หากเอ่ยถึงสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่ขึ้นชื่อที่สุดแห่งหนึ่งของภาคใต้ ชื่อของ “เขื่อนเชี่ยวหลาน” หรือ “เขื่อนรัชชประภา” จังหวัดสุราษฎร์ธานี ต้องถูกนึกถึงเป็นอันดับต้น ๆ อย่างแน่นอน ที่นี่เปรียบเสมือน “กุ้ยหลินเมืองไทย” เพราะเต็มไปด้วยภูเขาหินปูนรูปร่างแปลกตา น้ำสีเขียวมรกตใสสะท้อนกับแสงแดด และบรรยากาศอันเงียบสงบที่โอบกอดด้วยผืนป่าเขียวขจี
สำหรับผู้ที่มาเที่ยวเขื่อนรัชชประภา หรือ เขื่อนเชี่ยวหลาน นั้นก็มีกิจกรรมอันหลากหลายชวนให้เพลิดเพลิน ซึ่งสามารถเลือกเที่ยวได้ทั้งแบบวันเดย์ทริป (ไปเช้า-เย็นกลับ) หรือนอนพักค้างในทะเลสาบเชี่ยวหลานสัมผัสบรรยากาศสุดฟิน
การเดินทางเข้าสู่เขื่อนเชี่ยวหลานไม่ได้จบแค่การมาชมวิวที่ท่าเรือเท่านั้น ไฮไลต์ของทริปอยู่ที่การนั่งเรือหางยาวล่องไปตามสายน้ำ เพื่อสัมผัสมุมมองความงามที่แตกต่างในแต่ละจุดเหมือนภาพวาดจากธรรมชาติ ซึ่งมีหลายจุดท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาดเลย
เขาสามเกลอ
จุดแลนด์มาร์กที่ใครมาถึงเขื่อนเชี่ยวหลานต้องไปถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึก “เขาสามเกลอ” หรือที่บางคนเรียกว่า “กุ้ยหลินเมืองไทย” คือกลุ่มหินปูนสามแท่งที่โผล่พ้นน้ำขึ้นมาอย่างสง่างาม ท่ามกลางผืนน้ำสีเขียวสดตัดกับท้องฟ้า ช่วงเช้า ๆ จะมีหมอกบางลอยปกคลุม ยิ่งทำให้บรรยากาศโรแมนติกและลึกลับราวกับอยู่ในอีกโลกหนึ่ง
เขาสามเกลอ เป็นยอดเขาแหลมเล็ก ๆ 3 ยอดที่โผล่พ้นน้ำขึ้นมาอวดโฉมเรียงกันอยู่กลางทะเลสาบสีมรกต
เขาสามเกลอมีตำนานเล่าขานเชื่อมโยงกับศาลศักดิ์สิทธิ์ในเขื่อนเชี่ยวหลานคือ “ศาลพ่อตาโจงโดง” ที่ชาวบ้านในพื้นที่เคารพนับถือ โดยเชื่อว่า
เป็นจุดที่เรือขันหมากของพ่อตาโจงโดง ขณะกำลังไปสู่ขอยายแก้ว ล่มลงที่นี่ และพานพุ่มได้จมลงเกิดเป็นภูเขาที่มีรูปร่างคล้ายพานพุ่มสามพานพุ่ม จึงมีอีกชื่อหนึ่งว่า “เขาขันหมาก”
ถ้ำปะการัง
หนึ่งในความมหัศจรรย์ของเขื่อนเชี่ยวหลานคือ ถ้ำปะการัง ภายในมีหินงอกหินย้อยรูปร่างคล้ายปะการังใต้น้ำ จึงเป็นที่มาของชื่อถ้ำแห่งนี้ การเดินเข้าไปสำรวจทำให้ได้สัมผัสถึงความอลังการของธรรมชาติที่ใช้เวลานับล้านปีรังสรรค์ขึ้นมา
“ถ้ำปะการัง” ตั้งอยู่ทางทิศเหนือของอ่างเก็บน้ำเชื่อนรัชชประภา บริเวณทะเลใน 500 ไร่ ของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าคลองแสง ใช้เวลานั่งเรือจากท่าเรือท่องเที่ยวเขื่อนเชี่ยวหลาน ประมาณ 1 ชั่วโมง ก็จะถึงหน่วยพิทักษ์ป่าห้วยถ้ำจันทน์ ระหว่างทางสามารถชมวิวภูเขาหินปูนและน้ำสีเขียวมรกตอันเป็นเอกลักษณ์ของเขื่อนเชี่ยวหลาน
โดยถ้ำปะการังเป็นถ้ำที่มีทางเข้า-ออกทางเดียว เป็นถ้ำหินปูนขนาดกลาง โถงถ้ำหลักมีความยาว 80 เมตร วางตัวในแนวทิศตะวันตกเฉียงใต้ - ตะวันออกเฉียงเหนือ ปากถ้ำกว้างประมาณ 12.2 เมตร สูงประมาณ 11.5 เมตร จากจุดจอดแพไปปากถ้ำจะมีบันไดขึ้นไปประมาณ 20 เมตร ส่วนปากถ้ำจะมีหินงอก หินย้อย ลักษณะคล้ายปะการังเขากวาง ส่วนกลางถ้ำมีลักษณะแบบม่านน้ำไหลสีน้ำตาล และโถงในสุดเชื่อมต่อกันเป็นเสาหิน แม้ตัวถ้ำมีความลึกไม่มาก แต่มีความหนาแน่นของหินย้อยต่อพื้นที่ค่อนข้างสูง เกิดเป็นทัศนียภาพที่สวยงาม สามารถเข้าไปเที่ยวชมได้ตลอดทั้งปี
ภูเขารูปหัวใจ
อีกหนึ่งมุมโรแมนติกที่ซ่อนอยู่ในเขื่อนเชี่ยวหลาน คือ ภูเขารูปหัวใจ เมื่อมองจากมุมหนึ่งจะเห็นภูเขาสองลูกเรียงตัวจนเกิดเป็นช่องว่างตรงกลางเป็นรูปหัวใจพอดี ถือเป็นจุดที่คู่รักและนักท่องเที่ยวมักจะขอให้คนขับเรือแวะหยุด เพื่อถ่ายภาพเก็บความทรงจำสุดประทับใจ
บ้านพักแพกลางน้ำ
อีกหนึ่งเสน่ห์ของเขื่อนเชี่ยวหลานคือบ้านพักแพกลางน้ำ ที่ให้คุณตื่นขึ้นมาท่ามกลางวิวภูเขาหินปูนโอบล้อมรอบตัว สูดอากาศบริสุทธิ์ และกระโดดลงเล่นน้ำใส ๆ ได้ทันทีจากหน้าห้อง เป็นประสบการณ์ที่ทั้งผ่อนคลายและน่าจดจำ
สำหรับใครที่กำลังมองหาสถานที่ท่องเที่ยวที่จะพาใจไปพักผ่อน “เขื่อนเชี่ยวหลาน” คือคำตอบที่สมบูรณ์แบบ ทั้งความยิ่งใหญ่ของภูเขาหินปูน ความสงบของผืนน้ำสีมรกต และประสบการณ์ล่องเรือชมความงามที่หลากหลาย ทุกวินาทีที่ได้อยู่ที่นี่คือการเติมพลังใจ และเป็นความทรงจำที่ควรค่าแก่การจดจำตลอดไป
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือ ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ Youtube :Travel MGR และ Instagram : @travelfoodonline และ TikTok : @travelfoodonline