นายยงยุทธ ติยะไพรัช ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีมีการมองว่าการเดินทางไปร่วมประชุมกับ ส.ส.กทม.พรรคพลังประชาชน ที่โรงแรมเอสซีปาร์ค ไม่เหมาะสม เพราะประกาศว่าจะวางตัวเป็นกลางทางการเมือง ว่า เป็นการเล่าสถานการณ์ที่สมาชิกสนใจในสถานภาพของตนที่ยังมีเรื่องค้างอยู่ใน กกต. ซึ่งได้แจ้งกับสื่อมวลชนว่า เป็นการรับรู้กันภายใน เหมือนเป็นการเล่าเรื่องให้คนในครอบครัวฟัง แต่บังเอิญเป็นข่าวออกไปข้างนอก จึงกลายเป็นเรื่องราวใหญ่โต
ส่วนที่เคยให้สัมภาษณ์ว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับกิจกรรมการเมืองของพรรค นายยงยุทธ กล่าวว่า ได้พูดไปแล้วว่าความเป็นพี่เป็นน้อง ญาติมิตร ความเป็นสมาชิกไม่สามารถตัดขาดได้ ทั้งนี้ กรรมจะเป็นเครื่องชี้เจตนาเองว่าตนเป็นกลางหรือไม่ ขอให้เป็นไปตามธรรมชาติ อย่าไปฝืนธรรมชาติที่จริงอยากให้สังคมวัฒนธรรมการรับรู้ อย่าไปหลอกกัน และขอให้มีความเชื่อมั่นว่าตนจะทำหน้าที่อย่างเป็นกลาง บางคนอยู่กันคนละพรรค เมื่อกลับถึงบ้านความเป็นพี่น้องก็ยังอยู่
ส่วนที่เคยให้สัมภาษณ์ว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับกิจกรรมการเมืองของพรรค นายยงยุทธ กล่าวว่า ได้พูดไปแล้วว่าความเป็นพี่เป็นน้อง ญาติมิตร ความเป็นสมาชิกไม่สามารถตัดขาดได้ ทั้งนี้ กรรมจะเป็นเครื่องชี้เจตนาเองว่าตนเป็นกลางหรือไม่ ขอให้เป็นไปตามธรรมชาติ อย่าไปฝืนธรรมชาติที่จริงอยากให้สังคมวัฒนธรรมการรับรู้ อย่าไปหลอกกัน และขอให้มีความเชื่อมั่นว่าตนจะทำหน้าที่อย่างเป็นกลาง บางคนอยู่กันคนละพรรค เมื่อกลับถึงบ้านความเป็นพี่น้องก็ยังอยู่