นายไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวระหว่างร่วมสัมมนาเตรียมการขับเคลื่อนสภาองค์กรชุมชน ตามร่างพระราชบัญญัติสภาองค์กรชุมชน ที่อยู่ระหว่างรอการประกาศในราชกิจจานุเบกษา โดยมีคณะทำงานเตรียมการขับเคลื่อนสภาองค์กรชุมชนและตัวแทนพื้นที่ปฏิบัติการนำร่องสภาองค์กรชุมชน 200 ตำบล เข้าร่วมสัมมนา ว่า ภาคประชาชนจะต้องเดินหน้าต่อไป โดยต้องสร้างความร่วมมือกับทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นชุมชนท้องถิ่น หน่วยงานรัฐ สถาบันการศึกษา ภาคีพัฒนา และฝ่ายการเมือง โดยการทำงานภาคประชาชนต้องมีความอิสระ พร้อมๆ ไปกับการเชื่อมประสานกับภายนอกอย่างสร้างสรรค์
ทั้งนี้ คณะทำงานเตรียมการขับเคลื่อนสภาองค์กรชุมชน ได้กำหนดตำบลนำร่องเพื่อจัดตั้งสภาองค์กรชุมชนจำนวน 200 ตำบล ประกอบด้วย ตำบลในเขตพื้นที่เชิงนโยบายที่มีสภาองค์กรชุมชนอยู่แล้ว และพื้นที่นำร่องซึ่งมีอยู่กว่า 190 ตำบลทั่วประเทศ รวมถึงพื้นที่ขยายอีกประมาณ 1,200 ตำบล ภายในปี 2551 เพื่อให้เกิดการบูรณาการแผนของสภาองค์กรชุมชนเข้ากับแผนการทำงานของหน่วยงานในท้องถิ่น
ทั้งนี้ คณะทำงานเตรียมการขับเคลื่อนสภาองค์กรชุมชน ได้กำหนดตำบลนำร่องเพื่อจัดตั้งสภาองค์กรชุมชนจำนวน 200 ตำบล ประกอบด้วย ตำบลในเขตพื้นที่เชิงนโยบายที่มีสภาองค์กรชุมชนอยู่แล้ว และพื้นที่นำร่องซึ่งมีอยู่กว่า 190 ตำบลทั่วประเทศ รวมถึงพื้นที่ขยายอีกประมาณ 1,200 ตำบล ภายในปี 2551 เพื่อให้เกิดการบูรณาการแผนของสภาองค์กรชุมชนเข้ากับแผนการทำงานของหน่วยงานในท้องถิ่น
