดก็ตาม และควรเปิดโอกาสให้สื่อได้ทำหน้าที่ของตัวเองตามจรรยาบรรณอย่างเต็มที่ เพราะเมื่อใดก็ตาม ที่ผู้มีอำนาจเข้าไปแทรกแซงการทำงานของสื่อมวลชน จะเป็นจุดหรือบ่อเกิดของการนำไปสู่วิกฤตทางการเมืองของประเทศไทยเกือบทุกครั้งที่ผ่านมา ดังนั้น ในฐานะฝ่ายตรวจสอบติดตามการทำงานของรัฐบาล จึงขอท้วงติงไว้เบื้องต้นก่อนที่เหตุการณ์จะบานปลาย
นายองอาจ ยังกล่าวถึงกรณีที่นายเจิมศักดิ์ ปิ่นทอง อดีต ส.ว.ยุติการจัดรายการมุมมองของเจิมศักดิ์ ทางสถานี 105 เมกะเฮิร์ตซ์ กรมประชาสัมพันธ์ ว่าได้มีความพยายามที่อธิบายจากนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องว่าไม่ได้มีส่วนเข้าไปเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ แต่ตนอยากจะตั้งข้อสังเกตในฐานะที่ติดตามตรวจสอบการทำงานด้านนี้ว่า การหยุดจัดรายการของนายเจิมศักดิ์ น่าจะเป็นการกระทำที่มีเบื้องหน้าเบื้องหลัง เพราะคงไม่มีผู้ดำเนินรายการวิทยุใดอยากจะหยุดจัดรายการที่ดำเนินมานานโดยไม่มีเหตุผล แม้ว่าจะไม่สามารถตรวจสอบได้ชัดเจนว่า มีการแทรกแซงจากบุคคล หรือคณะบุคคลใดหรือไม่ก็ตาม แต่การกระทำในลักษณะนี้ เชื่อว่าน่าจะมีการแทรกแซงจากผู้มีอำนาจ อาจจะทางตรงหรือทางอ้อมก็ตาม จึงคิดว่ารัฐบาลควรต้องระมัดระวังว่าจะไม่ดำเนินการใดๆ ในการเข้าไปแทรกแซงการทำหน้าที่ของสื่อมวลชน ไม่ว่าจะรูปแบบใดก็ตาม และควรเปิดโอกาสให้สื่อได้ทำหน้าที่ของตัวเองตามจรรยาบรรณอย่างเต็มที่ เพราะเมื่อใดก็ตาม ที่ผู้มีอำนาจเข้าไปแทรกแซงการทำงานของสื่อมวลชน จะเป็นจุดหรือบ่อเกิดของการนำไปสู่วิกฤตทางการเมืองของประเทศไทยเกือบทุกครั้งที่ผ่านมา ดังนั้น ในฐานะฝ่ายตรวจสอบติดตามการทำงานของรัฐบาล จึงขอท้วงติงไว้เบื้องต้นก่อนที่เหตุการณ์จะบานปลาย