xs
xsm
sm
md
lg

อันซีนพังงา “แห่ช่อเข้าวัด” ประเพณีเป็นเอกลักษณ์ เนื่องในงานบุญใหญ่ “วันสารทเดือนสิบ”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



พาไปรู้จักกับประเพณี "แห่ช่อ" หรือ "แห่ช่อเข้าวัด" ที่ชาวบ้านกระโสม จ.พังงา ร่วมอนุรักษ์สืบสานงานบุญใหญ่เนื่องในวันสารทเดือนสิบ เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้บรรพบุรุษ

ประเพณี “สารทเดือนสิบ”หรือ “งานบุญเดือนสิบ” เป็นหนึ่งในประเพณีสำคัญชาวใต้ที่ปฏิบัติสืบต่อกันมาแต่ครั้งโบราณจนถึงปัจจุบัน โดยมีความเชื่อทางพุทธศาสนาว่า ในปลายเดือน 10 พ่อแม่ ปู่ย่า ตายาย และญาติพี่น้องที่ล่วงลับไปแล้ว โดยเฉพาะผู้ที่มีบาปตกนรกอยู่ซึ่งเรียกว่า “เปรต”จะได้รับการปล่อยตัวจากพญายมให้ขึ้นมาพบลูกหลานและญาติพี่น้องของตนในเมืองมนุษย์ในวันแรม 1 ค่ำ เดือน 10 และให้กลับไปอยู่เมืองนรกดังเดิม ในวันแรม 15 ค่ำ เดือน 10

ด้วยเหตุนี้ชาวปักษ์ใต้จึงมีการจัดงานบุญเดือนสิบและประเพณี “ชิงเปรต” ขึ้น โดยถือเอาวันแรม 1 ค่ำ เดือน 10 เป็น “วันรับเปรต” หรือ “วันรับตายาย” และวันแรม 15 ค่ำ เดือน 10 เป็น “วันส่งเปรต” หรือ “วันส่งตายาย” ซึ่งเชื่อกันว่าบรรพบุรุษและญาติพี่น้องที่ล่วงลับ จะกลับมาขอส่วนบุญจากลูกหลาน


นอกจากนี้ยังมีการนำอาหารคาว-หวาน ไปวัด เพื่อถวายพระ โดยส่วนหนึ่งถูกแบ่งออกมาจากของทำบุญ เพื่อเตรียมเป็นอีกสำรับเรียกว่า “หมฺรับ” หลังจากถวายภัตตาหารเพลพระแล้ว หมฺรับจะถูกนำไปวางไว้บริเวณวัด หรือ ภายนอกวัด หรือตั้งศาลา เพื่อแผ่ส่วนกุศลให้ผู้ล่วงลับ เรียกว่า “ตั้งเปรต”

เมื่อพิธีสงฆ์เสร็จสิ้น ก็เริ่มงานบุญอุทิศส่วนกุศลให้กับเปรต ผู้คนก็ต่างก็แย่งอาหาร ของคาว หวานในหมฺรับกันอย่างสนุกสนาน เรียกว่า “ชิงเปรต” โดยเชื่อว่าหากกินของที่เหลือจากที่เส้นไหว้บรรพบุรุษจะเป็นสิริมงคล



นอกจากประเพณีรับเปรต ส่งเปรต และชิงเปรตแล้ว ในเทศกาลงานบุญใหญ่สารทเดือนสิบ ยังมีกิจกรรมและประเพณีย่อยอันเป็นเอกลักษณ์ของแต่ละท้องถิ่น ซึ่งชาวชุมชนในพื้นที่นั้น ๆ ยังคงร่วมอนุรักษ์สืบสานประเพณีอันดีงามมาจนถึงปัจจุบัน ดังเช่น ประเพณี “แห่ช่อ” หรือ “แห่ช่อเข้าวัด” ของชาวกระโสม ในจังหวัดพังงา ที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 22 กันยายน 2568 ที่ผ่านมา ณ วัดสุวรรณคูหา หรือ วัดถ้ำ หมู่ 2 ตำบลกระโสม อำเภอตะกั่วทุ่ง จังหวัดพังงา ซึ่งมีพุทธศาสนิกชนจำนวนมากเดินทางมาร่วมงานประเพณีวันสารทเดือนสิบ หรือ วันส่งเปรต-วันส่งตายาย ประจำปี 2568


