สีหน้าของผู้คนหลากหลายช่วงวัยที่สื่อสารผ่านรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ การสนทนา หรือแม้แต่ความเคร่งขรึมที่อัดแน่นมาจากความมุ่งมั่นตั้งใจ แผ่กระจายเป็นวงกว้างราวกับคลื่นความสุขกำลังครอบคลุมไปทั่วถนนสายประวัติศาสตร์ในชุมชนริมน้ำจันทบูร
คลื่นความสุขที่เกิดขึ้น มาจากกิจกรรมเล็กๆที่กล่าวได้ว่า “เป็นครั้งแรก” ของจังหวัดจันทบุรี ที่คนทุกเพศทุกวัยทั้งในและนอกชุมชน ไม่ว่าจะเป็นชาวบ้านทั่วไป ผู้ประกอบการ นักเรียนนักศึกษา ศิลปิน ฯลฯ ต่างมาร่วมแรงร่วมใจกันสร้างสรรค์เทศกาลให้ออกมาดีที่สุด
ภายใต้คอนเซปต์เรียบง่ายว่าใครมีอะไรดี อะไรเด่น อะไรที่สื่อสารว่า “นี่แหละความเก๋ ความเท่ ความมีเสน่ห์ในแบบจันทบุรี” ก็ให้เอามาอวดกันให้คนอื่นรู้
แนวคิดนั้นจึงนำมาสู่เทศกาล “จันท์ อวด ดี” ที่จัดขึ้นเมื่อปลายเดือนกันยายน 2568 ที่ผ่านมา และประสบความสำเร็จเกินกว่าที่ใครจะคาดคิด โดยเทศกาลฯ ได้รับการสนับสนุนจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานจันทบุรี ซึ่งเปรียบเสมือนสารตั้งต้น ส่งต่อให้กลุ่มนักสร้างสรรค์เมืองไม่ว่าจะเป็นกลุ่มเสน่ห์จันท์ กลุ่มจันทรบูรคิดดี มหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี ผู้ประกอบการในพื้นที่ นักวิชาการ ฯลฯ ช่วยสานต่อจนกลายเป็นปรากฏการณ์ครั้งสำคัญ ปลุกกระแสให้คนในท้องถิ่นได้ภาคภูมิใจว่าจังหวัดเล็กๆก็มีศักยภาพในการจัดเทศกาลที่เข้มข้นไปด้วยคุณภาพไม่แพ้เมืองใหญ่แต่อย่างใด โดยมีสิ่งสำคัญที่สุดคือเทศกาลที่ขับเคลื่อนโดยคนในชุมชนและเพื่อคนในชุมชนอย่างแท้จริง
เทศกาลขับเคลื่อน “คน” เมืองจันท์
ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา “เทศกาล” ในเมืองไทยหลายแห่ง สร้างสรรค์ภายใต้แนวคิดที่ชัดเจนมากขึ้น โดยเฉพาะแนวคิดที่เรียกว่า “Festivalization” ก็เริ่มเป็นที่แพร่หลาย ซึ่งเป็นการเพิ่มความมีส่วนร่วมของผู้เข้าร่วมกิจกรรมกับการสร้างประสบการณ์ในรูปแบบ Personalization หรือรูปแบบเฉพาะบุคคล ภายใต้กรอบของการสร้างสรรค์ประสบการณ์ที่น่าจดจำ ความมีส่วนร่วมทางอารมณ์ และการแบ่งปันประสบการณ์ร่วมกัน
แม้เป็นการจัดครั้งแรก และเป็นเทศกาลเล็กๆในชุมชนบนถนนความยาวประมาณ 1 กิโลเมตร แต่ “จันท์ อวด ดี” ก็เดินทางกรอบแนวคิด “Festivalization” ได้เป็นอย่างดี
โดยจุดเริ่มต้นของงาน เป็นความตั้งใจที่จะ “ฟื้นฟู” ปลุกความคึกคักให้กับชุมชนริมน้ำจันทบูร แหล่งท่องเที่ยวสำคัญประจำเมือง ด้วยการดึงดูดให้ผู้คนมีส่วนร่วมผ่านประสบการณ์หลากหลายรูปแบบให้เลือก เพลิดเพลินไปกับศิลปะ ดนตรี อาหารการกิน วัฒนธรรม การออกแบบ การแสดง ไปจนถึงแฟชั่นโชว์ ใครชอบอะไรแนวไหน ก็เลือกเข้าร่วมได้ตามสะดวกตั้งแต่สายๆไปจนค่ำคืน
นอกเหนือจากคอนเซปต์ข้างต้นแล้ว อาจกล่าวได้ว่า “จันท์ อวด ดี” มีความเป็น “Festivalisation with a focus on community engagement” หรือ “การสร้างเทศกาลที่เน้นการมีส่วนร่วมของชุมชน”เพราะกิจกรรมนี้ ไม่ใช่งานออกร้านวางจำหน่ายสินค้าจากพ่อค้าแม่ค้านอกพื้นที่ ไม่ได้มีคอนเสิร์ตของศิลปินจ้างมาจากที่อื่น แต่เป็นงานที่จัดโดยเปิดโอกาสให้คนในชุมชนริมน้ำจันทบูรได้รับประโยชน์และมีส่วนร่วมโดยตรง รวมทั้งคนจันทบุรีจากชุมชนอื่นที่ได้เข้ามาใช้พื้นที่ปล่อยของดี ปล่อยความคิดสร้างสรรค์ในรูปแบบที่ตนเองถนัด
