xs
xsm
sm
md
lg

“อช. หาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี” ครองอันดับ 1 อุทยานฯ ที่สร้างรายได้สูงสุดแห่งปี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ภาพจากกรมอุทยานฯ
กรมอุทยานแห่งชาติฯ เผย 10 อันดับอุทยานฯ สร้างรายได้สูงสุดในปีงบ 68 โดย “อช. หาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี” ได้อันดับ 1 ไปครอง ด้าน อช.สิมิลัน​ เริ่มเปิดฤดูกาล แต่รายได้เพิ่ม​กว่าปีก่อนถึง 11.53% ย้ำ! ทุกอุทยานฯ พร้อมเดินหน้า Zero​ Food Waste​ ตามนโยบายรองนายกฯ และ รมว.ทส.

ภาพจากกรมอุทยานฯ
กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เปิดเผยข้อมูลว่า นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เปิดเผยว่า กรมอุทยานฯ จัดเก็บรายได้จากค่าธรรมเนียมการเข้าใช้บริการอุทยานแห่งชาติทั่วประเทศในปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 (ตุลาคม 2567 – กันยายน 2568) ได้สูงถึง 2,208,128,028.86 บาท ซึ่งเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ถึง 8,399,101.87 บาท ตัวเลขดังกล่าวชี้ให้เห็นถึงความนิยมที่เพิ่มสูงขึ้นของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติในการเดินทางท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ และความสำเร็จของนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนภายใต้การบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติอย่างมีประสิทธิภาพ

ภาพจากกรมอุทยานฯ
​นายอรรถพล​ อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ​ฯ​ เปิดเผยอีกว่า ได้เน้นย้ำมาตรการสำคัญ ได้แก่​ การนำระบบ E-Ticket มาใช้​ เพื่อเพิ่มความสะดวกรวดเร็ว โปร่งใส และลดการใช้กระดาษในการจัดเก็บค่าธรรมเนียม​ การปรับปรุงระบบจองที่พัก เพื่อให้นักท่องเที่ยวเข้าถึงได้ง่ายและมีประสิทธิภาพมากขึ้น​ การดูแลความปลอดภัยและสิ่งอำนวยความสะดวก​ ทบทวนและวางแผนมาตรการเพื่อสร้างความมั่นใจและความประทับใจให้แก่นักท่องเที่ยว​ การยกระดับการบริการ​ มุ่งเน้นการให้บริการที่ได้มาตรฐานเพื่อความพึงพอใจควบคู่กับการอนุรักษ์ทรัพยากรทางธรรมชาติ

ภาพจากกรมอุทยานฯ
ด้านอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน ที่เพิ่งเปิดฤดูกาลท่องเที่ยวไปเมื่อเดือนตุลาคม 2568 ที่ผ่านมา​ พบว่า ในเดือนตุลาคม 2568 อุทยานฯ สิมิลัน จัดเก็บรายได้รวม 11,069,800 บาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่เก็บได้อยู่ที่ 9,925,150 บาท คิดเป็นการเติบโต 11.53% หรือเพิ่มขึ้นกว่า 1.14 ล้านบาท ส่วนจำนวนนักท่องเที่ยวที่เข้าเยี่ยมชมในเดือนนั้น มีทั้งสิ้น 23,578 คน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 285 คน หรือเติบโต 1.2%

สำหรับอุทยานแห่งชาติที่สร้างรายได้สูงสุด 10 อันดับแรกในปีงบประมาณ 2568 ได้แก่
1. อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี : 648,920,480 บาท
2. อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน : 197,258,000 บาท
3. อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ : 138,428,250 บาท
4. อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ : 131,210,638 บาท
5. อุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด : 121,542,460 บาท
6. อุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา : 115,150,150 บาท
7. อุทยานแห่งชาติเขาสก : 99,807,806 บาท
8. อุทยานแห่งชาติเอราวัณ : 93,746,395 บาท
9. อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง : 45,391,920 บาท
10. อุทยานแห่งชาติตะรุเตา : 37,879,350 บาท

ภาพจากกรมอุทยานฯ
นอกจากนี้ ทุกอุทยานฯ ทางทะเลได้ดำเนินกิจกรรมภายใต้ โครงการ “อนุรักษ์ ทะเล” ตามแนวพระราชดำริของ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตน์ราชกัญญา ที่มุ่งเน้นการอนุรักษ์และฟื้นฟูระบบนิเวศทางทะเลไทยผ่านการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน เพื่อให้เกิดความยั่งยืนในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในระยะยาว​ รวมถึงให้กำหนดแนวทางการสำรวจทรัพยากรทางทะเลอย่างต่อเนื่อง ทั้งในส่วนของสัตว์ทะเลหายาก และการติดตามสถานการณ์ปะการังฟอกขาว เพื่อประเมินผลกระทบและวางแผนการฟื้นฟูอย่างยั่งยืน​ รวมถึงการจัดการขยะทะเลที่ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศทางทะเลและสัตว์ทะเลด้วยเช่นกัน​

และที่สำคัญอีกประการคือ ทุกอุทยานฯ ทั้งทางบกทางทะเลจะต้องดำเนินตามนโยบายเร่งด่วนของรองนายกฯ เรื่องการจัดการขยะ โดยเฉพาะขยะอาหาร (Zero​ Food Waste) เพื่อเป้าหมาย “ประเทศไทยไร้ขยะอาหาร” ซึ่งมีคำสั่งให้ทุกอุทยานแห่งชาติทั่วประเทศจัดทำแผนปฏิบัติการกำจัดขยะ ในพื้นที่รับผิดชอบให้เป็นไปอย่างมีระบบและมีประสิทธิภาพ​ไปก่อนนี้แล้ว

ภาพจากกรมอุทยานฯ
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือ ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ Youtube :Travel MGR และ Instagram : @travelfoodonline และ TikTok : @travelfoodonline


กำลังโหลดความคิดเห็น