xs
xsm
sm
md
lg

งามไส้ เพจดังเผย “มือปริศนา” แอบเปลี่ยนชื่อ “ปราสาทตาเมือนธม” เป็น “ตาเมือนแมว” ใน Google Maps แล้วปักหมุดให้อยู่ฝั่งเขมร

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


กลุ่มปราสาทตาเมือน จ.สุรินทร์ สมบัติสำคัญของชาติไทย (ในภาพคือปราสาทตาเมือนธม)
เพจดังเผยมี “มือปริศนา” เข้าไปบิดเบือนข้อมูล ใน Google Maps เปลี่ยนชื่อ “ปราสาทตาเมือนธม” เป็น “ปราสาทตาเมือนแมว” พร้อมปักหมุดปราสาทดังกล่าวให้อยู่ในเขตแดนฝั่งเขมร อีกทั้งยังเปลี่ยนชื่อ “ปราสาทตาเมือน” เป็น “ปราสาทตาเมือนธม” นับเป็นวิธีการเจ้าเล่ห์ สร้างความสับสนให้กับคนที่ใช้ Google Maps ที่ไม่เคยลงพื้นที่จริง

เพจ “ปราชญ์ สามสี” เปิดเผยอีกหนึ่งข้อมูลน่าสนใจท่ามกลางสถานการณ์ “ช่องบก” จ.อุบลราชธานี ชายแดนไทย-เขมร ที่กำลังคุกร่นอยู่ในขณะนี้

มีมือปริศนาแอบเปลี่ยนชื่อปราสาทตาเมือนใน Google Maps แล้วปักหมุดให้อยู่ในเขตแดนฝั่งเขมร (ภาพ: เพจ ปราชญ์ สามสี)
โดยเพจ ปราชญ์ สามสี ได้โพสต์ข้อความถึงเรื่องดังกล่าวเมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2568 ว่า

...มหาเวทย์ย้ายปราสาท!!! เจ้าเล่ห์กันจริง!!!



🛡️ เมื่อไม่นานมานี้ ผมได้มีโอกาสตามดูเรื่อง กลุ่มปราสาทตาเมือน ซึ่งเป็นโบราณสถานสำคัญของไทยเราที่ตั้งอยู่ในเขตจังหวัดสุรินทร์ แถวชายแดนติดกัมพูชา หลายคนอาจไม่รู้ว่าจริง ๆ แล้ว กลุ่มปราสาทตาเมือนมีทั้งหมด 3 แห่ง นะครับ คือ


1. ปราสาทตาเมือน – อยู่ในเขตประเทศไทยลึกที่สุด
2. ปราสาทตาเมือนโต๊ด – อยู่กลาง ๆ ใกล้ชายแดน
3. ปราสาทตาเมือนธม – อยู่ชิดแนวชายแดนที่สุด



ทั้งสามแห่งนี้ ถ้าเทียบกับแนวพรมแดนตามหลักภูมิศาสตร์เดิมอย่าง “เส้นสันปันน้ำ” จะพบว่าทั้งหมด อยู่ในฝั่งประเทศไทยทั้งสิ้น และทางไทยก็เป็นผู้ดูแลมาโดยตลอด มีทั้งกรมศิลปากรดูแลโบราณสถาน และมีทหารไทยจากกองทัพบกประจำการในพื้นที่เพื่อรักษาความมั่นคง
แต่ที่น่าสนใจ (และน่าห่วง) คือ...
มีการบิดเบือนข้อมูลใน Google Maps ครับ
อยู่ ๆ วันหนึ่งเส้นเขตแดนในแผนที่ Google ก็เคลื่อนไป “ครอบ” ปราสาทตาเมือนธมให้อยู่ในฝั่งกัมพูชาเฉยเลย ทั้งที่ในความเป็นจริงมันยังอยู่ในเขตไทย
แถมยังมี “มือปริศนา” เข้าไปเปลี่ยนชื่อในระบบอีกด้วย
จาก ปราสาทตาเมือนธม → เปลี่ยนเป็น “ปราสาทตาเมือนแมว”
จาก ปราสาทตาเมือน (ที่ลึกในไทย) → ไปเปลี่ยนชื่อเป็น “ตาเมือนธม” ซะงั้น!
แบบนี้มันทำให้เกิด ความสับสนอย่างมากสำหรับคนที่ใช้ Google Maps โดยเฉพาะนักท่องเที่ยว นักศึกษา หรือแม้แต่คนทั่วไปที่ไม่เคยลงพื้นที่จริง



