นพ.พลเดช ปิ่นประทีป รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) กล่าวถึงคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง นายวัลลภ พลอยทับทิม อดีตปลัด พม. กรณีปัญหาการทุจริตในสำนักงานธนานุเคราะห์ ที่นายกรัฐมนตรีตั้งขึ้นว่า ไม่ได้กำหนดกรอบระยะเวลาในการสอบไว้ ระบุแต่เพียงว่าให้ดำเนินการโดยเร็วที่สุด
ส่วนกรณีที่หลายฝ่ายกังวลว่ารัฐบาลใหม่จะเข้าไปแทรกแซงการทำงาน หรืออาจเปลี่ยนแปลงตัวคณะกรรมการนั้น นพ.พลเดช กล่าวว่า โดยมารยาทแล้วไม่ควรทำเช่นนั้น น่าจะปล่อยให้คณะกรรมการชุดดังกล่าวได้เดินหน้าทำงานไปตามกลไกอย่างอิสระ ไม่เช่นนั้นรัฐบาลใหม่อาจถูกครหาได้ว่าใช้อำนาจก้าวก่ายในทางมิชอบได้
นพ.พลเดช ยังชี้แจงถึงเหตุผลที่มีการตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรงเฉพาะปัญหาการทุจริตในสำนักงานธนานุเคราะห์ว่า เนื่องจากเป็นประเด็นเดียวใน 6 ประเด็นที่เข้าข่ายกระทำผิดวินัยร้ายแรง ส่วน 5 ประเด็นที่เหลือ ทั้งการทุจริตเงินบริจาค ที่ดินนิคมสร้างตนเอง และพฤติกรรมเชิงชู้สาวนั้นเข้าข่ายผิดวินัยแต่ไม่ร้ายแรง โดยคณะกรรมการชุดนี้จะได้สอบต่อไป หากพบว่าเข้าข่ายผิดวินัยร้ายแรงในประเด็นเหล่านี้ หรือมีข้าราชการคนอื่นเกี่ยวข้อง ก็สามารถเสนอให้สอบวินัยร้ายแรงเพิ่มเติมได้
ส่วนกรณีที่หลายฝ่ายกังวลว่ารัฐบาลใหม่จะเข้าไปแทรกแซงการทำงาน หรืออาจเปลี่ยนแปลงตัวคณะกรรมการนั้น นพ.พลเดช กล่าวว่า โดยมารยาทแล้วไม่ควรทำเช่นนั้น น่าจะปล่อยให้คณะกรรมการชุดดังกล่าวได้เดินหน้าทำงานไปตามกลไกอย่างอิสระ ไม่เช่นนั้นรัฐบาลใหม่อาจถูกครหาได้ว่าใช้อำนาจก้าวก่ายในทางมิชอบได้
นพ.พลเดช ยังชี้แจงถึงเหตุผลที่มีการตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรงเฉพาะปัญหาการทุจริตในสำนักงานธนานุเคราะห์ว่า เนื่องจากเป็นประเด็นเดียวใน 6 ประเด็นที่เข้าข่ายกระทำผิดวินัยร้ายแรง ส่วน 5 ประเด็นที่เหลือ ทั้งการทุจริตเงินบริจาค ที่ดินนิคมสร้างตนเอง และพฤติกรรมเชิงชู้สาวนั้นเข้าข่ายผิดวินัยแต่ไม่ร้ายแรง โดยคณะกรรมการชุดนี้จะได้สอบต่อไป หากพบว่าเข้าข่ายผิดวินัยร้ายแรงในประเด็นเหล่านี้ หรือมีข้าราชการคนอื่นเกี่ยวข้อง ก็สามารถเสนอให้สอบวินัยร้ายแรงเพิ่มเติมได้
