xs
xsm
sm
md
lg

"สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าจุฬาภรณ์" ยืนยันยังไม่ย้ายเสือ แต่เตรียมพร้อมย้ายทันทีหากจำเป็น

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


(ภาพจาก Facebook สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าจุฬาภรณ์)
กรมอุทยานฯ​ ยืนยัน! "สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าจุฬาภรณ์" ยังไม่ย้ายเสือ ด้าน​ จนท.ซ้อมรับมือสถานการณ์​ชายแดน พร้อมย้ายทันทีหากจำเป็น

เพจ "กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช" เปิดเผยข้อมูลการย้ายเสือในการดูแลของ "สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าจุฬาภรณ์" อ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งอยู่ใกล้เคียงกับพื้นที่เสี่ยงจากการปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา โดยยืนยัน ยังไม่มีการย้ายเสือออกนอกพื้นที่ แต่ก็มีการเตรียมพร้อมไว้แล้ว และพร้อมย้ายทันทีหากมีความจำเป็น

(ภาพจาก Facebook กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช)
"27 กรกฎาคม 2568​ นายสุทธิพงษ์ แกมทับทิม หัวหน้ากลุ่มเพาะเลี้ยงสัตว์ป่า​ เปิดเผยว่า​ จากความห่วงใยของอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ​ สัตว์ป่า​ และพันธุ์พืช​ ที่มีต่อเจ้าหน้าที่และสัตว์ป่าในการดูแลของสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าจุฬาภรณ์ จังหวัดศรีสะเกษ​ นั้น​ ทางสถานีฯได้ดำเนินการเตรียมความพร้อมโดยการซ้อมเพื่อเคลื่อนย้ายสัตว์ในความดูแล หากมีความจำเป็นอันเนื่องมาจากสถานการณ์ปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา โดยย้ำว่าเป็นการซ้อมเพื่อเตรียมการเท่านั้น ปัจจุบันยังไม่มีผลกระทบโดยตรงต่อการดูแลสัตว์ของสถานีฯ


สำหรับสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าจุฬาภรณ์ตั้งอยู่ในตำบลปรือใหญ่ อำเภอขุขันธ์ จังหวัดศรีสะเกษ ห่างจากแนวชายแดนประมาณ 13 กิโลเมตร และห่างจากจุดปะทะประมาณ 70 กิโลเมตร ซึ่งในพื้นที่ใกล้เคียงสถานีฯ ไม่มีเป้าหมายทางทหารแต่อย่างใด
สถานีฯ ได้เตรียมความพร้อมรับสถานการณ์ฉุกเฉินในการเคลื่อนย้ายสัตว์ หากได้รับการแจ้งเตือนจากฝ่ายปกครองหรือทหาร เราสามารถดำเนินการทันที" นายสุทธิพงษ์กล่าว


อย่างไรก็ตาม​ ถึงแม้จะไม่มีผลกระทบโดยตรงต่อการดูแลสัตว์ในขณะนี้ แต่สถานการณ์ดังกล่าวได้ส่งผลกระทบต่อขวัญและกำลังใจของเจ้าหน้าที่บางส่วน โดยเบื้องต้น ทางสถานีฯ ได้ให้เจ้าหน้าที่ผู้หญิงและเด็กออกจากพื้นที่ไปอยู่ในที่ปลอดภัยแล้ว คงเหลือเพียงเจ้าหน้าที่ผู้ชายที่ยังคงปฏิบัติหน้าที่ดูแลสัตว์ภายในสถานีฯ


ในส่วนของการเตรียมความพร้อมสำหรับการเคลื่อนย้ายสัตว์นั้น สถานีฯ ได้จัดเตรียมกรงสำหรับเคลื่อนย้าย เสือโคร่ง 15 ตัว และเสือดาว 1 ตัว ไว้เรียบร้อยแล้ว พร้อมกันนี้ได้ประสานงานกับสวนสัตว์อุบลราชธานี และวางแผนการเคลื่อนย้ายสัตว์ไว้อย่างเป็นระบบ เพื่อให้มั่นใจได้ว่าสัตว์ทุกตัวจะได้รับการดูแลอย่างปลอดภัยหากจำเป็นต้องเคลื่อนย้ายจริง"

(ภาพจาก Facebook กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช)
"สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าจุฬาภรณ์" มีพื้นที่กว่า 6,000 ไร่ บนรอยต่อของ 3 อำเภอ คืออำเภอภูสิงห์ อำเภอขุขันธ์ และอำเภอขุนหาญ เป็นพื้นที่เพาะเลี้ยงขยายพันธุ์สัตว์ป่า ก่อนที่จะปล่อยคืนสู่ธรรมชาติ เพื่อเป็นการรักษาความสมดุลของระบบนิเวศของป่า นอกจากนั้นสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าจุฬาภรณ์ ยังเปิดเป็นศูนย์การเรียนรู้ให้นักเรียน นักศึกษา และประชาชนที่สนใจได้เข้าศึกษา และเยี่ยมชมสัตว์ป่านานาชนิด

ทั้งนี้ ภายหลังจากมีเหตุการณ์การปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ทางสถานีฯ ได้ประกาศขอปิดการท่องเที่ยวจนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่สภาวะปกติ เพื่อความปลอดภัยของประชาชน ตั้งแต่วันที่ 25ก.ค. 68 เป็นต้นไป

(ภาพจาก Facebook กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช)

#########################################

สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือ ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ Youtube :Travel MGR และ Instagram : @travelfoodonline และ TikTok : @travelfoodonline


กำลังโหลดความคิดเห็น