วันที่ 25 มิถุนายน 2568 เป็นวันครบรอบ 109 ปี การเปิดใช้งานสถานีรถไฟกรุงเทพ แฟนเพจพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทย ได้นำเสนอเรื่องราวและภาพถ่ายทรงคุณค่าไว้ให้ได้ชม
“สถานีรถไฟกรุงเทพ” หรือ “หัวลำโพง” นับเป็นสัญลักษณ์ทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญแห่งการคมนาคมของไทย มีบทบาทสำคัญทั้งทางประวัติศาสตร์ สถาปัตยกรรม และศิลปกรรม มามากกว่า 1 ศตวรรษ โดยเริ่มต้นการก่อสร้างขึ้นในช่วงปลายรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ ๕) ในปี พ.ศ. 2453 แล้วเสร็จสมบูรณ์พร้อมเปิดใช้งาน เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2459
โดยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ ๖) เสด็จฯ มาทรงกดปุ่มสัญญาณไฟฟ้าปล่อยขบวนรถไฟขบวนแรกเข้าสู่สถานีอย่างสมพระเกียรติ
อาคารสถานีรถไฟกรุงเทพโดดเด่นด้วยรูปทรงกระบอกครึ่งซีก ที่สะท้อนอิทธิพลศิลปะอิตาเลียนผสมเรอเนสซองซ์ ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากสถานีรถไฟเมืองแฟรงก์เฟิร์ต ประเทศเยอรมนี ในส่วนของวัสดุก่อสร้างและงานตกแต่งได้รับการคัดสรรอย่างพิถีพิถัน ไม่ว่าจะเป็นบันได เสาหินอ่อน หรือจะเป็นเพดานไม้สักสลักลวดลายวิจิตร รวมไปถึงกระจกสีที่ไม่เพียงให้ความสวยงาม แต่ยังช่วยกรองแสงและระบายความร้อนอีกด้วย อีกทั้งนาฬิกาเรือนใหญ่ขนาด 160 ซม. ที่ติดตั้งเหนือโดมสถานี ยังคงทำงานอย่างเที่ยงตรงจากระบบไฟฟ้ากระแสตรง บอกเวลาให้แก่ผู้สัญจรมาทุกยุคทุกสมัย
ส่วนด้านหน้าสถานีมีอนุสาวรีย์ “ช้างสามเศียร” ตกแต่งด้วยสวนและน้ำพุร่มรื่น และภาพนูนพระบรมฉายาลักษณ์ของรัชกาลที่ ๕ ที่พนักงานการรถไฟฯ ได้จัดสร้างขึ้น เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลและเป็นสิ่งเตือนใจถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ ทั้งหมดนี้ล้วนเสริมความสง่างามและคุณค่าทางศิลปกรรมให้กับสถานีแห่งนี้
นอกจากการให้บริการผู้โดยสาร สถานีกรุงเทพในยุคแรกเริ่มยังเคยเป็นศูนย์ขนส่งสินค้าที่สำคัญ จนกระทั่งมีการโยกย้ายการขนถ่ายสินค้าไปยังย่านพหลโยธิน ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2503 จากนั้นสถานีกรุงเทพมีการปรับปรุงอีกหลายครั้ง เพื่ออำนวยความสะดวกและตอบโจทย์ผู้โดยสารอย่างรอบด้าน
ต่อมาในปี พ.ศ. 2541 นับเป็นก้าวสำคัญในการพลิกโฉมสถานีกรุงเทพ เพื่อให้สอดรับกับการเป็นเจ้าภาพเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 13 และเทศกาลอะเมซิ่งไทยแลนด์ จึงดำเนินการบูรณะและพัฒนาอาคารอันทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์โดยคงไว้ซึ่งการอนุรักษ์และพัฒนาอาคารสถานีกรุงเทพให้อยู่ในสภาพเดิม และมีเป้าหมายสำคัญในด้านการเพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้ใช้บริการ
ตลอดระยะเวลา 109 ปี สถานีกรุงเทพทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางการเดินทางของผู้โดยสาร แม้ว่าในวันนี้เส้นทางการเดินรถจะหนาแน่นน้อยลง แต่สถานีรถไฟกรุงเทพยังคงเป็นสถานที่ที่มีความสำคัญยิ่งทางประวัติศาสตร์ สถาปัตยกรรม ศิลปกรรม และการคมนาคมขนส่ง สะท้อนความรุ่งเรืองของการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานจากรุ่นสู่รุ่น ผ่านร้อนผ่านหนาว และพร้อมทำหน้าที่สืบสานคุณค่าทางวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ ควบคู่ไปกับการพัฒนาระบบขนส่งของไทยอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นศูนย์กลางการเดินทางและความภาคภูมิใจของคนไทยตราบนานเท่านาน