26-30 มีนาคมนี้! ชวนเที่ยวงานเทศกาลเที่ยวเมืองไทย ประจำปี 2568 ครั้งที่ 43 ณ ศูนย์สิริกิติ์ ยกทุกมิติท่องเที่ยวไทย สร้างแรงบันดาลใจ เดินทางรับ Grand Moment ทั่วไทยตลอดปี
นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานในงาน “เทศกาลเที่ยวเมืองไทย ประจำปี 2568 ครั้งที่ 43” ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ย้ำชัดเป็นหนึ่งใน Grand Festivity กิจกรรมสำคัญที่จะช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจด้วยการท่องเที่ยวไทย โดยปีนี้ยกทัพเสน่ห์ไทยอัตลักษณ์ 5 ภูมิภาคมาเสนอตามแนวคิด “5 Must Do in Thailand” ควบคู่กับ Carbon Neutral Tourism กับ 9 โซนกิจกรรมหลัก เพื่อสร้างแรงบันดาลใจในการเดินทางท่องเที่ยวในพื้นที่จริง รวมทั้งสะท้อนความตั้งใจในการยกระดับการท่องเที่ยวสู่ความยั่งยืนด้วยเป้าหมายลดปริมาณขยะไม่ได้แยกอยู่ที่ 10% ทั้งนี้ ททท. คาดว่าตลอด 5 วันเต็มจะมีผู้เข้าร่วมงาน 130,000 คน และสร้างการรับรู้ 45 ล้านคน-ครั้ง
นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า งานเทศกาลเที่ยวเมืองไทย ถือเป็นกิจกรรม Grand Festivity ที่สร้างความสำเร็จทางด้านการท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดีและเป็นที่จดจำของประชาชนคนไทยมาอย่างยาวนาน ซึ่งปีนี้ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดย ททท. มีกำหนดจัดงานในวันที่ 26-30 มีนาคม 2568 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ สะท้อนเจตนารมณ์อันสำคัญของการท่องเที่ยวในการนำพาทิศทางการท่องเที่ยวสู่เป้าหมายเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวทั่วโลก สร้างแรงบันดาลใจในการเดินทางท่องเที่ยวในพื้นที่จริง และผลักดันการท่องเที่ยวของประเทศไทยให้เติบโตตามเป้าหมายก้าวสู่การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ตลอดจนช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน ช่วยสร้างความสุข สร้างรายได้ สร้างรอยยิ้ม และสร้างเศรษฐกิจการท่องเที่ยวให้เติบโตอย่างแข็งแรง
นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการ ททท. กล่าวว่า เทศกาลเที่ยวเมืองไทย ประจำปี 2568 ครั้งที่ 43 ททท. ยกความมหัศจรรย์ของเมืองไทยเอาไว้ในงานเดียว โดยนำแนวความคิดนวัตกรรมมาผสมผสานกับวัฒนธรรมและเอกลักษณ์ของ 5 ภาคในรูปแบบต่าง ๆ ตามแนวคิด “5 Must Do in Thailand” ควบคู่กับแนวคิด Carbon Neutral Tourism สอดรับปี Amazing Thailand Grand Tourism and Sports Year 2025 เพื่อสร้างแรงบันดาลใจเดินทางไปพบกับ Grand Moment พร้อมรับความสุขทันที ที่เที่ยวไทยตลอดทั้งปี ทั้งยังคงเดินหน้าแนวทางการท่องเที่ยวยั่งยืนอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 ผ่านกิจกรรม ลดโลกเลอะ Zero Waste to Landfills กำหนด 14 จุดบริการคัดแยกขยะทั่วงาน เพื่อช่วยลดปริมาณขยะที่ส่งไปยังบ่อฝังกลบให้น้อยที่สุด พร้อมตั้งเป้าหมายท้าทายกับการลดปริมาณขยะที่ไม่ได้แยกสูงสุดที่ 10%
