xs
xsm
sm
md
lg

“ลานจามจุรี บ่อแสนวิลล่า” อันซีนสวนเขียวขจีที่พังงา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



แดดยามบ่ายลอดผ่านกิ่งก้านใบต้นจามจุรีลงไปบนผืนหญ้าที่ราวกับเป็นพรมสีเขียวสด กลายเป็นแสงเงาสวยงามพร้อมกับความสดชื่นจากความเขียวขจีที่ครอบคลุมอาณาเขตประมาณ 5 ไร่ โดยมีภูเขาหินปูนสูงตระหง่านงามเป็นฉากหลัง

บรรยากาศสวยงามของธรรมชาติ ท่ามกลางพลังงานสีเขียวดังกล่าวนี้ คือ “ลานจามจุรี บ่อแสนวิลล่า” ซึ่งในวันนี้กลายเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยว และเป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่ของจังหวัดพังงา ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อเดือนสิงหาคม 2568 ที่ผ่านมา

แสงอาทิตย์ลับเหลี่ยมเขาในยามเย็น
ลานจามจุรี อันซีนพังงา
ลานจามจุรี (ที่เคย) เป็นแหล่งท่องเที่ยวลับๆ แห่งนี้ กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่โด่งดังขึ้นเรื่อยๆ ตั้งอยู่ด้านหลัง “บ่อแสนวิลล่า แอนด์ สปา” รีสอร์ตหรูในอำเภอทับปุด จังหวัดพังงา ใช้เส้นทางหลวง 4311 ออกจากตัวเมืองไปทางทิศตะวันออก (เส้นทางไปจังหวัดกระบี่) ระยะทางประมาณ 13 กิโลเมตร

ด้วยความที่ลานต้นไม้นี้ อยู่ด้านหลังของรีสอร์ต ไม่ติดกับถนนใหญ่ และไม่ใช่พื้นที่ติดกับทะเล ทำให้นักท่องเที่ยวจำนวนมากที่ขับรถผ่านไปมา ไม่เคยรู้มาก่อนว่ามีจุดเช็กอินสวยๆอีกแห่งน่าแวะชมระหว่างเส้นทาง

โดยพิกัดการเข้าชม หากไม่ใช่ลูกค้าที่รีสอร์ต ต้องขับรถเลยไปอีกประมาณ 400 เมตร มีถนนสายรองเป็นซอยเล็กๆ ลัดเลาะเข้าไปไม่ถึง 3 นาทีก็ถึงจุดหมายปลายทางอันเขียวขจี โดยลานจามจุรีกับรีสอร์ต มีถนนสายเล็กๆกั้นกลางไว้ และมีจุดจอดรถให้ต่างหาก


สวนสาธารณะเอกชนแห่งใหม่
ลานกว้างปกคลุมไปด้วยผืนหญ้าเขียวสด มีจุดขาย คือ “ต้นจามจุรี” หรือบางคนเรียกว่าต้นก้ามปู จำนวนหลายสิบต้น กระจัดกระจายไปเต็มพื้นที่ กิ่งก้านที่แผ่ออกในวงกว้างตามลักษณะเด่นของพืชพันธุ์ชนิดนี้ ช่วยมอบร่มเงาความร่มรื่นไปทั่วบริเวณ และเมื่อแสงแดดลอดผ่านกิ่งก้านใบก็ยิ่งเพิ่มความงาม

ต้นจามจุรีอายุราว 17 ปี
แม้ต้นจามจุรีเหล่านี้ มีขนาดไม่โตมาก เพราะเพิ่งมีอายุราว 17 ปี ความสูงประมาณ 10 เมตร และยังไม่เป็นต้นจามจุรีขนาดใหญ่แบบที่คุ้นตาตามสถานที่ราชการหรือสถานที่ท่องเที่ยวแห่งอื่นๆ แต่ด้วยจำนวนหลายสิบต้นที่ปลูกร่วมกันในลานกว้าง และมีฉากหลังเป็นกำแพงภูเขาหินปูนขนาดใหญ่ ก็ทำให้ลานจามจุรีแห่งนี้มีทัศนียภาพที่สวยงามเป็นเอกลักษณ์ ถ่ายภาพออกมาได้ชวนตื่นตาตื่นใจ ไม่ว่าจะแนวแลนด์สเคปธรรมชาติ หรือมาถ่ายภาพแนวแนวพอร์ตเทรตบุคคลก็ตาม โดยนอกเหนือจากต้นไม้ทรงสวยที่แผ่ความร่มรื่นไปทั่วแล้ว มีการจัดพร๊อบเป็นจุดเช็กอินให้ถ่ายภาพกระจายอยู่หลายจุด

