นายแก้วสรร อติโพธิ กรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) กล่าวถึงกรณีที่ พล.อ.สนธิ บุณยรัตกลิน อดีตประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) เจรจากับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า เป็นเรื่องของ พล.อ.สนธิ ซึ่ง คตส.ไม่เห็นต้องหวั่นไหวอะไร เนื่องจากเข้ามาทำงานอาศัยอำนาจตามกฎหมายคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ตามปกติ ไม่ได้ทำเพราะ พล.อ.สนธิ หรืออาศัยอำนาจของ คมช.
ทั้งนี้ คตส.ไม่ใช่ศาลเตี้ย เพราะสรุปสำนวนส่งศาล เหมือนเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการยุติธรรมไม่ได้คิดกลั่นแกล้งใคร ซึ่งการดำเนินการต่างๆ ที่ผ่านมาไม่กระทบกับคดีที่ คตส.กำลังตรวจสอบอยู่ และขณะนี้กรรมการ คตส.ยังมีกำลังใจดีอยู่ เพราะเมื่อเข้ามารับงานตรงนี้ก็ต้องมีกำลังใจ จะไปฝากไว้ที่คนอื่นได้อย่างไร
นายแก้วสรร กล่าวด้วยว่า การประชุม คตส.วันที่ 4 กุมภาพันธ์นี้ จะมีวาระการพิจารณา คือ คดีการทุจริตจัดซื้อพันธุ์กล้ายางพารา 90 ล้านต้น ของกรมวิชาการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และคดีบ้านเอื้ออาทร โครงการร่มเกล้า-บางพลี สำหรับคดีกล่าวหา พ.ต.ท.ทักษิณ ใช้อำนาจหน้าที่เอื้อประโยชน์ให้กับครอบครัวและพวกพ้อง ที่มีข่าวว่าจะมีการขอเลื่อนการชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาออกไปนั้น ถ้าจะขอเลื่อนจริง ขอให้เขียนคำร้องพร้อมระบุเหตุผลอธิบาย ซึ่งการพิจารณาให้เลื่อนหรือไม่ ต้องดูว่าเลื่อนออกไปแล้วผู้ถูกกล่าวหาจะมีหลักฐานอะไรใหม่ๆ มาแก้ข้อกล่าวหาหรือไม่
อย่างไรก็ตาม ทั้ง 2 คดี คณะอนุกรรมการไต่สวน ได้สรุปสำนวนเสร็จแล้ว ซึ่งการเสนอให้ คตส.พิจารณาครั้งนี้ เพื่อให้ คตส.มีมติส่งสำนวนไปยังอัยการสูงสุด เพื่อส่งฟ้องต่อศาลต่อไป จึงถือว่า คตส.จะทำงานเสร็จสิ้นตามแผนที่กำหนดไว้เพิ่มอีก 2 คดี
ทั้งนี้ คตส.ไม่ใช่ศาลเตี้ย เพราะสรุปสำนวนส่งศาล เหมือนเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการยุติธรรมไม่ได้คิดกลั่นแกล้งใคร ซึ่งการดำเนินการต่างๆ ที่ผ่านมาไม่กระทบกับคดีที่ คตส.กำลังตรวจสอบอยู่ และขณะนี้กรรมการ คตส.ยังมีกำลังใจดีอยู่ เพราะเมื่อเข้ามารับงานตรงนี้ก็ต้องมีกำลังใจ จะไปฝากไว้ที่คนอื่นได้อย่างไร
นายแก้วสรร กล่าวด้วยว่า การประชุม คตส.วันที่ 4 กุมภาพันธ์นี้ จะมีวาระการพิจารณา คือ คดีการทุจริตจัดซื้อพันธุ์กล้ายางพารา 90 ล้านต้น ของกรมวิชาการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และคดีบ้านเอื้ออาทร โครงการร่มเกล้า-บางพลี สำหรับคดีกล่าวหา พ.ต.ท.ทักษิณ ใช้อำนาจหน้าที่เอื้อประโยชน์ให้กับครอบครัวและพวกพ้อง ที่มีข่าวว่าจะมีการขอเลื่อนการชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาออกไปนั้น ถ้าจะขอเลื่อนจริง ขอให้เขียนคำร้องพร้อมระบุเหตุผลอธิบาย ซึ่งการพิจารณาให้เลื่อนหรือไม่ ต้องดูว่าเลื่อนออกไปแล้วผู้ถูกกล่าวหาจะมีหลักฐานอะไรใหม่ๆ มาแก้ข้อกล่าวหาหรือไม่
อย่างไรก็ตาม ทั้ง 2 คดี คณะอนุกรรมการไต่สวน ได้สรุปสำนวนเสร็จแล้ว ซึ่งการเสนอให้ คตส.พิจารณาครั้งนี้ เพื่อให้ คตส.มีมติส่งสำนวนไปยังอัยการสูงสุด เพื่อส่งฟ้องต่อศาลต่อไป จึงถือว่า คตส.จะทำงานเสร็จสิ้นตามแผนที่กำหนดไว้เพิ่มอีก 2 คดี