เทศกาลเที่ยวเมืองไทยในปีนี้ จะได้พบกับ 9 โซนกิจกรรมสุดยิ่งใหญ่ ได้แก่ 5 โซนหมู่บ้านภูมิภาค และ 4 โซนกิจกรรมสำคัญ ยกขบวนเสน่ห์ไทย 5 ภูมิภาค ทั้งด้านประเพณี วัฒนธรรม วิถีชีวิต ภูมิปัญญาและแหล่งท่องเที่ยวใหม่ เพื่อส่งต่อแรงบันดาลใจให้ทุกคนออกเดินทางรับ “สุขทันที ที่เที่ยวไทย” แต่ละโซนจัดเต็มนำเสนอแลนด์มาร์กสุดไอคอนิก จุดถ่ายภาพต้องเช็กอินผสานนวัตกรรมการท่องเที่ยวสุดล้ำสมัย ชวนเพลิดเพลิน ชอป ชิม ฟินกับอาหารและสินค้าท้องถิ่นจากทั่วประเทศ เรียนรู้ภูมิปัญญาผ่านกิจกรรมสาธิตและ DIY ที่น่าสนใจมากมาย และเพิ่มความสนุกตื่นตาตื่นใจไปพบโชว์วัฒนธรรมและร่วมสมัยที่ไม่ควรพลาด
เริ่มต้นที่ โซน 1 : Amazing Thailand สุขทันที 65 ปี ททท. ชวนมา “ฮีลใจ ไทยแลนด์” เช็กอินแลนด์มาร์กนิทรรศการ 65 ปี รูปแบบ TeamLab พร้อมถ่ายภาพวันวานกับ ฉายานิติกร นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมมากมายจาก อนุสาร อ.ส.ท. ทั้งการเสวนาและกิจกรรมเวิร์กช้อป แวะเติมความสดชื่น Refresh กับร้านกาแฟ "Amazing Coffee" และร่วมกิจกรรมลุ้นรับ Art toy Journey Collection Huuyaow & Worldboy สุดลิมิเด็ต กับ 1672 Travel Buddy
โซนที่ 2 หมู่บ้านภาคตะวันออก สนุกสุดเอ็กซ์ตรีมกับทุกเฉดสีของดินแดนบูรพา ที่มาพร้อม 5 จุดขาย “สีสันสวรรค์ใกล้กรุง” “สีสันสวรรค์ทะเลตะวันออก” “สีสันสวรรค์นักกิน” “สีสันสวรรค์นักช็อป” “สีสันสวรรค์นักผจญภัย” ตื่นตาแลนด์มาร์กจำลองอาณาจักรผีเสื้อแห่งผืนป่าตะวันออก อุทยานแห่งชาติปางสีดา จังหวัดสระแก้ว และจุดถ่ายภาพ “น้องหมูเด้ง” คนมีสไตล์แห่งปี 2024 จาก The New York Times ความสูง 2 เมตรและเติมเสบียงกับกองทัพร้านอาหารที่จะมาเสิร์ฟความอร่อยแบบถึงที่กว่า 50 ร้านค้า
โซนที่ 3 หมู่บ้านภาคกลาง เปิดบ้านต้อนรับผู้เยือนด้วย บรรยากาศหรูหราระดับพรีเมียม ย้อนยุคเชื่อมอดีตมาสู่ปัจจุบัน กับการจำลองสถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง) และโบกี้รถไฟ SRT Royal Blossom เนรมิตตลาดถนนคนเดินและหาบเร่ แผงลอย สะท้อนความสมบูรณ์ทุกมิติของที่ราบลุ่มแม่น้ำ และรื่นเริงไปกับโชว์จากศิลปินและการแสดงเชิงวัฒนธรรม อาทิ ศรราม น้ำเพชร เก่ง ธชย โก้ Mr. Saxman น้องเพชร กีตาร์ แตรงวงประยุกต์ประกอบดนตรีไทย ครูสุธีร์ สิงห์บุรี สุนทราภรณ์
โซนที่ 4 หมู่บ้านภาคเหนือ แอ่วเหนือสัมผัสเสน่ห์เมืองล้านนา พบไฮไลต์จุดถ่ายภาพ 3D น้องเอวา เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี และโซน “กระทรวงเสพความสุข” กาแฟภาคเหนือ จากร้านกระทรวงการคั่ว จังหวัดเชียงใหม่ โซน 365 Day Coffee at North กับชื่อเมนูสุดยูนีค เช่น “กาแฟปลัด”เมนูข้าราชการบำเหน็จ “กาแฟโคลด์บรูว์สกัดเย็น”/ข้าราชการบำนาญ “มัทฉะเข้มข้น”/ข้าราชการลากิจ
โซนที่ 5 หมู่บ้านภาคใต้ ชูวัฒนธรรมปักษ์ใต้ผ่านกิจกรรม หล๊บใต้บ้านเรา ภายใต้แนวคิด Creativity, Technology, Sustainability รับความสุขทันที ที่เที่ยวใต้ ห้ามพลาดเช็กอินแลนด์มาร์กวงเวียนสุรินทร์จังหวัดภูเก็ต เเละวังยะหยิ่ง จังหวัดปัตตานี และโซน “หลาดหรอยเพ Must Taste” รับประกันความหร่อยแรง กับเมนูอาหารรสใต้ หรอยแรงอก! การันตีรางวัลมิชลินที่ยกมาจาก 14 จังหวัดภาคใต้ ชวนดื่มด่ำสัมผัสวิถีแบบคนใต้ ทั้งกาเฟ โรตี ชาชัก เครื่องดื่ม
