ผืนป่าชายเลนริมทะเลอันอุดมสมบูรณ์ ช่วยเป็นกำบังให้ชุมชน “สลักเพชร” ทางตอนใต้ของ “เกาะช้าง” หลบเร้นซ่อนกายจากคลื่นลมได้เป็นอย่างดี รวมทั้งความเป็นวิถีชุมชนแบบดั้งเดิมช่วยปรับลดความวุ่นวายคงเหลือเพียงเสียงจากธรรมชาติกระซิบกระซาบให้ผู้มาเยือนรู้สึกผ่อนคลายเหมาะแก่การพักกายใจ
หากนักท่องเที่ยวปักหมุดจุดหมายปลายทาง “เกาะช้าง” จังหวัดตราด พร้อมกับความต้องการสัมผัสความเงียบสงบแบบเดิมๆ เที่ยวแนวสโลว์ไลฟ์ ทันทีที่ขึ้นเกาะแล้วก็ขอให้เลี้ยวซ้าย เพื่อเดินทางไปยัง “หมู่บ้านสลักเพชร” ซึ่งรับรองว่าเป็นตัวเลือกที่ไม่ผิดหวัง
“หมู่บ้านสลักเพชร” เป็นหมู่บ้านที่มีขนาดใหญ่และเก่าแก่ที่สุดบนเกาะช้าง ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของเกาะ ชาวบ้านส่วนใหญ่ประกอบอาชีพทำการประมงชายฝั่ง ส่วนในฤดูกาลที่ฟ้าฝนไม่เป็นใจมีมรสุม ก็ยังมีการทำสวนดำรงชีพ ดังนั้นบรรยากาศแบบโรงแรมหรูหรา หรือความคึกคักแสงสีแบบเกาะท่องเที่ยวกลางทะเลนั้น จึงไม่ใช่จุดขายของเกาะช้างทางโซนนี้ แต่แลกมากับความโดดเด่นของความเงียบสงบ วิถีเดิมๆ และลักษณะภูมิประเทศที่มีป่าชายเลนกับทิวเขาโอบล้อมช่วยกำบังคลื่นลมได้ดี
ชวนมาทำความรู้จักไฮไลต์ เสน่ห์วิถีชุมชนเที่ยวแบบสโลว์ไลฟ์ที่ “หมู่บ้านสลักเพชร”
“วัดสลักเพชร”
วัดเก่าแก่ประจำหมู่บ้าน สร้างขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ. 2449 ในสมัยรัชกาลที่ ๕ เมื่อครั้งเสด็จประพาสเกาะช้าง และอ่าวสลักเพชร ศาสนสถานแห่งนี้ถือเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวบ้านสลักเพชร โดยเฉพาะชาวบ้านส่วนมากประกอบอาชีพประมง
ภายในวัดนั้นประกอบด้วยสิ่งสำคัญ ได้แก่ พระอุโบสถที่ตกแต่งด้วยรูปปั้นของพญานาค องค์เทพ และสัตว์เทพในป่าหิมพานต์ ด้านในมีองค์พระประธานเป็นพระพุทธรูปพระพุทธชินราช มีงานแกะสลักนูนต่ำด้านหลังพระประธาน รวมทั้งงานจิตรกรรมเกี่ยวกับพุทธศาสนาที่วิจิตรน่าชม
นอกจากนี้ยังมีพระพุทธรูปสำคัญ คือ “หลวงพ่อเพชร” พระพุทธรูปปางสมาธิ สร้างขึ้นจากโลหะสำริด เป็นศิลปะสมัยรัตนโกสินทร์ ที่มีความศักดิ์สิทธิ์ตามความเชื่อของชาวบ้านในด้านคุ้มครองให้แคล้วคลาดจากภัยอันตราย โดยเฉพาะภัยจากท้องทะเล และช่วยให้การค้าขายเจริญรุ่งเรือง
“ป่าชายเลนบ้านสลักเพชร”
เส้นทางศึกษาธรรมชาติหรือมีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่าโครงการฟื้นฟูบูรณะป่าชายเลน บ้านสลักเพชร มีเนื้อที่กว่า 400 ไร่ เส้นทางเดินนี้มีระยะทาง 757 เมตรเป็นสะพานไม้สีแดงทอดยาวจนถึงทะเลให้เดินชมระบบนิเวศป่าชายเลน
ตลอดเส้นทางบนสะพานแดงนักท่องเที่ยวจะได้พบกับพืชพรรณป่าชายเลนต่างๆ ที่โอบล้อมอยู่รอบตัว ไม่ว่าจะเป็นพังกาหัวสุมดอกขาว (ประสักดอกขาว) พังกาหัวสุมดอกแดง (ประสักดอกแดง) มะนาวผี ตะบูนขาว ฝาดดอกขาว โดยเฉพาะซุ้มต้นฝาดดอกแดงอายุกว่า 150 ปีจนเรียกได้ว่าเป็นดงราชินีพรรณไม้ ส่วนริมทางเดินไม้เป็นกลุ่ม ต้นโปรงแดง โปรงขาวที่มีใบสีเขียวอมเหลือง เมื่อโดนแสงแดดจะกลายเป็นสีเหลืองทองสดใสงดงามมาก
เมื่อเดินมาจนสุดทางก็จะพบกับปากอ่าวที่เชื่อมต่อกับทะเลชมทัศนียภาพสวยงามแบบพาโนรามาเห็นเวิ้งอ่าวสลักเพชรทั้งหมด โดยนอกจากความอุดมสมบูรณ์ที่สัมผัสได้เมื่อเข้ามาแล้วยังเป็นอีกหนึ่งจุดถ่ายรูปที่สวยงามของเกาะช้าง
“บ้านรักกะลา”
สำหรับคนที่ชอบงานคราฟต์ งานศิลปะจากชุมชน ต้องไม่พลาดแวะมาเยือนบ้านรักกะลา ที่เปรียบได้กับศูนย์การเรียนรู้ และจำหน่ายสินค้าของที่ระลึก ซึ่งนับเป็นของดีประจำถิ่นสร้างสรรค์มาจากกะลามะพร้าว ทำเป็นข้าวของเครื่องใช้และเครื่องประดับต่างๆ มากมาย ทั้งโคมไฟ ที่ใส่ของ สร้อยคอ ต่างหู พวงกุญแจ จานรองภาชนะ ฯลฯ
กะลามะพร้าวถือเป็นวัสดุเหลือใช้จากวิถีชุมชนที่ได้มาจากชาวบ้านในละแวกใกล้เคียง นำมาออกแบบสร้างสรรค์จนได้รับให้เป็นของฝากระดับโอทอปเกาะช้าง ที่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ต้องแวะเวียนมาซื้อกลับไป โดยเฉพาะความมันวาว และสีดำขลับของกะลามะพร้าวบนเกาะช้าง ที่ถือเป็นเอกลักษณ์ (สอบถาม โทร. 09-6807-2731)
“โฮมสเตย์แม่สมบุญ”
สัมผัสประสบการณ์พักผ่อนแบบชาวชุมชนกับโฮมสเตย์ริมทะเลป่าชายแดน ที่มีทัศนียภาพเป็นป่าชายเลนอุดมสมบูรณ์ บริเวณสะพานไม้ทอดยาว โดยมีขุนเขามหึมาอยู่ไกลลิบๆ โฮมสเตย์ฯ แห่งนี้ นับเป็นหนึ่งในที่พักยอดนิยมของนักท่องเที่ยว มีห้องพักเป็นสัดส่วน มีห้องน้ำในตัวพร้อมกับเครื่องปรับอากาศ โดนใจนักท่องเที่ยวไทยแน่นอน
แต่สิ่งที่เป็นไฮไลต์คงต้องยกให้มื้อเย็น ที่เสิร์ฟอาหารทะเล และเมนูอร่อยจากฝีมือแม่ครัวท้องถิ่นที่รสชาติถูกปาก วัตถุดิบสดใหม่ เรียกได้ว่าอิ่มหนำสำราญแบบจุกๆ โดยแพ็คเกจแบบ 2 วัน 1 คืน รวมอาหาร 3 มื้อ ราคาเริ่มต้นที่ 1,200 บาท/คน เท่านั้น ส่วนรวมกิจกรรมท่องเที่ยวด้วย เช่น ดำน้ำ ก็เพิ่มอีกไม่กี่ร้อยบาท (สอบถาม 09-5487-6582 หรือ เฟซบุ๊ก: โฮมสเตย์แม่สมบุญ เกาะช้าง)
แหล่งท่องเที่ยวเชื่อมโยง
ชุมชนหมู่บ้านสลักเพชร ยังสามารถเดินทางท่องเที่ยวเชื่อมโยงไปยังแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังอื่นๆได้ เช่น หมู่เกาะใกล้เคียงอย่างเกาะเหลายา ซึ่งต้องไปขึ้นที่ท่าเทียบเรือบ้านสลักเพชร หรือ เดินทางไปเที่ยว “บ้านสลักคอก” อีกหนึ่งชุมชนที่มีกิจกรรมล่องเรือมาดอันโด่งดัง เป็นต้น