พล.ต.ท.รชต เย็นทรวง ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ปล่อยแถวตำรวจ กว่า 100 นาย ที่หน้ากองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อออกไล่ล่า นายอัครพล สำเภา หรือแบงก์ อายุ 22 ปี และ นายมงคล ยาตาล หรือ หมง อายุ 20 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับร่วมกันฆ่าเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่ และคดีตามหมายจับอีกหลายคดี ทั้งนี้ มีกลุ่มรถจักรยานยนต์รับจ้าง เจ้าหน้าที่มูลนิธิ และตำรวจชุมชนอีกกว่า 500 คน เข้าร่วมด้วย เพื่อทำหน้าที่แทรกซึมหาข่าวให้ตำรวจ โดยได้มีการแจกจ่ายเอกสารหมายจับผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ตามชุมชนทั่วเขตจังหวัด ซึ่งปัจจุบันถึงจะแม้พลิกแผ่นดินล่าผู้ต้องหาตามหมายจับ 2 ราย ที่ร่วมกันก่อเหตุฆ่า ส.ต.ต.ศิลา แหวนเงิน จ.ส.ต.ปรีดา จ้อยจุฑา และ ด.ต.โกสินทร์ มั่นพรหม ตำรวจชุดสืบสวนสถานีตำรวจภูธรพระนครศรีอยุธยา เมื่อวันที่ 31 ธันวาคมที่ผ่านมา แต่ถึงปัจจุบันตำรวจยังไม่สามารถติดตามจับกุมได้
ทั้งนี้ หลังจากที่ประกาศตั้งเงินรางวัลนำจับ 500,000 บาท ปรากฏว่ามีประชาชนแจ้งเบาะแสเข้ามาจำนวนมากโดยตำรวจเข้าตรวจค้นปูพรมทุกวัน โดยล่าสุดเมื่อเช้าปูพรหมค้น 10 จุดทั่วจังหวัดแต่ยังไม่พบเป้าหมาย และล่าสุด มีการทำป้ายประกาศขนาดใหญ่เท่าไม้อัด 1 แผ่น จำนวนมาก ออกปิดประกาศติดตั้งตามชุมชนและถนนสายสำคัญทั่วจังหวัด ขณะที่มีการถ่ายเอกสารประกาศจับติดตามชุมชนต่างๆกว่า1,400ชุมชนทั่วจังหวัดแล้วเช่นกัน
พล.ต.ท.รชต เย็นทรวง ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค1 กล่าวว่า นอกจากนายอัครพล จะฆ่านายตำรวจเสียชีวิต 3 นาย แล้วในขณะนี้กำลังสืบสวนสอบสวนเพื่อขยายผลพฤติกรรมของนายอัครพล เพราะมีหลักฐานบางอย่างที่อาจเชื่อมโยงได้ว่าอาจเป็นผู้ลงมือฆ่า พ.ต.ต.กิตติศักดิ์ สถิตพานิช สารวัตรป้องกันและปราบปรามสถานีตำรวจภูธรอำเภออุทัย เมื่อกลางดึกคืนวันที่ 10 สิงหาคม 2549 ซึ่งปัจจุบันยังไม่สามารถทราบว่าใครเป็นคนยิงและยังไม่สามารถจับคนร้ายได้ ทั้งนี้ที่ตั้งสมมุติฐานในลักษณะนี้ เพราะทั้ง 2 คดี คนร้ายใช้อาวุธก่อเหตุชนิดเดียวกัน และเส้นทางที่เกิดเหตุ ฆ่าสารวัตรป้องกันและปราบปรามสถานีตำรวจภูธรอำเภออุทัย(สวป.)นั้น ก็เป็นเส้นทางที่นายแบงก์เคลื่อนไหวอยู่เช่นกัน อีกทั้งพฤติกรรมการก่อเหตุที่รุนแรงไม่เกรงกลัวตำรวจและต่อกฎหมายนั้นเป็นสิ่งที่ทำให้หลายฝ่ายคิด และทางตำรวจกำลังดำเนินการสืบสวนสอบสวนเชื่อมโยงหาว่าข้อเท็จจริงนั้นการสังหารสวป.นั้นนายแบงก์เป็นคนก่อเหตุด้วยหรือไม่
ทั้งนี้ หลังจากที่ประกาศตั้งเงินรางวัลนำจับ 500,000 บาท ปรากฏว่ามีประชาชนแจ้งเบาะแสเข้ามาจำนวนมากโดยตำรวจเข้าตรวจค้นปูพรมทุกวัน โดยล่าสุดเมื่อเช้าปูพรหมค้น 10 จุดทั่วจังหวัดแต่ยังไม่พบเป้าหมาย และล่าสุด มีการทำป้ายประกาศขนาดใหญ่เท่าไม้อัด 1 แผ่น จำนวนมาก ออกปิดประกาศติดตั้งตามชุมชนและถนนสายสำคัญทั่วจังหวัด ขณะที่มีการถ่ายเอกสารประกาศจับติดตามชุมชนต่างๆกว่า1,400ชุมชนทั่วจังหวัดแล้วเช่นกัน
พล.ต.ท.รชต เย็นทรวง ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค1 กล่าวว่า นอกจากนายอัครพล จะฆ่านายตำรวจเสียชีวิต 3 นาย แล้วในขณะนี้กำลังสืบสวนสอบสวนเพื่อขยายผลพฤติกรรมของนายอัครพล เพราะมีหลักฐานบางอย่างที่อาจเชื่อมโยงได้ว่าอาจเป็นผู้ลงมือฆ่า พ.ต.ต.กิตติศักดิ์ สถิตพานิช สารวัตรป้องกันและปราบปรามสถานีตำรวจภูธรอำเภออุทัย เมื่อกลางดึกคืนวันที่ 10 สิงหาคม 2549 ซึ่งปัจจุบันยังไม่สามารถทราบว่าใครเป็นคนยิงและยังไม่สามารถจับคนร้ายได้ ทั้งนี้ที่ตั้งสมมุติฐานในลักษณะนี้ เพราะทั้ง 2 คดี คนร้ายใช้อาวุธก่อเหตุชนิดเดียวกัน และเส้นทางที่เกิดเหตุ ฆ่าสารวัตรป้องกันและปราบปรามสถานีตำรวจภูธรอำเภออุทัย(สวป.)นั้น ก็เป็นเส้นทางที่นายแบงก์เคลื่อนไหวอยู่เช่นกัน อีกทั้งพฤติกรรมการก่อเหตุที่รุนแรงไม่เกรงกลัวตำรวจและต่อกฎหมายนั้นเป็นสิ่งที่ทำให้หลายฝ่ายคิด และทางตำรวจกำลังดำเนินการสืบสวนสอบสวนเชื่อมโยงหาว่าข้อเท็จจริงนั้นการสังหารสวป.นั้นนายแบงก์เป็นคนก่อเหตุด้วยหรือไม่