xs
xsm
sm
md
lg

“วัดป่าวังน้ำเย็น” วัดป่าที่แตกต่าง แลนด์มาร์กสายบุญชื่อดังแห่งภาคอีสาน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ปิ่น บุตรี


วัดป่าวังน้ำเย็น แลนด์มาร์กสายบุญชื่อดังแห่งภาคอีสาน
“วัดป่าวังน้ำเย็น” หนึ่งในวัดดังแห่งภาคอีสาน ช่วงนี้กำลังเป็นที่จับจ้องของสังคมไทยอีกครั้ง หลังเกิดประเด็นดราม่าบนโลกโซเชียล เนื่องจากถูกเพจดังโจมตีว่าเป็นแหล่งฟอกเงิน จนทางวัดต้องดำเนินการแจ้งความต่อเพจดังกล่าว ที่ทำให้เสียหายเสื่อมเสียชื่อเสียง

งานนี้ชาวเน็ตส่วนใหญ่ต่างเห็นด้วยว่าควรใช้กระบวนการยุติธรรมพิสูจน์ข้อเท็จจริงกันว่า “ใครถูก-ใครผิด” และเรียกร้องให้แอดมินเพจที่ถูกแจ้งความซึ่งอยู่ในต่างประเทศเดินทางมาสู้คดีในบ้านเรา ไม่ใช่โพสต์กล่าวหาคนอื่นลอย ๆ เรียกดราม่าแล้วเปิดรับเงินบริจาคอยู่ร่ำไป

โบสถ์ไม้ตะเคียนทองที่ใหญ่ที่สุดในโลก
สำหรับวัดป่าวังน้ำเย็น หรือชื่อทางการคือ “วัดพุทธวนาราม” เป็นวัดราษฎร์สังกัดคณะสงฆ์ฝ่ายมหานิกาย ตั้งอยู่ที่ บ้านวังน้ำเย็น ตำบลเกิ้ง อำเภอเมือง จังหวัดมหาสารคาม

วัดป่าวังน้ำเย็น เริ่มก่อสร้างตั้งแต่ปี พ.ศ. 2549 โดย “พระครูภาวนาชยานุสิฐ” หรือ “พระอาจารย์สุริยันต์ โฆสปัญโญ” หนึ่งในพระเกจิชื่อดังของภาคอีสานแห่งยุคปัจจุบัน ซึ่งในขณะนั้นดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาส “วัดบูรพาเทพนิมิต” อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธ์

พระอาจารย์สุริยันต์ โฆสปัญโญ (ภาพ : วัดป่าวังน้ำเย็น จังหวัดมหาสารคาม)
พระอาจารย์สุริยันต์ ท่านเป็นศิษย์ของ “หลวงปู่คำพันธ์ โฆสปัญโญ” พระเกจิอาจารย์ชื่อดังของภาคอีสาน จึงทำให้ญาติโยมชาวมหาสารคามมีความเลื่อมใสศรัทธา ร่วมบริจาคที่ดินบริเวณที่ตั้งวัดป่าวังน้ำเย็นซึ่งปัจจุบันมีเนื้อที่กว่า 30 ไร่

วัดป่าวังน้ำเย็น ได้รับการยกฐานะขึ้นเป็นวัดเมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2555 สังกัดสงฆ์มหานิกาย โดยได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2562ปัจจุบันมีพระครูปลัดอาจริยวัฒน์ (ทรงศักดิ์ นิราลโย) เป็นเจ้าอาวาส และมี พระอาจารย์สุริยันต์ โฆสปัญโญ เป็นประธานสงฆ์ของทางวัด

พระมหาธาตุเจดีย์ศรีมหาสารคาม
สำหรับไฮไลต์สิ่งน่าสนใจของวัดป่าวังน้ำเย็นนั้นก็นำโดย “พระมหาธาตุเจดีย์ศรีมหาสารคาม” องค์สีทองอร่าม ที่ตั้งตระหง่านงดงาม สามารถมองเห็นโดดเด่นมาแต่ไกล

ภายในพระมหาธาตุเจดีย์ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ด้านในบรรจุพระพุทธรูปทองคำรวมถึงพระพุทธรูปปางต่าง ๆ และพระเครื่องจำนวนมากกว่า 84,000 องค์ พระพุทธรูปทรงเครื่องที่สร้างจากทองคำบริสุทธิ์ 3 องค์ น้ำหนักกว่า 12 กิโลกรัม

ภายในโบสถ์ไม้ตะเคียนทอง
ส่วนอีกหนึ่งไฮไลต์ที่สร้างชื่อโด่งดังให้กับวัดป่าวังน้ำเย็นก็คือ พระอุโบสถไม้ใหญ่ที่สุดในภาคอีสาน กว้าง 40 เมตร ยาว 80 เมตร โดยเสาและส่วนอื่น ๆ สร้างจาก “ไม้ตะเคียนทอง” เกือบทั้งหลัง ยกเว้นเพดานที่ทำจากไม้สัก จนได้รับการขนานนามว่าเป็น “อุโบสถไม้ตะเคียนทองที่ใหญ่ที่สุดในโลก” หรือ “โบสถ์ไม้ตะเคียนทองที่ใหญ่ที่สุดในโลก” กับเสาไม้ตะเคียนทองขนาดใหญ่หาชมได้ยากเรียงราย 32 ต้น ขนาด 4-5 คนโอบ ถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวอันซีนแห่งใหม่ที่นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาชมต่างตื่นตาตื่นใจกับความอลังการที่ได้พบเห็น