ผมจึงอยากเล่าเรื่องนี้เพื่อให้ทุกคน ระวังเรื่องการใช้งานแผนที่ออนไลน์ นะครับ
Google Maps ไม่สามารถใช้อ้างอิงเขตแดนระหว่างประเทศได้ เพราะมันสามารถถูกแก้ไขข้อมูลได้เหมือนกับ Wikipedia ใครจะใส่อะไรก็ได้ ถ้าไม่ตรวจสอบให้ดีอาจเข้าใจผิดกันไปใหญ่
เพราะฉะนั้นอย่าลืมครับ—
กลุ่มปราสาทตาเมือน มี 3 แห่ง และ “ทั้งหมดอยู่ในแผ่นดินไทย”
อย่าปล่อยให้ใครมาเปลี่ยนชื่อ เปลี่ยนแผนที่ แล้วบิดเบือนประวัติศาสตร์ของเราได้ง่าย ๆ แบบนี้เลยครับ


ปราสาทตาเมือนธม ปราสาทที่ใหญ่ที่สุดในกลุ่มปราสาทตาเมือน
นอกจากนี้เพจ ปราชญ์ สามสี ยังโพสต์เพิ่มเติมถึงเรื่องดังกล่าว ว่า

#ปราสาทตาเมือน เป็นของไทยแน่นอนครับ ไม่ใช่แค่เพราะแผนที่ แต่เพราะเราดูแลมาตลอด!
ช่วงนี้หลายคนคงเห็นข่าวเกี่ยวกับ กลุ่มปราสาทตาเมือน แถวชายแดนไทย-กัมพูชา โดยเฉพาะ “ปราสาทตาเมือนธม” ที่ใน Google Maps ดันแสดงเส้นเขตแดนแปลก ๆ ไปครอบไว้ฝั่งกัมพูชา 😐
ก็เลยมีคนสงสัยว่า… เอ๊ะ! แล้วตกลงมันอยู่ฝั่งไหนกันแน่?
วันนี้ผมเลยอยากเล่าให้ฟังแบบง่าย ๆ ว่า ทำไมปราสาทตาเมือนธมถึงเป็นของไทยอย่างชัดเจน ไม่ใช่แค่การอ้าง แต่เรามีทั้งเอกสารทางกฎหมาย และพฤติกรรมการดูแลพื้นที่จริงมานานมากแล้วครับ 🇹🇭
---
🔍 #เข้าใจก่อน
กลุ่มปราสาทตาเมือนมีทั้งหมด 3 แห่งครับ
1️.ตาเมือน – อยู่ในไทยลึกสุด
2️.ตาเมือนโต๊ด – อยู่กลาง ๆ
3️.ตาเมือนธม – อยู่ชิดชายแดนที่สุด
แม้ตาเมือนธมจะอยู่ติดพรมแดน แต่สิ่งที่สำคัญกว่าคือ "ใครเป็นคนดูแล" และคำตอบก็คือ ประเทศไทย
---
📜 #หลักฐานที่ยืนยันว่าเป็นของไทย
📌 ปี 2478 – กรมศิลปากรขึ้นทะเบียน “ปราสาทตาเมือนธม” เป็นโบราณสถานของชาติไทยอย่างเป็นทางการในราชกิจจานุเบกษา
📌 ตั้งแต่ปี 2533 – ไทยเริ่มบูรณะ ขุดแต่ง ปรับภูมิทัศน์ และประกาศแนวเขตพื้นที่โบราณสถานในปี 2535
📌 ทหารไทยจากกองกำลังสุรนารี ประจำการในพื้นที่ต่อเนื่องกว่า 30 ปี ไม่เคยมีเจ้าหน้าที่กัมพูชาเข้ามาควบคุมแม้แต่ครั้งเดียว
📌 ป้ายบอกทาง 🪧 แผนที่ 📍 กิจกรรมต่าง ๆ 📅 ทั้งหมดดำเนินการโดยหน่วยงานของรัฐไทย
📌 ตลอด 80 กว่าปี ฝั่งกัมพูชาไม่เคยเข้ามาบริหาร จัดการ หรือซ่อมแซม ใด ๆ ทั้งสิ้น
---
⚖️ #ใช้ได้ในศาลโลกไหม?
ได้แน่นอนครับ! เพราะศาลโลก (ICJ) พิจารณาตามหลัก “Effectivités” หรือ “การใช้อำนาจในทางปฏิบัติ”
👉 ใครดูแลพื้นที่จริง ใครใช้งบประมาณ ใครส่งเจ้าหน้าที่ดูแลต่อเนื่อง
ฝ่ายนั้นจะถูกมองว่า "มีอธิปไตยที่แท้จริง"
หลักการนี้เรียกว่า Effectivités ตามหลัก “Effectivités” หรือ “การใช้อำนาจในทางปฏิบัติ” ซึ่งศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) ใช้เป็นบรรทัดฐานในหลายกรณี เช่น กรณีเกาะ Pedra Branca หรือ Pulau Ligitan–Sipadan ฝ่ายที่แสดงพฤติกรรมการบริหารและควบคุมพื้นที่จริงโดยต่อเนื่อง จะได้รับการยอมรับว่ามีอธิปไตยเหนือพื้นที่นั้น
ประเทศไทยจึงมีสิทธิชอบธรรมเหนือกลุ่มปราสาทตาเมือนโดยพฤตินัยอย่างแน่นอน และการอ้างสิทธิผ่านแผนที่ที่ไม่เคยมีผลในทางปฏิบัติ ย่อมไม่มีน้ำหนักเทียบเท่าการควบคุมดูแลพื้นที่จริงอย่างยาวนาน
ถ้าไทยเราดูแลพื้นที่ต่อเนื่อง ใช้งบประมาณ ซ่อมแซม ส่งเจ้าหน้าที่ ฯลฯ มาตลอด นั่นแหละคือ “หลักฐานว่าพื้นที่นั้นเป็นของเรา” ซึ่งไทยเราทำแบบนั้นมาตลอด 80–90 ปีแล้ว
และประเทศไทยมีครบทุกข้อ 🎯
---
📌 #บทสรุปที่อยากฝาก
🧠 ในยุคที่ข้อมูลออนไลน์ถูกแก้ไขได้ง่าย ๆ เหมือน Wikipedia
อย่าหลงเชื่อแค่ภาพใน Google Maps เพราะมันเปลี่ยนได้ตลอด
📣 สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ “ข้อเท็จจริงที่พิสูจน์ได้”
และในกรณีนี้ ประเทศไทยมีทั้งประวัติศาสตร์ เอกสารทางกฎหมาย และการดูแลพื้นที่โดยพฤตินัย มาโดยตลอด
📍 กลุ่มปราสาทตาเมือนทั้ง 3 แห่งคือสมบัติของชาติไทย และเรามีสิทธิ์ชอบธรรมเต็มร้อย
---
📢 ใครเห็นด้วย ฝากแชร์ความจริงนี้ไว้ในโลกออนไลน์ เพื่อยืนยันสิทธิของเรา และส่งต่อความรู้ที่ถูกต้องนะครับ 🙏🇹🇭


