อัปเดตสำหรับนักเที่ยวไทยไปยุโรป ตั้งแต่ 12 ตุลาคม 2568 เป็นต้นไป การเดินทางเข้าสหภาพยุโรป (EU) จะไม่มีการประทับตราในหนังสือเดินทาง หรือพาสปอร์ตอีกต่อไป แต่จะใช้ระบบพรมแดนดิจิทัลใหม่ที่เรียกว่า EES (Entry/Exit System)
ระบบ EES (Entry/Exit System) ของ สหภาพยุโรป (EU) จะถูกนำมาใช้แทนการประทับตราในหนังสือเดินทางแบบเดิม สำหรับผู้ที่เดินทางเข้า–ออกประเทศในกลุ่มเชงเก้น (Schengen Zone) โดยมีจุดประสงค์หลักเพื่อควบคุมและตรวจสอบการเดินทางของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ไม่ใช่พลเมือง EU/Schengen
โดยนักท่องเที่ยวจะต้องลงทะเบียนข้อมูลชีวมิติ (Biometrics) เช่น การสแกนหนังสือเดินทาง ลายนิ้วมือ และถ่ายรูปที่ตู้ kiosk อัตโนมัติหรือกับเจ้าหน้าที่ ซึ่งข้อมูลนี้จะถูกบันทึกไว้ 3 ปี เพื่อให้การเดินทางครั้งต่อไปสะดวกและรวดเร็วขึ้น
แม้ระบบจะเริ่มใช้แล้ว คนไทยยังคงต้องขอ วีซ่าเชงเก้น ตามปกติ และต้องลงทะเบียนข้อมูลชีวมิติใหม่ทุกครั้งที่ผ่านเข้ายุโรป
ระบบ EES (Entry/Exit System) คืออะไร?
การทำงานแทนที่การประทับตราลงไปในพาสปอร์ตแบบเดิมทั้งหมดด้วยระบบดิจิทัล
การบันทึกข้อมูลชีวมิติ (Biometrics) ของนักท่องเที่ยว เช่น ลายนิ้วมือ รูปถ่าย และข้อมูลหนังสือเดินทาง จะถูกบันทึกไว้
ระยะเวลาการเก็บข้อมูลที่บันทึกไว้มีอายุ 3 ปี ทำให้การเดินทางครั้งต่อไปสะดวกรวดเร็วขึ้น
เริ่มต้นใช้ระบบนี้ 12 ต.ค. 2568 และในวันที่ 10 เม.ย. 2569 เป็นต้นไป จะเริ่มใช้เต็มรูปแบบใน 29 ประเทศ โดยยกเลิกการประทับตราพาสปอร์ตทั้งหมด
ที่มา: https://travel-europe.europa.eu/en/ees
ส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือ ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ Youtube :Travel MGR และ Instagram : @travelfoodonline และ TikTok : @travelfoodonline