เมื่อเวลา 11.00 น. พ.ต.ท.สุชาติ สะอิ สารวัตรสอบสวน (สบ.3) สภ.ระแงะ พ.ท.ธนิต แสงจันทร์ รอง ผบ.ฉก.38 นำกำลัง ตำรวจ สภ.ระแงะ สนธิกำลังทหารชุดเฉพาะกิจที่ 38 กว่า 100 นาย เข้าปิดล้อมตรวจค้นภายในมัสยิดนูรดีน บ้านบาโงสะโต หมู่ 7 ตำบลบาโงสะโต อำเภอระแงะ หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ พบพิรุธกลุ่มวัยรุ่นในมัสยิดดังกล่าวประมาณ 6 คน พยายามวิ่งหลบหนีออกจากมัสยิดทางด้านหลังหนีเข้าป่า เจ้าหน้าที่จึงได้กระจายกำลังกันปิดล้อมไล่ล่าพร้อมกับขึ้นค้นภายในมัสยิด และเจ้าหน้าที่ถึงกับตะลึงเมื่อพบระเบิดแสวงเครื่องน้ำหนักประมาณ 5 กิโลกรัม จำนวน 5 ลูก ซุกซ่อนอยู่ใต้พื้นมัสยิด โดยระเบิดดังกล่าวใช้แผ่นเหล็กตัดมาเชื่อมประกอบกันเป็นกล่องสี่เหลี่ยมบรรจุวัตถุระเบิด เตรียมที่จะไปลอบวางจำนวน 5 ลูก นอกจากนี้ ยังพบกล่องเหล็กที่เชื่อมแล้วแต่ยังไม่บรรจุวัตถุระเบิดอีก 7 ลูก ใส่กระสอบซุกซ่อนอยู่ด้านข้างมัสยิด และแผ่นเหล็กขนาดยาว 1 เมตรกว้างครึ่งเมตร ซึ่งเหลือจากการตัดไปประกอบระเบิดแล้ว อีกทั้งยังพบวัสดุชิ้นส่วนประกอบระเบิดอีกจำนวนมาก ประกอบด้วย ดินระเบิด 2 แท่ง เชื้อปะทุ 9 อัน อุปกรณ์รีโมทคอนโทรลรถยนต์ 2 ชุด แบ็ตเตอรี่ขนาด 9 โวลต์ 3 ชุด สายไฟสีเขียวและสีขาวอย่างละ 1 ม้วน ลวด 1 ขด แผ่นกาวร้อน 2 โหลเครื่องเชื่อมเหล็ก 1 อัน และเครื่องตัดเหล็ก 1 อัน โดยอุปกรณ์ทั้งหมดถูกซุกซ่อนอยู่ในราวแขวนเสื้อผ้าของโต๊ะบิหลั่นซึ่งเป็นผู้ดูแล
มัสยิดแห่งนี้หลังการตรวจค้นได้ประสานทีมงานของแพทย์หญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ รักษาการผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม เพื่อตรวจสอบหลักฐานทั้งหมดและนำไปตรวจหาดีเอ็นเอ ภายหลังการตรวจสอบ แพทย์หญิงพรทิพย์ เปิดเผยว่า พบหลักฐานที่ยืนยันได้ว่ามือประกอบระเบิดชุดนี้เป็นมือประกอบระเบิดชุดเดียวกันที่ลอบวางระเบิดทหารเสียชีวิตล่าสุดที่ อ.จะแนะ จ.นราธิวาส จำนวน 8 นาย และยังเป็นมือประกอบระเบิดที่ก่อเหตุใน อ.ระแงะ รวมทั้งใน อ.บันนังสตา จ.ยะลา มาแล้วหลายคดี คาดว่าการตรวจสอบหลักฐานและดีเอ็นเออย่างละเอียดจะนำไปสู่การรู้ตัวและออกหมายจับมือประกอบระเบิดรายนี้ได้
นอกจากนี้ ในการตรวจค้นเจ้าหน้าที่ยังพบรถจักรยานยนต์ที่ถูกขโมยมาจาก อ.สุคิริน จ.นราธิวาส จอดอยู่ในบริเวณมัสยิด รวมทั้งพบเสาส่งสัญญาณวิทยุสื่อสารและวิทยุสื่อสารดักฟังคลื่นความถี่ของทางราชการติดตั้งอยู่บนหลังคามัสยิดดังกล่าว จึงตรวจยึดอุปกรณ์ทั้งหมดไปตรวจสอบด้วย
ทั้งนี้ จากข้อมูลของเจ้าหน้าที่ระบุว่าพื้นที่ดังกล่าว เป็นเขตเคลื่อนไหวของกลุ่มก่อความไม่สงบ เคยเกิดเหตุร้ายขึ้นบ่อยครั้ง โดยเฉพาะเหตุการณ์ทำร้ายครูจูหลิง ปงกันมูล เมื่อเดือนพฤษภาคม 2549 ซึ่งอยู่บริเวณใกล้เคียงกัน
มัสยิดแห่งนี้หลังการตรวจค้นได้ประสานทีมงานของแพทย์หญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ รักษาการผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม เพื่อตรวจสอบหลักฐานทั้งหมดและนำไปตรวจหาดีเอ็นเอ ภายหลังการตรวจสอบ แพทย์หญิงพรทิพย์ เปิดเผยว่า พบหลักฐานที่ยืนยันได้ว่ามือประกอบระเบิดชุดนี้เป็นมือประกอบระเบิดชุดเดียวกันที่ลอบวางระเบิดทหารเสียชีวิตล่าสุดที่ อ.จะแนะ จ.นราธิวาส จำนวน 8 นาย และยังเป็นมือประกอบระเบิดที่ก่อเหตุใน อ.ระแงะ รวมทั้งใน อ.บันนังสตา จ.ยะลา มาแล้วหลายคดี คาดว่าการตรวจสอบหลักฐานและดีเอ็นเออย่างละเอียดจะนำไปสู่การรู้ตัวและออกหมายจับมือประกอบระเบิดรายนี้ได้
นอกจากนี้ ในการตรวจค้นเจ้าหน้าที่ยังพบรถจักรยานยนต์ที่ถูกขโมยมาจาก อ.สุคิริน จ.นราธิวาส จอดอยู่ในบริเวณมัสยิด รวมทั้งพบเสาส่งสัญญาณวิทยุสื่อสารและวิทยุสื่อสารดักฟังคลื่นความถี่ของทางราชการติดตั้งอยู่บนหลังคามัสยิดดังกล่าว จึงตรวจยึดอุปกรณ์ทั้งหมดไปตรวจสอบด้วย
ทั้งนี้ จากข้อมูลของเจ้าหน้าที่ระบุว่าพื้นที่ดังกล่าว เป็นเขตเคลื่อนไหวของกลุ่มก่อความไม่สงบ เคยเกิดเหตุร้ายขึ้นบ่อยครั้ง โดยเฉพาะเหตุการณ์ทำร้ายครูจูหลิง ปงกันมูล เมื่อเดือนพฤษภาคม 2549 ซึ่งอยู่บริเวณใกล้เคียงกัน