นายสันติ วิลาสศักดานนท์ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า ตามที่มีการรวมตัวของพรรคการเมืองที่จะจัดตั้งรัฐบาลใหม่ขึ้นมาบริหารประเทศภายใต้ระบอบประชาธิปไตยนั้น ภาคเอกชนอยากจะเห็นการทำงานสมานฉันท์กันและกัน ที่สำคัญกระทรวงเศรษฐกิจจะต้องทำงานสอดประสานในทิศทางเดียวกัน และควรจัดลำดับความสำคัญและความเร่งด่วนในการบริหารเศรษฐกิจและแก้ไขปัญหา เช่น เรื่องปัญหาปากท้องของประชาชนเป็นเรื่องเร่งด่วนที่ต้องได้รับการแก้ไข เช่น ปัญหาราคาน้ำมันแพง เป็นต้น ส่วนภาคเอกชน จะมีการประชุมในวันศุกร์ที่จะถึงนี้ เพื่อสรุปประเด็นเศรษฐกิจต่างๆ ที่ต้องการให้ภาครัฐใหม่เข้ามาช่วยเหลือต่อไป
สำหรับบุคคลที่จะเข้ามานั่งทำงานในตำแหน่งรัฐมนตรีเศรษฐกิจ โดยเฉพาะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เจ้ากระทรวงอาจได้บุคคลที่มีความเชี่ยวชาญน้อย ก็สามารถที่จะหาทีมงานที่ปรึกษาที่มีความรู้ความสามารถ ในการวางแผนแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจเข้ามาช่วยงานได้ และทีมงานต้องได้รับการยอมรับ มีประสบการณ์ จะทำให้ความมั่นใจของภาคประชาชนเอกชนมีต่อรัฐบาลสูงขึ้น และภายหลังมีการจัดตั้งคณะรัฐมนตรีขึ้นมาแล้ว ภาคเอกชนก็พร้อมที่จะทำงานด้วยอยู่แล้ว และหากงานหรือโครงการใดที่ประสบผลสำเร็จ ไม่ว่าจากรัฐบาลปัจจุบันหรือรัฐบาลก่อนหน้านี้ ก็ขอให้สานต่อโครงการนั้นๆ ต่อไป ทำให้รัฐบาลใหม่ไม่ต้องเสียเวลา ซึ่งขณะนี้แต่ละกระทรวงก็มีแนวทางในการบริหารงานอยู่แล้ว
ทั้งนี้ ภาคเอกชนต้องการเห็นการทำงานของรัฐบาล บริหารเศรษฐกิจของประเทศในลักษณะส่งเสริมควบคู่กันไประหว่างเศรษฐกิจในประเทศ และการส่งออกสินค้าไปขายต่างประเทศ จากที่ผ่านมาเศรษฐกิจต่างประเทศคือ การส่งออกสินค้าเติบโตมากกว่าเศรษฐกิจในประเทศ อย่างไรก็ตาม เชื่อว่า ปีนี้เศรษฐกิจไทยแม้จะมีหลายปัจจัยเข้ามากระทบ และเกื้อหนุนเศรษฐกิจไทยก็จะยังคงเติบโตได้ในระดับร้อยละ 4.5
สำหรับบุคคลที่จะเข้ามานั่งทำงานในตำแหน่งรัฐมนตรีเศรษฐกิจ โดยเฉพาะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เจ้ากระทรวงอาจได้บุคคลที่มีความเชี่ยวชาญน้อย ก็สามารถที่จะหาทีมงานที่ปรึกษาที่มีความรู้ความสามารถ ในการวางแผนแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจเข้ามาช่วยงานได้ และทีมงานต้องได้รับการยอมรับ มีประสบการณ์ จะทำให้ความมั่นใจของภาคประชาชนเอกชนมีต่อรัฐบาลสูงขึ้น และภายหลังมีการจัดตั้งคณะรัฐมนตรีขึ้นมาแล้ว ภาคเอกชนก็พร้อมที่จะทำงานด้วยอยู่แล้ว และหากงานหรือโครงการใดที่ประสบผลสำเร็จ ไม่ว่าจากรัฐบาลปัจจุบันหรือรัฐบาลก่อนหน้านี้ ก็ขอให้สานต่อโครงการนั้นๆ ต่อไป ทำให้รัฐบาลใหม่ไม่ต้องเสียเวลา ซึ่งขณะนี้แต่ละกระทรวงก็มีแนวทางในการบริหารงานอยู่แล้ว
ทั้งนี้ ภาคเอกชนต้องการเห็นการทำงานของรัฐบาล บริหารเศรษฐกิจของประเทศในลักษณะส่งเสริมควบคู่กันไประหว่างเศรษฐกิจในประเทศ และการส่งออกสินค้าไปขายต่างประเทศ จากที่ผ่านมาเศรษฐกิจต่างประเทศคือ การส่งออกสินค้าเติบโตมากกว่าเศรษฐกิจในประเทศ อย่างไรก็ตาม เชื่อว่า ปีนี้เศรษฐกิจไทยแม้จะมีหลายปัจจัยเข้ามากระทบ และเกื้อหนุนเศรษฐกิจไทยก็จะยังคงเติบโตได้ในระดับร้อยละ 4.5