การประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อคัดเลือกนายกรัฐมนตรี เริ่มต้นในเวลาประมาณ 09.40 น. โดยเลขาธิการรัฐสภา อ่านพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งประธาน และรองประธานสภาผู้แทนราษฎร จากนั้นนายชัย ชิดชอบ ประธานชั่วคราวในที่ประชุม ได้เชิญนายยงยุทธ ติยะไพรัช ขึ้นทำหน้าที่ประธานสภาผู้แทนราษฎร และประธานในที่ประชุม ซึ่งนายยงยุทธ ได้เชิญที่ประชุมให้ยืนถวายความไว้อาลัยแด่สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์
จากนั้น นายแพทย์สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี ส.ส.พรรคพลังประชาชน เสนอชื่อนายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคฯ เป็นนายกรัฐมนตรี แต่นายชำนิ ศักดิเศรษฐ์ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ได้เสนอว่า ควรให้ผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรี ได้แสดงวิสัยทัศน์ และให้สมาชิกสามารถอภิปรายและซักถามผู้ถูกเสนอชื่อได้ ทำให้พรรคร่วมรัฐบาลได้ลุกขึ้นอภิปรายคัดค้านกันหลายคน และกว่าจะตกลงกันได้ต้องใช้เวลาเกือบ 2 ชั่วโมง จนในที่สุดต้องใช้วิธีโหวตให้ยุติการอภิปรายด้วยคะแนนเสียง 300 เสียง ปรากฏว่าไม่เห็นด้วย 154 เสียง งดออกเสียง 5 และไม่ลงคะแนน 1
จากนั้น นายแพทย์สุรพงษ์ ได้เสนอชื่อนายสมัคร อีกครั้ง ขณะที่นายบัญญัติ บรรทัดฐาน ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ก็ได้ลุกขึ้นเสนอชื่อนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ส่วนข้อเสนอที่จะให้ผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีแสดงวิสัยทัศน์นั้น ได้มีการโหวตกันอีกครั้ง โดยที่ประชุมเห็นด้วย 145 เสียง และไม่เห็นด้วย 306 เสียง ไม่ออกเสียง 5 เสียง เป็นอันว่าไม่เห็นด้วยที่จะให้มีการอภิปรายคุณสมบัติ จากนั้นจึงมีการลงมติเลือกนายกรัฐมนตรีตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 172 ที่กำหนดให้มีการออกเสียงโดยเปิดเผย ซึ่งประธานใช้วิธีขานชื่อทีละคนตามลำดับตัวอักษร สอดคล้องกับมติของพรรคพลังประชาชน
จากนั้น นายแพทย์สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี ส.ส.พรรคพลังประชาชน เสนอชื่อนายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคฯ เป็นนายกรัฐมนตรี แต่นายชำนิ ศักดิเศรษฐ์ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ได้เสนอว่า ควรให้ผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรี ได้แสดงวิสัยทัศน์ และให้สมาชิกสามารถอภิปรายและซักถามผู้ถูกเสนอชื่อได้ ทำให้พรรคร่วมรัฐบาลได้ลุกขึ้นอภิปรายคัดค้านกันหลายคน และกว่าจะตกลงกันได้ต้องใช้เวลาเกือบ 2 ชั่วโมง จนในที่สุดต้องใช้วิธีโหวตให้ยุติการอภิปรายด้วยคะแนนเสียง 300 เสียง ปรากฏว่าไม่เห็นด้วย 154 เสียง งดออกเสียง 5 และไม่ลงคะแนน 1
จากนั้น นายแพทย์สุรพงษ์ ได้เสนอชื่อนายสมัคร อีกครั้ง ขณะที่นายบัญญัติ บรรทัดฐาน ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ก็ได้ลุกขึ้นเสนอชื่อนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ส่วนข้อเสนอที่จะให้ผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีแสดงวิสัยทัศน์นั้น ได้มีการโหวตกันอีกครั้ง โดยที่ประชุมเห็นด้วย 145 เสียง และไม่เห็นด้วย 306 เสียง ไม่ออกเสียง 5 เสียง เป็นอันว่าไม่เห็นด้วยที่จะให้มีการอภิปรายคุณสมบัติ จากนั้นจึงมีการลงมติเลือกนายกรัฐมนตรีตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 172 ที่กำหนดให้มีการออกเสียงโดยเปิดเผย ซึ่งประธานใช้วิธีขานชื่อทีละคนตามลำดับตัวอักษร สอดคล้องกับมติของพรรคพลังประชาชน