โดยก่อนพิธีกรรมทางพระ แต่ละหมู่บ้านได้ร่วมกันสืบสานและอนุรักษ์ประเพณี "แห่ช่อ" หรือ "แห่ช่อเข้าวัด" หรือ "แห่จาด" ซึ่งมีลักษณะคล้าย ๆ กับการแห่หมฺรับ ของจังหวัดอื่น ๆ ในภาคใต้ ถือว่าเป็นเป็นงานบุญใหญ่ที่สำคัญที่สุดปีละครั้งของชาวใต้ ตามความเชื่อว่า พ่อ แม่ ปู่ ย่า ตายาย และญาติพี่น้องที่ล่วงลับไปแล้ว โดยเฉพาะผู้ที่ต้องตกนรก หรือเรียกว่าเปรตนั้น จะได้รับอนุญาตให้มาพบกับญาติของตนในเมืองมนุษย์ได้ในวันแรม 1 ค่ำ เดือน 10 หรือ วันรับตายาย และกลับไปสู่นรกดังเดิม ในวันแรม 15 ค่ำ เดือน 10 หรือวันส่งตายาย
 
อีกทั้งยังถือเป็นวันรวมญาติอีกด้วย เพราะหนุ่ม ๆ สาว ๆ ที่ไปทำงาน หรือศึกษาต่อในต่างจังหวัดก็จะพร้อมใจกันเดินทางกลับมาบ้านร่วมทำบุญให้กับบรรพบุรุษพร้อมกับคนในครอบครัว ซึ่งบรรยากาศเป็นไปด้วยความคึกคักคักเป็นอย่างยิ่ง


สำหรับประเพณีวันสารทเดือนสิบหรือวันส่งเปรต วันส่งตายาย ของชาวไทยพุทธทางภาคใต้ ประชาชนส่วนใหญ่จะนำปิ่นโตอาหาร ขนมเดือนสิบ อาทิเช่น ขนมต้ม ขนมเทียน ขนมท่อนใต้ ข้าวพอง ขนมลา ขนมบ้า มาร่วมทำบุญอุทิศให้บรรพบุรุษ การเขียนชื่อบรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้วทำพิธีบังสุกุล

นอกจากนี้ยังมีการวางข้าวสารอาหารแห้ง อาหารคาวหวาน ขนมสารทเดือนสิบ รวมถึงเงินเหรียญและธนบัตร นำวางไว้ที่ลานชิงเปรต ซึ่งจะมีกลุ่มชาวมอแกน หรือไทยใหม่หรือชาวเล มาร่วมรับบุญเป็นประจำทุกปี สำหรับปีนี้พบว่ามีผู้เข้าร่วมประเพณีวันสารทเดือนสิบกว่าหนึ่งพันคน ทำให้บรรยากาศภายในวัดสุวรรณคูหา คึกคักเป็นอย่างมาก


นายสุวัช ศรีเพชรพูล นายก อบต.กระโสม เปิดเผยว่า ประเพณีแห่ช่อ หรือแห่ช่อเข้าวัดนั้น ในอดีตนั้นชาวบ้านในตำบลกระโสม เมื่อเริ่มเข้าสู่วันแรม 1 ค่ำ เดือน 10 ซึ่งเป็นวันรับตายาย แต่ละหมู่บ้านก็จะใช้ไม้ไผ่ทำเป็นราวแขวน ไปตั้งไว้ตามร้านค้าและศาลาหมู่บ้าน ให้ชาวบ้านได้ร่วมนำสิ่งของต่าง ๆ ทั้งสินค้าเกษตร สิ่งของอุปโภคบริโภคมาแขวนรวมกันไว้ที่ราว พอถึงวันทำบุญใหญ่สารทเดือนสิบหรือวันส่งตายาย แต่ละหมู่บ้านก็จะช่วยกันแบก และแห่ขบวนนำไปถวายให้วัด

สำหรับประเพณีแห่ช่อ หรือแห่ช่อเข้าวัด เป็นอีกหนึ่งประเพณีที่เป็นเอกลักษณ์ ที่ปัจจุบันนับว่าหาดูได้ยากแล้ว ซึ่งชาวบ้านในพื้นที่ได้ร่วมกันอนุรักษ์สืบสานไม่ให้ประเพณีที่ดีงามของบรรพบุรุษสูญหายไปตามกาลเวลา

##################

โดย : อโนทัย งานดี






กำลังโหลดความคิดเห็น