เผยอีกมุม “ทราย สก๊อต” โดนบริษัทเรือฟ้อง ปมคลิปเผยแพร่ข้อมูลเท็จ ก่อนเกิดข่าวดังถูกบีบออกจากการทำหน้าที่

ประธานฯ บริษัทเรือชื่อดังในภูเก็ต เผย ได้แจ้งความ “ทราย สก๊อต” ทั้งอาญาและหมิ่นประมาท จากปมคลิปเผยแพร่ข้อมูลเท็จโยงภาพเรือให้อาหารสัตว์ทะเล พร้อมทั้งได้ส่งสารถึง อธิบดีกรมอุทยาน และ หน.พรรค ปชป. ในฐานะรมว.กระทรวงทรัพยากรฯ ถึงพฤติกรรมไม่เหมาะสมของทราย สก๊อต ตั้งแต่ก่อนเกิดข่าวนักอนุรักษ์คนดังถูกบีบให้ออกจากการทำหน้าที่

ยังคงเป็นอีกหนึ่งประเด็นร้อนแรงในสังคมโซเชียลสำหรับกรณี “ทราย สก๊อต” หรือ “สิรณัฐ ภิรมย์ภักดี” ถูกบีบให้ออกจากการเป็นที่ปรึกษาอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ที่ไม่ว่าจะมาจากกรณี “หนี ห่าว” ที่ทรายเข้าไปตักเตือนและเชิญนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่จงใจเหยียดเจ้าหน้าที่ชาวไทยออกจากพื้นที่ หรือ ปมไปขัดขวางผลประโยชน์ของธุรกิจท้องถิ่นโดยเฉพาะผู้ประกอบการบางส่วน แต่งานนี้ชาวเน็ตไทยส่วนใหญ่ยังร่วมแสดงพลังด้วยการพร้อมใจกันติดแฮชแทค #saveทราย #คืนทรายให้ทะเล เพื่อส่งกำลังใจให้กับนักอนุรักษ์ท้องทะเลคนนี้


อย่างไรก็ดีอีกมุมหนึ่งของสังคมโซเชียลในบ้านเรา ได้มีการเปิดเผยอีกมุมของทราย สก๊อต ที่ถูกบริษัทเรือชื่อดังในภูเก็ตฟ้องปมคลิปเผยแพร่ข้อมูลเท็จ ตั้งแต่ก่อนเกิดข่าวดังจนถูกบีบออกจากการทำหน้าที่ โดยบริษัท ไทยมารีน (ภูเก็ต) จำกัด ได้เผยแพร่แถลงการณ์ถึงเรื่องดังกล่าว ผ่านเพจ Thaimarine Phuket บ.ไทยมารีน ภูเก็ต เมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2568 ว่า

นายวรานนท์ ณ ตะกั่วทุ่ง ประธานกรรมการบริษัท ไทยมารีน (ภูเก็ต) จำกัด ได้เผยแพร่ผ่านเฟซบุ๊กบัญชีรายชื่อ Varanont Na Takuatung ถึงเรื่องดังกล่าว ตั้งแต่วันที่ ว่า


เนื่องจากกรณีที่มีการโพสข้อความและคลิปวีดีโอ ซึ่งทำให้บริษัทเกิดความเสียหาย ทางบริษัท ไทยมารีน (ภูเก็ต) จำกัด จึงขอชี้แจงดังนี้


คำแถลงการณ์



จาก บริษัท ไทยมารีน (ภูเก็ต) จำกัด


เรื่อง : การเผยแพร่ข้อมูลเท็จที่บิดเบือนข้อเท็จจริงและส่งผลกระทบต่อบริษัท
บริษัท ไทยมารีน (ภูเก็ต) จำกัด เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการผลิตและออกแบบเรือสปีดโบ๊ทคุณภาพสูงมาตรฐานระดับสากล ดำเนินธุรกิจในจังหวัดภูเก็ตมานาน



ขอแถลงการณ์เกี่ยวกับกรณีที่มีบุคคลเผยแพร่ข้อมูลอันเป็นเท็จ ซึ่งส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงของบริษัท แม้จะมีผู้ให้ข้อมูลที่ถูกต้องแก่เจ้าของเพจ แต่บุคคลดังกล่าวยังคงไร้คำขอโทษและไม่แสดงความรับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้น ซึ่งสะท้อนถึงเจตนาชัดเจนในการให้ร้ายบริษัท


