xs
xsm
sm
md
lg

“เหนียวไก่ - ชาไทย” เมนูฮีลใจคนใต้จากเหตุการณ์น้ำท่วม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ภาพข้าวเหนียวไก่: songkhlacreativecityinitiative.com
เหตุการณ์อุทกภัยครั้งใหญ่ของอำเภอหาดใหญ่ มีประเด็นหนึ่งที่ชาวท้องถิ่น รวมทั้งเหล่าอาสาสมัคร และเจ้าหน้าที่จำนวนมากที่เดินทางเข้าไปช่วยเหลือ ต่างได้ประสบการณ์ร่วมกัน คือ “วัฒนธรรมด้านอาหารการกิน” ที่ว่ากันว่าไปถึงหาดใหญ่แล้วต้องไม่พลาด “ข้าวเหนียวไก่ - ชาไทย”

ข้าวเหนียวไก่ (ที่ชาวใต้นิยมเรียกว่าเหนียวไก่) หรือ “ไก่ทอดหาดใหญ่” นับเป็นเมนูขึ้นชื่อ ไม่ต่างจาก “ชาไทย” เครื่องดื่มเย็นชุ่มชื่นใจ ที่ชาวใต้หลายคนบอกว่า ขาดไม่ได้ โดยเฉพาะช่วงเหตุอุทกภัยเมื่อปลายเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา จนมีไวรัลออกมาหลากหลายเกี่ยวกับวัฒนธรรมการกินของเมนูอาหารนี้ ว่าสามารถช่วยเติมพลังเติมแรงใจได้เป็นอย่างดี

ชวนมาทำความรู้จัก “เหนียวไก่ - ชาไทย” ของชาวใต้กัน


ไก่ทอดหาดใหญ่: เหนียวไก่ใส่หอมเจียว
ในยุคแรกไก่ทอดหาดใหญ่เป็นอาหารที่แม่ค้าขายอยู่ที่สถานีรถไฟชุมทางหาดใหญ่ ทูนบนศีรษะเร่ขายให้ผู้โดยสาร เน้นการกินง่าย อิ่มท้อง ไม่เลอะมือ

จุดเด่น คือ ไก่ทอดคลุกเครื่องเทศสีแดงทอดแบบแห้งคู่กับข้าวเหนียวห่อใบตอง โดยไม่มีน้ำจิ้ม ต่อมาไก่ทอดหาดใหญ่ ก็เป็นลักษณะขายแบบรถเข็น ซึ่งเมืองเริ่มขยายตัวมีการก่อสร้างหน้าหอนาฬิกาหาดใหญ่ ตลาดโต้รุ่ง มีจุดเชื่อมต่อรถโดยสารที่สำคัญไปยังจังหวัดรอบๆ ไก่ทอดหาดใหญ่ก็เริ่มต้นปรับเปลี่ยนสูตรมาตั้งแต่ช่วงเวลานั้น


ลักษณะของเมนูข้าวเหนียวและไก่ทอดหาดใหญ่ของแท้ ต้องบอกว่าเสน่ห์อันเป็นเอกลักษณ์ คือ ไก่ทอดที่หมักเครื่องจนเข้มข้นหอมเครื่องเทศ ทอดแบบน้ำมันท่วม แต่เนื้อไก่ที่ทอดเสร็จแล้วต้องแห้ง ไม่อมน้ำมัน เนื้อในนุ่มฉ่ำในปาก หนังไก่ต้องกรอบมีรสติดเค็ม และขาดไม่ได้คือการโรยหอมเจียวลงบนชิ้นไก่ หรือข้าวเหนียว

ไก่ที่มีเนื้อหวานฉ่ำ กับหนังกรอบ และหอมเจียวรสออกเค็ม นิยมนำมารับประทานคู่กับข้าวเหนียวร้อนๆที่มีเนื้อสัมผัสหนุบหนับ นุ่มๆ ซึ่งยุคหลังนิยมกินกับน้ำจิ้มเข้มข้นรสเผ็ดนิดๆ หวานนำเปรี้ยวตาม


ชาไทย: นึกอะไรไม่ออกลองกินชาไทยเย็นๆดูก่อน
ชา เป็นเครื่องดื่มที่สังคมไทยรับอิทธิพลทางวัฒนธรรมมาจากอังกฤษ และชาวอินเดีย สำหรับ ชาไทย ปักษ์ใต้ ที่ขึ้นชื่อในความเข้มข้นหวานมันสีส้มแดงอันเป็นเอกลักษณ์ เป็นส่วนผสมระหว่างชานมข้นหวานก็ยังคงความเป็น ชาไทย อย่างเด่นชัด

ต้นกำเนิดและอิทธิพลทางวัฒนธรรมที่เรียกว่า “Teh Tarik” มีต้นกำเนิดจากชาวมุสลิมอินเดียที่อพยพมาคาบสมุทรมลายู ตั้งแต่ช่วงศตวรรษที่ 19 และได้รับความนิยมหลังสงครามโลกครั้งที่สอง โดยใช้ใบชาดำเข้มข้น ผสมนมข้นหวาน แล้วชักหรือเทสูงเพื่อให้เกิดฟอง


ในภาคใต้ของไทย ซึ่งมีชุมชนมุสลิมไทยจำนวนมาก (เช่น ในสงขลา ปัตตานี ยะลา) ชาไทยใต้ก็ใช้เทคนิคคล้ายกัน เรียกว่า "ชาชัก" ซึ่งมาจาก Teh Tarik โดยตรง ความใกล้ชิดทางภูมิศาสตร์และการค้าผ่านท่าเรืออย่างปีนัง สิงคโปร์ และสงขลา ทำให้สูตรนี้แพร่กระจายเข้ามาในไทยใต้ตั้งแต่ช่วงต้นศตวรรษที่ 20 โดย ชาไทย ปักษ์ใต้ แบบดั้งเดิม มีกลิ่นหอมของสมุนไพรรวมด้วยเนื่องจากมีส่วนผสมของใบชาซีลอน

สมัยก่อนร้านกาแฟมุสลิมใต้มักขายแต่กาแฟโบราณ กับโอวัลติน แต่เริ่มมีการนำใบชาจีน (ชาอู่หลงหรือชาดำ) มาชงเข้มข้น แล้วใส่น้ำแข็ง ดื่มแก้ร้อน ต่อมามีการปรุงให้หวานมันมากขึ้น โดยใส่ “นมข้นหวาน” และ “นมข้นจืด” อาจกล่าวได้ว่า ชาไทยทางใต้ ได้รับอิทธิพลทางวัฒนธรรมมาจากมลายู-จีน-อินเดีย ที่ผสมผสานกันกลายเป็นชาเย็นสีส้มเข้ม รสหวานเข้มข้นเจือรสขมหน่อยๆ โดยการใส่น้ำแข็งเพื่อคลายร้อนและเข้ากับสภาพอากาศร้อนชื้นทางตอนใต้ จนกระทั่งกลายเป็นเมนูเครื่องดื่มยอดนิยมของชาวใต้จนถึงปัจจุบัน




กำลังโหลดความคิดเห็น