นายประมนต์ สุธีวงศ์ ประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า แม้ขณะนี้การเมืองของไทยจะก้าวหน้าไปอีกระดับ หลังการเลือกนายกรัฐมนตรีคนที่ 25 ได้แล้ว แต่สิ่งที่เอกชนอยากเห็น คือ ควรมีคณะรัฐมนตรีโดยเฉพาะทีมเศรษฐกิจโดยเร็ว เพื่อเข้ามาแก้ไขปัญหา และเร่งสร้างความมั่นใจให้เกิดการค้า การลงทุนที่ชะลอลงมาก่อนหน้านี้ โดยหากได้ทีมเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง น่าเชื่อถือ ก็น่าจะทำให้นักลงทุนต่างชาติกลับเข้ามาลงทุนในไทย เพราะในปีนี้การส่งออกคงขยายตัวได้ไม่มากนัก ดังนั้น เมื่อรัฐบาลใหม่เข้ามาจะต้องหามาตรการกระตุ้นและขับเคลื่อนเศรษฐกิจไปข้างหน้าโดยเร็ว
โดยก่อนหน้านี้หอการค้าไทยเคยเสนอแนวคิด โดยเฉพาะการอัดฉีดงบประมาณเข้าสู่ระบบ โดยการทำงบประมาณขาดดุลเพิ่มเติมกว่า 80,000 ล้านบาท แบ่งเป็น 2 ส่วน คือ 40,000 ล้านบาท อัดฉีดในชนบท และที่เหลือใช้ชดเชยผู้มีรายได้น้อย เช่น การยกเว้นภาษีชั่วคราวให้ผู้มีรายได้น้อย แต่สิ่งที่กังวลใจ คือ การที่พรรคพลังประชาชนจะใช้นโยบายประชานิยม เช่น กองทุนหมู่บ้าน เนื่องจากอาจจะทำให้เกิดความเคยชินในการรอความช่วยเหลือจากรัฐบาล และสิ่งที่หวังในปีนี้ คือ เศรษฐกิจไทยจะต้องเติบโตไม่น้อยกว่าร้อยละ 5
โดยก่อนหน้านี้หอการค้าไทยเคยเสนอแนวคิด โดยเฉพาะการอัดฉีดงบประมาณเข้าสู่ระบบ โดยการทำงบประมาณขาดดุลเพิ่มเติมกว่า 80,000 ล้านบาท แบ่งเป็น 2 ส่วน คือ 40,000 ล้านบาท อัดฉีดในชนบท และที่เหลือใช้ชดเชยผู้มีรายได้น้อย เช่น การยกเว้นภาษีชั่วคราวให้ผู้มีรายได้น้อย แต่สิ่งที่กังวลใจ คือ การที่พรรคพลังประชาชนจะใช้นโยบายประชานิยม เช่น กองทุนหมู่บ้าน เนื่องจากอาจจะทำให้เกิดความเคยชินในการรอความช่วยเหลือจากรัฐบาล และสิ่งที่หวังในปีนี้ คือ เศรษฐกิจไทยจะต้องเติบโตไม่น้อยกว่าร้อยละ 5