หลวงพ่อพระเทพประทานพร ในโบสถ์ไม้ตะเคียนทอง
ขณะที่ภายในโบสถ์ไม้ประดิษฐานองค์พระประธาน คือ “หลวงพ่อพระเทพประทานพร” พระพุทธรูปปางนาคปรก ที่ออกแบบโดย “อาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์” ศิลปินแห่งชาตินามอุโฆษ ซึ่งองค์พระแกะสลักจากไม้สักทองได้อย่างงดงามวิจิตรเปี่ยมศรัทธา ส่วนที่ด้านหน้าโบสถ์มีท้าวเวสสุวรรณหลายองค์ให้กราบสักการะ

นอกจากนี้วัดป่าวังน้ำเย็นยังมีสิ่งน่าสนใจอื่น ๆ อาทิ

ปราสาทสามฤดู
-“ปราสาทสามฤดู” เป็นปราสาทไม้ขนาดใหญ่ มีเสาไม้ขนาดยักษ์หลายคนโอบเรียงราย ขณะที่ภายในปราสาทไม้นั้นมี หลวงพ่อศักดิ์สิทธิ์ หลวงพ่อดวงดี พระพุทธรูปอื่น ๆ และพระแม่ธรณีบีบมวยผม ให้กราบสักการะ

พระพุทธรูปปางนั่งเมือง (องค์กลาง) ในศาลาสมเด็จพระพุฒาจารย์
-“ศาลาสมเด็จพระพุฒาจารย์” ศาลาไม้ขนาดใหญ่ มี “พระพุทธรูปปางนั่งเมือง” เป็นองค์พระประธาน ซึ่งเป็นพระพุทธรูปปางปฐมเทศนา ที่จำลองแบบมาจากพระผงดินเผากรุนาดูนอายุกว่า 1300 ปี ซึ่งวันนี้ทางวัดป่าวังน้ำเย็นกำลังเดินหน้าจัดสร้าง “พระนั่งเมืององค์ใหญ่ที่สุดในโลก” ขนาดความสูง 168 เมตร เพื่อให้เป็นแลนด์มาร์กธรรมแห่งใหม่ของภาคอีสาน


ภายในศาลาปฏิบัติธรรมไม้สัก 112 ต้น
-“ศาลาปฏิบัติธรรมไม้สัก 112 ต้น” ซึ่งกว่า 90% เป็นไม้สักทอง ภายในมีพระพุทธรูปหลากหลาย และรูปเคารพเหมือนหุ่นขี้ผึ้งบูรพาจารย์ทั่วฟ้าเมืองไทยจำนวน 108 องค์ ให้กราบสักการะ

นอกเหนือจากสิ่งน่าสนใจที่กล่าวมาแล้ว วัดป่าวังน้ำเย็นยังมี “หอระฆังเสาไม้ขนาดใหญ่” และ “ฆ้องยักษ์” ที่ตั้งอยู่ใกล้ ๆ กัน, “สะพานพญานาคราช” ทางเดินข้ามลำน้ำสู่พระมหาธาตุเจดีย์ศรีมหาสารคาม, “พระธาตุทันใจ” ที่สร้างเสร็จภายในหนึ่งวัน เป็นต้น

สะพานพญานาคราช
และนี่ก็คือสิ่งน่าสนใจอันหลากหลายของวัดป่าวังน้ำเย็น ที่วันนี้นอกจากจะเป็นหนึ่งในแลนด์มาร์กสายบุญ-สายมู แห่งใหม่มาแรงแห่งภาคอีสานแล้ว วัดป่าวังน้ำเย็นยังได้รับเลือกให้เป็น 1 ใน 25 แหล่งท่องเที่ยว “Unseen New Chapters 2566” ของ “การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)” ในปี 2566 จากผลโหวตของประชาชนคนไทยทั่วประเทศอีกด้วย

อย่างไรก็ดีสำหรับวัดป่าวังน้ำเย็นนั้น แม้ชื่อจะเป็นวัดป่าแต่ภายในวัดกลับมีบรรยากาศที่แตกต่างจากวัดป่าทั่ว ๆ ไป ที่สงบร่มรื่นเย็นกายเย็นใจไปด้วยแมกไม้เขียวขจี หากแต่วัดป่าแห่งนี้กลับอุดมไปด้วยสิ่งก่อสร้าง สิ่งศักดิ์สิทธิ์ และรูปเคารพต่าง ๆ มากมาย อันเป็นที่โดนใจบรรดาเหล่าสายบุญ-สายมูเตลูร่วมสมัย รวมถึงตอบโจทย์เทรนด์การท่องเที่ยวสายศรัทธายุคใหม่ ที่เน้นกราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ รูปเคารพ เพื่ออธิษฐาน ขอพร ขอเลข ขอหวย ขอให้รวย และขอสารพัดสิ่ง มากกว่าเน้นการศึกษาหลักธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า
11


ภายในปราสาทสามฤดู

หนึ่งในความหวังของผู้ไปวัดป่าวังน้ำเย็นหลาย ๆ คน




กำลังโหลดความคิดเห็น