นายแพทย์มงคล ณ สงขลา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดโครงการ "ยืดอก พกถุง" ที่ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากกองทุนโลกเพื่อการต่อสู้กับโรคเอดส์ เพื่อรณรงค์สร้างทัศนคติให้คนไทยและเยาวชนให้กล้าซื้อถุงยางอนามัย สำหรับพกติดตัว และใช้ทุกครั้งเมื่อมีเพศสัมพันธ์ เป็นการป้องกันเชื้อโรคที่ติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ขณะนี้สังคมไทยกำลังเผชิญกับปัญหากลุ่มวัยรุ่นที่มีเพศสัมพันธ์เร็วขึ้น ทำให้เกิดปัญหาต่างๆ ตามมามากมาย เช่น การติดเชื้อเอชไอวี การตั้งครรภ์ที่ไม่พึงประสงค์ การทำแท้ง โดยคาดการณ์ว่าในปีที่ผ่านมา มีผู้ติดเชื้อเอชไอวีรายใหม่ประมาณ 16,000 ราย และ 1 ใน 3 เป็นเยาวชนหญิง และแม่บ้านที่ติดเชื้อจากสามี ส่วนสาเหตุที่เยาวชนติดเชื้อเอชไอวีมากขึ้น เนื่องจากมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกัน การสอนเรื่องเพศศึกษายังไม่ครอบคลุม และพ่อแม่ไม่กล้าสื่อสารหรือพูดคุยเรื่องเพศกับลูก ทำให้เด็กไทยขาดความรู้ความเข้าใจเรื่องเพศสัมพันธ์ที่ปลอดภัย ขณะที่อัตราการใช้ถุงยางอนามัยกับแฟนหรือคู่รักต่ำกว่าร้อยละ 50 ส่วนใหญ่เกือบร้อยละ 80 มีเพศสัมพันธ์กับคนรัก โดยใช้ถุงยางอนามัยร้อยละ 47 ส่วนวัยรุ่นหญิงใช้ถุงยางอนามัยร้อยละ 39 จึงต้องเร่งรณรงค์ป้องกันการติดเชื้อในกลุ่มเยาวชนด้วยการใช้ถุงยางอนามัย
ด้านนายแพทย์ธวัช สุนทราจารย์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า การรณรงค์สร้างทัศนคติให้เยาวชนไทยใช้ถุงยางอนามัย เพื่อลดปัญหาเอดส์ จะดำเนินการไปจนถึงสิ้นเดือนธันวาคมนี้ รวมทั้งจัดทำสื่อเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ต่างๆ และขยายผลไปยังประชากรกลุ่มอื่นๆ ต่อไป
ด้านนายแพทย์ธวัช สุนทราจารย์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า การรณรงค์สร้างทัศนคติให้เยาวชนไทยใช้ถุงยางอนามัย เพื่อลดปัญหาเอดส์ จะดำเนินการไปจนถึงสิ้นเดือนธันวาคมนี้ รวมทั้งจัดทำสื่อเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ต่างๆ และขยายผลไปยังประชากรกลุ่มอื่นๆ ต่อไป