นักท่องเที่ยวที่พักในบ่อแสนวิลล่า แวะมาถ่ายภาพ
ในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ จึงมีนักท่องเที่ยวทั้งคนในชุมชนและคนต่างถิ่น เดินทางมาถ่ายรูปเช็กอินกันเป็นจำนวนมาก แวะมาถ่ายภาพ ปิกนิก ทำคอนเทนต์ ศึกษาธรรมชาติ ออกกำลังกาย หรือเดินเล่นพักผ่อนหย่อนใจรับพลังจากธรรมชาติเขียวขจีกับอากาศบริสุทธิ์ โดยแนะนำว่าให้มาในช่วงเช้าหรือเย็นๆหลังบ่ายสาม เพราะอากาศไม่ร้อนเกินไป และมีแสงที่สวยงามในการถ่ายภาพ

ทั้งนี้ ด้วยความเป็นพื้นที่เอกชน จึงมีค่าธรรมเนียมในการใช้บริการ 20 บาท แต่สามารถนำไปใช้เป็นคูปองตามมูลค่าเพื่อเป็นส่วนลดเครื่องดื่มของ “จามจุรีคาเฟ่” ร้านเล็กๆที่อยู่บริเวณปากทางเข้าได้ แต่หากใครเป็นลูกค้าของรีสอร์ต ก็ไม่มีค่าใช้จ่าย


จุดเด่นด้านดาราศาสตร์
ลูกค้าที่เข้าพักบ่อแสนวิลล่า อาจมีข้อได้เปรียบอีกหน่อย เนื่องจากพื้นที่ของรีสอร์ตแห่งนี้ ได้รับการยกให้เป็น “เขตอนุรักษ์ท้องฟ้ามืดในพื้นที่ส่วนบุคคล” โดยสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) ซึ่งถือว่าเป็นสถานที่ดูดาวเป็นพื้นที่โล่ง สามารถมองเห็นวัตถุท้องฟ้าได้รอบทิศทาง ทั้งยังมีการบริหารจัดการแสงสว่างในพื้นที่อย่างมีประสิทธิภาพ จึงมองเห็นกลุ่มดาวเด่นได้ด้วยตาเปล่า

แหล่งท่องเที่ยวใหม่ในชุมชน

มีศาลาให้นั่งพัก หรือรับประทานอาหาร
ลานจามจุรี บ่อแสนวิลล่า
(ตั้งอยู่ด้านหลังบ่อแสนวิลล่าฯ) ต.บ่อแสน อ.ทับปุด จ.พังงา
เปิดทุกวัน 7.00-18.30 น. โทร : 086-9402121 หรือ 091-454 9465
https://facebook.com/Borsaen



รู้จักต้นจามจุรี
ข้อมูลจากสำนักเศรษฐกิจการป่าไม้ระบุว่า ต้นจามจุรีเป็นต้นไม้ผลัดใบ ขนาดใหญ่ สูง 15-20 เมตร เรือนยอดแผ่เป็นพุ่มกว้างคล้ายร่ม มีถิ่นกำเนิดของต้นจามจุรี อยู่ในทวีปอเมริกาเขตร้อนไปจนถึงบราซิล ปัจจุบันได้มีการนำไปปลูกกันอย่างแพร่หลายในประเทศโซนร้อนเกือบค่อนโลก รวมทั้งประเทศไทย ซึ่งนำเข้ามาปลูกครั้งแรกที่จังหวัดเชียงใหม่ สามารถเจริญเติบโตได้ดีในเขตร้อนที่มีฝนตกชุกปานกลาง ถึงฝนตกหนักตลอดปีเป็นต้นไม้ที่ชอบน้ำ และความชุมชื้น


นอกจากนี้ ยังมีข้อมูลจากภาควิชาพฤกษศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่ระบุว่า ประวัติของต้นจามจุรีที่นำเข้ามาปลูกในประเทศไทยมีอยู่หลายทางด้วยกัน หนึ่งในนั้นมาจากหนังสือ “ปกิณกะในรัชกาลที่ ๕” ซึ่งได้กล่าวว่า “...ต้นไม้ชนิดหนึ่ง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงนำเมล็ดเข้ามาเพาะ ปรากฏว่าขึ้นงอกงามเร็ว มีกิ่งก้านสาขาออกไปมาก จึงพระราชทานชื่อให้ใหม่ว่า ต้นก้ามปู...”





กำลังโหลดความคิดเห็น