บริษัท ไทยมารีน (ภูเก็ต) จำกัด ขอยืนยันว่า เราเป็นบริษัทผลิตเรือ ไม่ได้ดำเนินธุรกิจนำเที่ยวทางทะเล ซึ่งการนำชื่อบริษัทไปเชื่อมโยงกับเหตุการณ์ที่ละเมิดกฎหมายทำให้บริษัทเสื่อมเสีย บริษัทของเรามีชื่อเสียงมายาวนานในด้านคุณภาพการต่อเรือ ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้ารวมทั้งพันธมิตรทั้งในและต่างประเทศ เรามุ่งมั่นในการสร้างสรรค์เรือที่ได้มาตรฐานปลอดภัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม


แม้ว่าคลิปที่บิดเบือนข้อเท็จจริงจะถูกเผยแพร่ไปเป็นวงกว้าง แต่ บริษัท ไทยมารีน (ภูเก็ต) จำกัด ยังคงยืนหยัดในการรักษามาตรฐานอุตสาหกรรมการต่อเรือของไทย และจะดำเนินการทางกฎหมายกับผู้เผยแพร่เรื่องดังกล่าว เพื่อปกป้องชื่อเสียงของบริษัทต่อไป


ขอขอบคุณลูกค้าและพันธมิตรทุกท่านที่ยังคงให้ความไว้วางใจในผลิตภัณฑ์ของเรา
ขอแสดงความนับถือ
ฝ่ายบริหาร บริษัท ไทยมารีน (ภูเก็ต) จำกัด


ขณะที่ นายวรานนท์ ณ ตะกั่วทุ่ง ประธานกรรมการบริษัท ไทยมารีน (ภูเก็ต) จำกัด ก็ได้โพสต์เฟซบุ๊กบัญชีรายชื่อ Varanont Na Takuatung เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2568 ว่าอุทยานแห่งชาติทุกแห่งเป็นของประชาชน มิใช่ของคนหนึ่งคนใด.! พร้อมกับแนบจดหมายเปิดผนึก ถึงอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ร้องเรียน ทราย สก๊อต กรณีโพสต์คลิปลงในเฟซบุ๊กทำให้บริษัทของตัวเองเกิดความเสียหาย และส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ทางการท่องเที่ยว

ส่วนในวันที่ 18 มีนาคม 2568 นายวรานนท์ ได้โพสต์จดหมายเปิดผนึก สารจากประชาชน ผ่านเฟซบุ๊ก Varanont Na Takuatung ถึง ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ถึงพฤติกรรมไม่เหมาะสมของที่ปรึกษาอธิบดีกรมอุทยานฯ โดยระบุทิ้งท้ายว่า หากหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ จัดการเรื่องนี้ได้ อาจเรียกศรัทธาและความเชื่อมั่นของชาวใต้กลับคืนมา


นอกจากนี้นายวรานนท์ยังได้ตอบคอมเม้นต์ต่อลูกเพจ เมื่อวันที่ 19 เมษายน 2568 ในโพสต์ที่ลงภาพเรือถึงเรื่องดังกล่าวว่า...ได้แจ้งความดำเนินคดีอาญาแล้วครับ ทั้งสองบริษัทในมาตราที่มีบทลงโทษสูงสุดที่เกี่ยวกับประชาชนใน พ.ร.บ คอม รวมทั้งหมิ่นประมาทด้วยครับ...


รวมถึงนายวรานนท์ ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชวน The Echo (เผยแพร่เมื่อ 20 เม.ย.68) โดยมีส่วนหนึ่งระบุว่า

“เราเป็นโรงงานต่อเรือถูกต้องตามกฎหมาย ไม่ได้ให้บริการท่องเที่ยว แต่กลับมีชื่อบริษัทปรากฏในข้อความประกอบคลิปอย่างชัดเจน โดยมีการตัดต่อภาพเรือรวมกับเหตุการณ์ให้อาหารสัตว์ทะเลอย่างผิดวิธี”

“เราเห็นด้วยกับการอนุรักษ์ ทุกคนในพื้นที่ก็รักทะเลเช่นกัน แต่การกระทำที่กระทบต่อชื่อเสียงของคนอื่น และไม่รับผิดชอบนั้น ไม่ยุติธรรม” นายวรานนท์กล่าว


และนี่ก็คืออีกมุมหนึ่งจากเรื่องราวที่แตกออกมาจากประเด็นดราม่า ทราย สก๊อต ถูกบีบออกจากตำแหน่งที่ปรึกษาอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ซึ่งบทสรุปของคดีความนี้คงต้องติดตามกันต่อไป