ร้านค้าทุกแห่ง บ้านทุกหลังที่ต้อนรับผู้มาเยือนในเทศกาล จึงล้วนมาจากความเต็มใจ และเข้าใจในสิ่งที่ทีมงานจันท์อวดดี ไปสื่อสารแนวคิดไว้ล่วงหน้า เทศกาลครั้งนี้จึงอาจเป็นครั้งแรกที่บ้านบางหลังในชุมชนเก่ายอมเปิดบานประตูให้ผู้มาเยือนได้เข้ามาสัมผัส ผ่านรูปแบบนิทรรศการหรือกิจกรรมต่างๆ
“จันท์ อวด ดี” จึงกลายเป็นเทศกาลที่ขับเคลื่อนเมือง และขับเคลื่อนคน ไปพร้อมๆกัน
การจัดเทศกาลในรูปแบบไม่ปิดถนน
ชุมชนริมน้ำจันทบูร ถือเป็นย่านเมืองเก่าซึ่งเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจและการค้ามาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ ๕ และเป็นถนนสายแรกของจังหวัด ในปัจจุบันถนนระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร มีบ้านเรือน ร้านค้าทั้งเก่าแก่ ทั้งร่วมสมัยเรียงรายขนานไปสองข้างทาง และใช้ในการสัญจรไปตามปกติ
ทีมงานจันท์ อวด ดี ตระหนักถึงความสำคัญของการจัดเทศกาลที่ไม่ต้องการเบียดบังความงามของย่านเก่า รวมถึงไม่ต้องการให้มีผลกระทบกับวิถีชีวิตชาวชุมชนมากจนเกินไป จึงตัดสินใจจัดงานในรูปแบบไม่ปิดถนน ไม่มีตลาดขายสินค้า แต่เนรมิตถนนสายเก่าให้เป็นนิทรรศการมีชีวิตที่ “อวดชุมชน” แบ่งกิจกรรมต่างๆกระจัดกระจายไปตามบ้านเรือน ร้านค้า หรือแบ่งพื้นที่ริมถนนในบางจุด
ผลลัพธ์ที่ได้จึงเป็นบรรยากาศของเทศกาลที่มีความเป็นธรรมชาติ เสน่ห์ดั้งเดิมของชุมชนเปล่งประกายโดยไม่ต้องปรุงแต่งอะไรเกินเลยให้เสียอัตลักษณ์ ส่วนผู้มาเยือนก็ได้เดินชมไปตามบ้านเรือนแต่ละหลัง มีปฏิสัมพันธ์ระหว่างคนมาเที่ยวกับเจ้าบ้าน หรือคนจัดกิจกรรม ขณะที่ชาวชุมชนก็สามารถใช้ถนนหนทางสัญจรไปมาได้ตามปกติ
เทศกาลสร้างแรงบันดาลใจและความยั่งยืน
ความสำเร็จสำคัญประการหนึ่งที่เกิดขึ้นในเทศกาล “จันท์ อวด ดี” ไม่ใช่จำนวนนักท่องเที่ยวต่างถิ่นที่เข้ามาชมงาน ไม่ใช่มูลค่าของเม็ดเงินทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นภายในระยะเวลาแค่วันสองวัน แต่เป็น “แรงบันดาลใจใหม่ๆ” ที่มอบให้แด่คนในจังหวัด
เทศกาลเล็กๆของคนจันท์ที่จัดเป็นครั้งแรกนี้ อัดแน่นไปด้วยกิจกรรมที่ปลดปล่อยความสร้างสรรค์ในแบบที่คนจันทบุรีบางส่วนเอง อาจไม่เคยรู้มาก่อนว่ามีของดีอยู่ใกล้ตัวมากมายขนาดนี้ เช่น นิทรรศการภาพถ่ายและภาพวาด เวิร์กชอปศิลปะหลากหลายรูปแบบ การแสดงดนตรี การเต้นบีบอย หนังสั้น-ภาพเก่าของชุมชน กิจกรรมทอเสื่อจันทบูร เวิร์กชอปทำน้ำหอม-ทำสร้อยข้อมือ งานเสวนาเกี่ยวกับการออกแบบอัญมณี งานเสวนาเกี่ยวกับการเพิ่มมูลค่าของเสื่อกก ตลาดขนมไทย กิจกรรมเดินเท้าเล่าเรื่อง แฟชั่นโชว์จากผลิตภัณฑ์เสื่อกกเป็นครั้งแรกของโลก ฯลฯ
การเปิดพื้นที่เทศกาลอวดของดีในครั้งนี้ จึงไม่ต่างจากการปลูกโปรยเมล็ดพันธุ์แห่งแรงบันดาลใจและความสร้างสรรค์ลงไปในผืนดินแห่งแนวคิดของคนในท้องถิ่น ไม่ว่าจะในฐานะผู้จัดกิจกรรมหรือผู้มาเที่ยวชมงาน ว่าบ้านเกิดของตนเองมีอะไรดี หรือตนเองสามารถมีส่วนร่วมอะไรกับชุมชนได้บ้าง
เมื่อคนในชุมชนตระหนักเห็นความสำคัญใน “ของดี” ที่ตนเองมีแล้ว เทศกาล “จันท์ อวด ดี” จึงนับเป็นต้นแบบของกิจกรรมท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ที่นอกเหนือจากความเพลิดเพลินแล้ว ยังเสริมประโยชน์ในมิติความยั่งยืนทางวัฒนธรรม วิถีชีวิต และเอกลักษณ์ท้องถิ่น ที่เชื่อว่าคนจันท์จะช่วยกันรักษา ต่อยอด ให้กลายเป็นแนวคิดหลักของการขับเคลื่อนเมืองด้วยการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนในแบบฉบับคนจันทบุรี