แจกพิกัดเที่ยวฟิน “นครนายก-ปราจีนบุรี” เต็มอิ่มเมืองน่าเที่ยวภาคตะวันออก

เที่ยวใกล้กรุงกับเมืองน่าเที่ยวภาคตะวันออก แจกพิกัดเที่ยว “นครนายก-ปราจีนบุรี” ทั้งไหว้พระ แวะคาเฟ่ กิจกรรมแอดเวนเจอร์ ย้อนรอยโบราณคดีภาคตะวันออก ทำยาดมสมุนไพร และสัมผัสผืนป่ามรดกโลก สนุกสุดฟินแบบเต็มอิ่ม

ช่วงกรีนซีซันที่มีฝนพรำเป็นบางวัน เป็นอีกช่วงของปีที่ออกเที่ยวได้อย่างมีความสุข กับความสดชื่นของบรรยากาศรอบๆ ตัว

ซึ่งหากใครไม่อยากเดินทางไกลๆ แนะนำจังหวัดเที่ยวใกล้กรุงอย่าง “นครนายก” และ “ปราจีนบุรี” สองเมืองน่าเที่ยวแห่งภาคตะวันออก ที่มีทั้งแหล่งท่องเที่ยวสวยๆ ธรรมชาติที่สดชื่น และกิจกรรมหลากหลายให้เลือกทำได้ตามความชอบ






โดยในทริปนี้ ออกเดินทางไปกับ ทริปฟินแบบสไมล์ @นครนายก - ปราจีนบุรี โดย การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ภูมิภาคภาคตะวันออก และ เมืองไทยประกันชีวิต โดยเมืองไทยสไมล์คลับ ไปสนุกสนานกับกิจกรรมหลากหลายที่นครนายกและปราจีนบุรี

ออกเดินทางแต่เช้าตรู่ จุดแรกที่ปักหมุดคือ “วัดเลขธรรมกิตติ์” ตั้งอยู่ที่ อ.บ้านนา จ.นครนายก เป็นวัดเก่าแก่ตั้งแต่ปลายสมัยกรุงศรีอยุธยา เดิมมีชื่อว่า วัดบางอ้อนอก ว่ากันว่า พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ ได้เคยเสด็จทางชลมารคและขึ้นมาประทับเพื่อเสวยพระกระยาหารที่วัดแห่งนี้

ไฮไลต์ของวัดนี้คือ “โบสถ์ปรกโพธิ์ ประตูกาลเวลาสู่ความโชคดี” เป็นบริเวณโบสถ์หลังเก่า ปัจจุบันหลงเหลือเพียงผนังบางส่วนและซุ้มประตูโบสถ์ที่ถูกปกคลุมด้วยรากและต้นโพธิ์ขนาดใหญ่ ที่ช่วยยึดโครงสร้างผนังและให้ร่มเงาได้อย่างดี ผนังฝั่งหนึ่งหลงเหลือหน้าต่างสองบาน มีรากไม้ขนาดใหญ่เลื้อยคลุมโดยรอบ ทำให้เป็นความสวยงามแปลกตา เชื่อกันว่า หากใครได้มาลอดซุ้มประตูโบสถ์ จะขอพรได้สมความปรารถนา โดยส่วนใหญ่จะมาขอพรด้านโชคลาภ การงาน และสุขภาพ






ไปต่อกันที่อีกวัดดังของนครนายก “วัดมณีวงศ์” ตั้งอยู่ที่ ต.ดงละคร อ.เมือง วัดเก่าแก่สมัยอยุธยามีอายุกว่า 100 ปี ที่นี่ขึ้นชื่อเรื่องสถาปัตยกรรมสุดอลังการ มีไฮไลต์คือ “วังรัตนมณีมหานครบาดาลนาคราช” ซึ่งทางวัดสร้างสรรค์เป็น “ถ้ำพญานาคในเมืองบาดาล” อันงดงามวิจิตรตระการตา

เมื่อเข้าสู่ภายในวังพญานาคซึ่งประดิษฐาน “พระรัตนมณีมหาบาดาล” พระพุทธรูปองค์ใหญ่สีทองอร่ามอยู่ท่ามกลางเหล่าพญานาค รวมถึงมีเจ้าปู่ศรีสุทโธ และ ย่าศรีปทุม มหาเทพนาคาที่นับถือของเหล่าผู้คนที่บูชาพญานาคได้กราบไหว้อีกด้วย

บรรยากาศภายในวังบาดาลจะมีลูกศรนำเส้นทางให้เดิน โดยทั้ง 2 ข้างทางจะประกอบไปด้วยเรื่องเล่า และรูปปฏิมากรรมของพญานาคทั้ง 4 ตระกูล ได้แก่ ตระกูลวิรูปักข์ (สีทอง) ตระกูลเอราปถะ (สีเขียว) ตระกูลฉัพพยาปุตะ (สีรุ้ง) และตระกูลกันหาโคตะมะ (สีดำ) รวมๆ แล้วกว่า 1 พันตัว ซึ่งในถ้ำประดับตกแต่งด้วยแสงไฟสีต่าง ๆ งดงาม




ไหว้พระกันแล้ว มาแวะพักกันสักหน่อยที่ “2nd November Cafe & O’ganic farm” คาเฟ่บรรยากาศร่มรื่นสไตล์โฮมมี ทางเข้าดูลึกลับสักหน่อย เพราะตัวคาเฟ่ตั้งอยู่ภายในสวนผลไม้ มีมุมให้นั่งพักผ่อนและมุมถ่ายรูปหลายมุม ที่นี่เสิร์ฟทั้งเครื่องดื่มอร่อยๆ เบเกอรี ไอศกรีม รวมถึงอาหารพวกสลัด สเต๊ก สปาเก็ตตี้ พิซซ่า เป็นต้น




สายแอดเวนเจอร์ ถ้ามาถึงนครนายกแล้วต้องไม่พลาดกิจกรรมผจญภัยทั้งหลาย ซึ่งก็มีให้เลือกตามแต่ความชอบ แต่สำหรับทริปนี้ขอแอดเวนเจอร์กันแบบซอฟท์ๆ มาที่ “สาริกา แอดเวนเจอร์พ้อยท์” เป็นศูนย์รวมกิจกรรมสนุกๆ มากมาย ทั้ง ล่องแก่งยางแม่น้ำนครนายก จักรยานเสือภูเขา เพ้นท์บอล ขับรถเอทีวี โรยตัวหน้าผา และอีกมากมาย

แนะนำคนที่จะมาเล่นกิจกรรมแอดเวนเจอร์ ให้โทรมาจองก่อนล่วงหน้า (ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ Facebook : Sarika Adventure Point นครนายก) โดยสามารถเลือกกิจกรรมได้เอง หรือจะจองแบบวันเดย์ทริป ก็จะมีกิจกรรมให้ทำ 4 อย่าง พร้อมอาหารกลางวัน และสำหรับคนที่มาทำกิจกรรม สามารถขับรถมาจอดไว้ที่นี่ได้เลย จะมีรถให้บริการไปยังฐานกิจกรรมต่างๆ พร้อมเจ้าหน้าที่คอยดูแล






ทำกิจกรรมหลากหลายกันตลอดทั้งวัน ก็พักผ่อนให้เต็มอิ่มตลอดทั้งคืน ตื่นเช้ามารับความสดชื่นกับบรรยากาศสบายๆ แวะเติมความสดใสที่ “Montra Cafe by ไร่วังบอน” ร้านกาแฟและร้านอาหารบรรยากาศสวยงามและเป็นธรรมชาติ ที่นี่มีความร่มรื่นของต้นไม้น้อยใหญ่ ลำธารเล็กๆ ที่ไหลผ่าน พร้อมมุมถ่ายรูปสวยๆ อีกเพียบ นอกจากนี้ ยังมี โซน Mini Zoo น่ารักๆ ให้ได้มาทักทายเหล่าสัตว์ต่างๆ อีกด้วย




ย้ายมาที่ จ.ปราจีนบุรี ประเดิมการเที่ยวในจังหวัดนี้ด้วยการย้อนเวลาไปอดีตที่ “พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ปราจีนบุรี” ที่นี่เก็บรักษาและจัดแสดงโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ ที่ค้นพบในจังหวัดปราจีนบุรี และจังหวัดในภูมิภาคภาคตะวันออก จัดแสดงเป็นห้องต่างๆ เช่น ห้องประวัติศาสตร์และโบราณคดีภาคตะวันออก ห้องชุมชนโบราณในภาคตะวันออก ห้องเมืองศรีมโหสถ เป็นต้น

ไฮไลต์สำคัญที่ห้ามพลาดในพิพิธภัณฑ์คือ การไปชม “พระพิฆเนศ” หรือ “พระคเณศ” ที่ขุดพบจากแหล่งโบราณคดีเมืองศรีมโหสถ ในยุคทวารวดี มีอายุราว 1,400 ปี เป็นองค์ที่มีอายุเก่าแก่ที่สุด และมีขนาดใหญ่ที่สุด เท่าที่พบหลักฐานในปัจจุบัน




หลายคนอาจจะเคยได้ยินชื่อเสียงของยาสมุนไพรจากโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ซึ่งตั้งอยู่ในจังหวัดนี้ แต่มื้อนี้จะชวนมาชิมสมุนไพรที่นำมาทำเป็นอาหาร ณ ร้าน “บ้านเล่าเรื่อง เมืองสมุนไพรปราจีนบุรี”

ร้านนี้ตั้งอยู่ในบ้านไม้เก่าที่ถูกเปลี่ยนสภาพมาเป็นสถานที่จัดแสดงประวัติความเป็นมาของเมืองปราจีนบุรี โดยเฉพาะภูมิปัญญาด้านสมุนไพร และยังมีอาหารและเครื่องดื่มสมุนไพรไว้คอยบริการ วัตถุดิบทุกอย่างมาจากแปลงผักในพื้นที่ หรือส่งตรงจากโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร และที่พิเศษคือ ปกติแล้วเราจะได้กินผักสดเป็นเครื่องเคียงของอาหารจานต่างๆ แต่ที่นี่เป็น ดอกไม้สดแบบกินได้ ที่ใช้แทนผักเคียง ซึ่งดอกไม้เหล่านี้ปลูกแบบออร์แกนิก และล้างทำความสะอาดอย่างดี จึงสามารถกินได้อย่างสบายใจ






ชิมสมุนไพรแล้ว มาเรียนรู้เรื่องราวของสมุนไพรกันต่อที่ “ภูมิภูเบศร” ศูนย์การเรียนรู้สมุนไพรและภูมิปัญญาสุขภาพ บางเดชะ เมื่อเข้ามาถึงที่นี่แล้วจะเห็นเรือนไม้ตั้งอยู่ ที่นี่คือ “พิพิธภัณฑ์หมอไทย (หมื่นชำนาญแพทยา)” หรือ “เรือนหมอพลอย” ซึ่งเป็นหมอหลวงที่อยู่ในยุครัชกาลที่ ๕ ตัวอาคารจำลองเป็นเรือนไม้เดิม อายุกว่า 100 ปี โดยใช้หลักแนวคิด บ้านเป็นยา ที่สร้างความสมดุลให้กับธาตุทั้ง 4 ของร่างกาย

ภายในเรือนนี้มีพื้นที่บอกเล่าเรื่องราวการเป็นหมอไทยสมัยก่อน เครื่องมือยา ตำรับยาโบราณ มีการจำลองการปรุงยาในแบบต่างๆ และที่นี่ยังมีกิจกรรมเวิร์กชอปทำยาดมสมุนไพร โดยให้ทดลองปรุงยาดมด้วยตัวเอง จากสมุนไพรกว่าสิบชนิด




ปิดท้ายทริปกับการไปเยือนส่วนผนึ่งของผืนป่ามรดกโลกดงพญาเย็น - เขาใหญ่ “อุทยานแห่งชาติทับลาน” (ฝั่งปราจีนบุรี) ที่นี่ยังคงมีพืชพรรณ์ป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์ โดยเฉพาะ “ป่าลาน” ผืนใหญ่แห่งสุดท้ายของประเทศไทยและของเอเชีย โดยต้นลานนั้นเป็นพรรณไม้ดึกดำบรรพ์ในวงศ์ปาล์ม และในไทยนั้นพบต้นลาน 3 ชนิด คือ ลานป่า ลานพรุ และลานวัด

แหล่งท่องเที่ยวของอุทยานแห่งชาติทับลานทางฝั่งปราจีนบุรี ที่สำคัญก็คือป่าลานแห่งนี้ และยังมีการทำกิจกรรมรักษ์โลก ด้วยการร่วมกันปลูกต้นลาน เพื่อความสมบูรณ์ให้กับผืนป่าแห่งนี้ และร่วมกันปล่อยปลา เพิ่มความสมดุลของระบบนิเวศให้กับแหล่งน้ำในพื้นที่อุทยานฯ

#########################################

สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือ ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ Youtube :Travel MGR และ Instagram : @travelfoodonline และ TikTok : @travelfoodonline