กล้องดักถ่ายในผืนป่าแก่งกระจานจับภาพ “เลียงผาปีนผากินดิน” พร้อมเหล่าสัตว์หายาก 26 ชนิด เป็นเครื่องยืนยันว่าผืนป่ามรดกโลกยังอุดมสมบูรณ์
อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานเผยผลการตรวจสอบกล้องดักถ่ายภาพสัตว์ป่าครั้งล่าสุด พบสัตว์ป่าหายากถึง 26 ชนิด รวมทั้งเสือดำ เสือลายเมฆ และเลียงผา สะท้อนความสมบูรณ์ของระบบนิเวศและความเข้มข้นในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่
นายมงคล ไชยภักดี หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน เปิดเผยว่า ฝ่ายวิชาการอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานร่วมกับเจ้าหน้าที่ชุดเฉพาะกิจและสมาคมอนุรักษ์สัตว์ป่า (WCS ประเทศไทย) ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องดักถ่ายภาพสัตว์ป่า (Camera Trap) บริเวณหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติบ้านกร่างและพะเนินทุ่ง
ผลการตรวจสอบครั้งนี้สามารถบันทึกภาพสัตว์ป่าได้ถึง 26 ชนิด แสดงให้เห็นความหลากหลายทางชีวภาพที่สมบูรณ์ โดยพบทั้งกลุ่มสัตว์นักล่าขนาดใหญ่ อาทิ เสือดาว เสือดำ เสือลายเมฆ เสือไฟ หมีหมา และหมีควาย กลุ่มสัตว์กินเนื้อขนาดกลาง เช่น แมวลายหินอ่อน แมวดาว ชะมดแผงหางปล้อง ชะมดแปลงลายแถบ อีเห็นข้างลาย อีเห็นเครือ และหมาไม้
นอกจากนี้ ยังพบกลุ่มสัตว์กินพืชขนาดใหญ่ได้แก่ กระทิง ช้างป่า กวาง เก้งธรรมดา เก้งหม้อ เลียงผา สมเสร็จ กระจง หมูป่า หมูหริ่ง ลิงเสน กลุ่มสัตว์ขนาดเล็ก เช่น เม่นใหญ่แผงคอยาว และนกหายากอย่างไก่ฟ้าหลังเทาและเหยี่ยวรุ้ง
ภาพที่น่าสนใจเป็นพิเศษคือ เลียงผาคู่หนึ่งขณะกำลังปีนผาเพื่อกินดินโป่งซึ่งถือเป็นข้อมูลเชิงพฤติกรรมที่มีคุณค่าอย่างยิ่งต่อการศึกษานิเวศวิทยาของชนิดพันธุ์ เนื่องจากพฤติกรรมการกินดินโป่งของสัตว์เคี้ยวเอื้องเป็นการเสริมแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกาย และเป็นพฤติกรรมที่พบได้ยากในธรรมชาติ
นายมงคล ไชยภักดี กล่าวเสริมว่า ความสำเร็จในการบันทึกภาพสัตว์ป่าที่หลากหลายครั้งนี้ เป็นผลมาจากการทำงานอย่างเข้มข้นและต่อเนื่องของเจ้าหน้าที่ ที่มุ่งเน้นการลาดตระเวนเชิงคุณภาพ โดยมีการวางแผนการติดตั้งกล้องอย่างเป็นระบบ การตรวจสอบและบำรุงรักษาอุปกรณ์อย่างสม่ำเสมอ รวมถึงการวิเคราะห์ข้อมูลร่วมกับนักวิชาการ
"การพบสัตว์ป่าหลากหลายชนิดในครั้งนี้ไม่เพียงแสดงให้เห็นถึงความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่าแก่งกระจานเท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึงความสมบูรณ์ของห่วงโซ่อาหาร ซึ่งบ่งชี้ว่าระบบนิเวศของพื้นที่ยังคงมีความสมดุลและสามารถเกื้อกูลชีวิตสัตว์ป่าได้อย่างยั่งยืน" นายมงคล กล่าว
อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติจากองค์การยูเนสโก เมื่อปี 2564 ด้วยความโดดเด่นทางความหลากหลายทางชีวภาพ การพบสัตว์ป่าหายากและใกล้สูญพันธุ์ถึง 26 ชนิดในครั้งนี้ ยิ่งเป็นการยืนยันคุณค่าและความสำคัญของพื้นที่แห่งนี้
ทั้งนี้ ทางอุทยานฯ จะนำข้อมูลที่ได้จากการตรวจสอบครั้งนี้ไปใช้ในการวางแผนการอนุรักษ์และจัดการพื้นที่อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป พร้อมเดินหน้าเพิ่มความเข้มข้นในการลาดตระเวน เพื่อปกป้องผืนป่ามรดกโลกแห่งนี้ให้คงอยู่สืบไป
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือ ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ Youtube :Travel MGR และ Instagram : @travelfoodonline และ TikTok : @travelfoodonline


