นายชินวัฒน์ หาบุญพาด นายกสมาคมพิทักษ์สิทธิประโยชน์ผู้ขับรถแท็กซี่ เปิดเผยภายหลังยื่นหนังสือต่อ น.ส.สุณีย์ เหลืองวิจิตร เลขานุการนายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ว่า ผู้ประกอบการรถแท็กซี่ได้รับความเดือดร้อนจากกรมการขนส่งทางบกบังคับให้ผู้ประกอบการชำระค่าบริการวิทยุสื่อสารกับศูนย์วิทยุ โดยผู้ประกอบการที่ไม่จ่ายค่าบริการจะไม่ผ่านการตรวจสอบสภาพรถ และไม่สามารถต่อทะเบียนเสียภาษีรถยนต์ประจำปีได้ ซึ่งปัจจุบันมีรถแท็กซี่ติดวิทยุสื่อสารประมาณ 80,000 คัน แต่ส่วนใหญ่ไม่ได้รับการบริการจากศูนย์วิทยุ ผู้ประกอบการจึงไม่จ่ายค่าบริการให้ศูนย์วิทยุ ซึ่งคิดเป็นเงินเดือนละประมาณ 300-500 บาทต่อคัน หรือเฉลี่ยปีละประมาณ 6,000 บาทต่อคัน
นายชินวัฒน์ ระบุว่า ผู้ประกอบการได้ยื่นฟ้องต่อศาลปกครองในเดือนธันวาคม 2548 โดยกรมการขนส่งทางบกได้แจ้งศาลปกครองว่าอนุญาตให้นำรถแท็กซี่มาตรวจสภาพและต่อทะเบียนได้ โดยไม่ต้องนำใบเสร็จรับเงินค่าใช้บริการมาแสดง แต่ปัจจุบันกรมการขนส่งทางบกบังคับให้แสดงใบเสร็จรับเงินค่าใช้บริการก่อน จึงจะตรวจสภาพและต่อทะเบียนให้ ส่งผลให้ผู้ประกอบการได้รับความเดือดร้อน
นอกจากนี้ ผู้ประกอบการบางรายเห็นว่าเมื่อไม่ได้ใช้ประโยชน์จากวิทยุสื่อสาร จึงไม่จ่ายค่าบริการมาเป็นเวลาหลายปี แต่ปัจจุบันกรมการขนส่งทางบกบังคับให้จ่ายค่าใช้บริการย้อนหลังทั้งหมด สมาคมฯ จึงขอให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม สั่งการไปยังกรมการขนส่งทางบก เพื่ออนุญาตให้ผู้ประกอบการตรวจสภาพรถ และต่อทะเบียนได้โดยไม่ต้องนำใบเสร็จค่าใช้บริการมาแสดง
นายชินวัฒน์ ระบุว่า ผู้ประกอบการได้ยื่นฟ้องต่อศาลปกครองในเดือนธันวาคม 2548 โดยกรมการขนส่งทางบกได้แจ้งศาลปกครองว่าอนุญาตให้นำรถแท็กซี่มาตรวจสภาพและต่อทะเบียนได้ โดยไม่ต้องนำใบเสร็จรับเงินค่าใช้บริการมาแสดง แต่ปัจจุบันกรมการขนส่งทางบกบังคับให้แสดงใบเสร็จรับเงินค่าใช้บริการก่อน จึงจะตรวจสภาพและต่อทะเบียนให้ ส่งผลให้ผู้ประกอบการได้รับความเดือดร้อน
นอกจากนี้ ผู้ประกอบการบางรายเห็นว่าเมื่อไม่ได้ใช้ประโยชน์จากวิทยุสื่อสาร จึงไม่จ่ายค่าบริการมาเป็นเวลาหลายปี แต่ปัจจุบันกรมการขนส่งทางบกบังคับให้จ่ายค่าใช้บริการย้อนหลังทั้งหมด สมาคมฯ จึงขอให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม สั่งการไปยังกรมการขนส่งทางบก เพื่ออนุญาตให้ผู้ประกอบการตรวจสภาพรถ และต่อทะเบียนได้โดยไม่ต้องนำใบเสร็จค่าใช้บริการมาแสดง