ปราสาทประธานของปราสาทตาเมือนธม
สำหรับ “กลุ่มปราสาทตาเมือน” ตั้งอยู่ที่ บ้านหนองคันนา ต.ตาเมียง อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ซึ่งเป็นโบราณสถานศิลปะขอมโบราณที่ตั้งในประเทศไทยริมชายแดนไทย-กัมพูชา ประกอบไปด้วยปราสาท 3 หลังที่ตั้งอยู่ใกล้เคียงกัน คือ ปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตาเมือนโต๊ด และปราสาทตาเมือนหรือปราสาทบายกรีม เชื่อว่าในอดีตที่นี่เคยเป็นชุมชนโบราณเพราะเป็นเส้นทางผ่านช่องเขาสำคัญระหว่างเมืองพระนครไปยังพิมายปุระ

ปราสาทตาเมือนธม เป็นปราสาทที่ใหญ่ที่สุดในกลุ่ม ตั้งอยู่ในประเทศไทยติดชายแดนไทย-กัมพูชา สร้างขึ้นเพื่อเป็นศาสนสถานในศาสนาฮินดูลัทธิไศวนิกายซึ่งนับถือพระศิวะเป็นเทพสูงสุด เป็นโบราณสถานสมัยบาปวน อายุราวพุทธศตวรรษที่ 17

ปราสาทตาเมือนโต๊ด ปราสาทขนาดเล็กที่เชื่อว่าเป็นอโรคยาศาล
ปราสาทตาเมือนธม ประกอบด้วยอาคารหลายหลัง ได้แก่ ปราสาทประธาน ซึ่งมีหลักฐานสำคัญคือศิวลึงค์ซึ่งเป็นโขดหินธรรมชาติ หรือ “สวยัมภูลึงค์” และมีท่อโสมสูตรหรือท่อน้ำมนต์จากการสักการะศิวลึงค์ ต่อจากปราสาทประธานไปยังระเบียงคด นอกจากนั้นยังมีบรรณาลัยหรือหอเก็บคัมภีร์ 2 หลัง มีปราสาทวิหารอีก 2 องค์สร้างด้วยหินทราย ซึ่งปราสาทหลังหนึ่งพบว่ามีการจารึกภาษาขอมบนหินข้างเสาประตู มีระเบียงคด และสระน้ำกรุด้วยศิลาแลงอยู่ภายนอกอาคารอีกด้วย

ปราสาทตาเมือนโต๊ด เป็นปราสาทขนาดเล็กที่เชื่อว่าเป็นอโรคยาศาล หรือสถานที่รักษาพยาบาลของชุมชน ตั้งอยู่ห่างปราสาทตาเมือนธมราว 340 เมตร สร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นอโรคยาศาล 1 ใน 102 แห่งที่พระเจ้าชัยวรมันที่ 7 โปรดให้สร้างขึ้นเพื่อช่วยอาณาประชาราษฎร์ ตัวปราสาทก่อด้วยศิลาแลง มีกำแพงล้อมรอบ และมีสระน้ำขนาดเล็กอยู่บริเวณใกล้ ๆ อีกหนึ่งสระ

ปราสาทตาเมือน (บายกรีม) เป็นปราสาทหลังเล็กที่สุดในกลุ่มปราสาทตาเมือน
ส่วน ปราสาทตาเมือน (บายกรีม) เป็นปราสาทหลังเล็กที่สุด อยู่ห่างจากปราสาทตาเมือนธมไปราว 750 ม. ตัวปราสาทก่อด้วยศิลาแลง มีลักษณะเป็นห้องยาว เชื่อว่าเป็นธรรมศาลาหรือที่พักสำหรับคนเดินทาง เรียกได้ว่ากลุ่มปราสาทตาเมือนนี้มีความสมบูรณ์ในด้านของการอำนวยประโยชน์ให้แก่ผู้คนที่ใช้เส้นทางผ่านช่องเขา แสดงให้เห็นว่าบริเวณนี้ในอดีตคงจะมีชุมชนขนาดใหญ่ตั้งอยู่ หรือเป็นทางผ่านที่สำคัญในภูมิภาคแห่งนี้ในราวพุทธศตวรรษที่ 18

ภาพแกะสลักหินที่ยังหลงเหลือที่ปราสาทตาเมือนธม
สำหรับกลุ่มปราสาทตาเมือน แม้จะเคยสร้างขึ้นในสมัยอาณาจักรขอมโบราณที่เคยเรืองอำนาจอยู่ในดินแดนแถบนี้ แต่ว่าปัจจุบันไม่มีอาณาจักรขอมโบราณแล้ว มีแต่ประเทศไทยกับกัมพูชา ซึ่งกลุ่มปราสาทตาเมือนนั้นอยู่ในเขตแดนของประเทศไทยมาช้านาน

หนึ่งในหลักฐานสำคัญที่ยืนยันว่ากลุ่มปราสาทตาเมือนเป็นของไทยมาช้านาน (ภาพ: เพจ ปราชญ์ สามสี)
โดยหนึ่งในหลักฐานสำคัญที่ยืนยันว่ากลุ่มปราสาทตาเมือนเป็นของประเทศไทย คือ กรมศิลปากรมีพระราชบัญญัติโบราณสถาน โบราณวัตถุ ศิลปวัตถุและพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พ.ศ.2504 แก้ไข พ.ศ.2535 ให้อำนาจอธิบดีกรมศิลปากรประกาศขึ้นทะเบียนโบราณสถาน กรณีปราสาทตาเมือนธม ได้ประกาศขึ้นทะเบียนแล้ว ตั้งแต่วันที่ 8 มี.ค. 2478 ในสมัยของหลวงวิจิตรวาทการ เป็นอธิบดีกรมศิลปากร

ลวดลายทับหลังของปราสาทตาเมือน
นอกจากนี้ปัจจุบันกรมศิลปากรยังได้ทำการบูรณะกลุ่มปราสาทตาเมือนจนสวยงาม กลายเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อของจังหวัดสุรินทร์ ซึ่งมีนักท่องเที่ยว นักเรียน นักศึกษา และประชาชน เดินทางเข้ามาเที่ยวชม-ทัศนศึกษา กลุ่มปราสาทตาเมือน กันอย่างต่อเนื่อง ขณะที่โบราณวัตถุส่วนหนึ่งของกลุ่มปราสาทตาเมือนได้ถูกนำไปแสดงในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สุรินทร์ อีกด้วย





กำลังโหลดความคิดเห็น