โซนที่ 6 หมู่บ้านภาคอีสาน หมานคัก ม่วนแฮง “เที่ยว กิน ฟิน อินอีสาน” ตื่นตาตื่นใจกับปรากฏการณ์มนต์เสน่ห์ทางวัฒนธรรมอีสานร่วมสมัย จากโลคอลสุดเลอค่า สัมผัส “ประเพณีสีอีสาน วิถีแห่งศรัทธา" ผ่านแลนด์มาร์กสุดจึ้ง มรดกล้ำค่าภูมิปัญญาพื้นบ้านผสานนวัตกรรม "ต้นกระธูปยักษ์ไฮเทค" ความสูง 7 เมตร สีสันสวยงามสดใส หมุนได้ 360 องศา ก่อนจะแซ่บลืมกับโซน “หม่องแซ่บนัว” จากทั้ง 20 จังหวัดของภาคอีสาน แบบ original ชวน "น้ำลายแตก" รวมกว่า 40 ร้าน
โซนที่ 7 พันธมิตรและห้าง ททท. ชวนออกเดินทางรับแรงบันดาลใจกับหน่วยงานพันธมิตร ททท. ได้แก่ อพท.,กฟผ., กระทรวงวัฒนธรรม, หอการค้าไทย,บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด, กรมการท่องเที่ยว, NARIT, บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน),การรถไฟแห่งประเทศไทย, SME Bank รวมถึง สมาคมชมรมธุรกิจท่องเที่ยว 8 หน่วยงาน เสนอขายแพ็กเกจท่องเที่ยวไทย ได้แก่ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย,สมาคมท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และผจญภัย (TEATA), สมาคมไทยธุรกิจท่องเที่ยว (ATTA), สมาคมไทยบริการท่องเที่ยว (TTAA), สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ (สทน.), สมาคมผู้ประกอบการนำเที่ยวไทย (สนท.), สมาคมส่งเสริมธุรกิจท่องเที่ยวไทย (สธทท.), สมาคมสมาพันธ์ธุรกิจท่องเที่ยวส่วนภูมิภาคแห่งประเทศไทย (TFOPTA)
โซนที่ 8 เวทีกลาง เปิดฟลอร์การแสดงสุดคึกคัก เสิร์ฟความสนุกสุดมัสน์แบบไม่พัก อาทิ ดนตรี ละครเวที Quick Change Show, การเดินแฟชั่นโชว์ผ้าไทย จาก 5 ภูมิภาค, การประกวดเทพีงานเทศกาลเที่ยวเมืองไทย, การแสดงของศิลปินชื่อดังมากาย ได้แก่ Purpeech, ศรราม น้ำเพชร, ก้านตอง ทุ่งเงิน, วง MEAN, ASIA 7,เอิ๊ต ภัทรวี, เรนิษรา, วงกางเกง,ต่าย อรทัย,ไรอัล กาจบัณฑิต, อ๋อมแอ๋ม เพชรบ้านแพง, Monica,เบล วริศรา, ดอกอ้อ ทุ่งทอง,เป๊ก ผลิตโชค,สุนทราภรณ์, Goldred, เต๋า ภูวศิลป์ และเล็ก รัชเมศฐ์
โซนที่ 9 Sustainable Tourism Goals (STGs) ชวนเที่ยวรักษ์โลกพร้อมแนวคิดการท่องเที่ยวคาร์บอนสุทธิ เป็นศูนย์ (Net Zero Carbon Tourism) เสนอแลนด์มาร์ก วาฬบรูด้า ประติมากรรมขยะพลาสติก และจุดพัก REST AREA ZONE บรรยากาศ camping ฟังเสียงบรรยากาศธรรมชาติ ฮีลใจชาร์ตพลัง
ทั้งนี้ ขอเชิญชวนให้ทุกคนดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน Amazing Thailand ซึ่งจะมีฟังก์ชันแผนที่ 3D และระบบนำทาง AR ช่วยให้ผู้เข้าร่วมงานสามารถเห็นผังการจัดงานแบบ 3 มิติ และของที่ระลึกจาก ททท. เพียงรับพาสปอร์ตจากบูธ 1672 Travel Buddy ที่โซนที่ 1 Amazing Thailand : สุขทันที 65 ปี ททท. แล้วสะสมยอดค่าใช้จ่ายภายในงาน ระหว่างวันที่ 26-30 มีนาคม 2568 ยอดค่าใช้จ่ายครบทุก 100 บาท จะได้รับการสแตมป์สะสม 1 คะแนนจากร้านค้า เมื่อสะสมคะแนนในพาสปอร์ตครบตามยอดที่กำหนด มารับของที่ระลึกได้เลย จำกัดจำนวนพาสปอร์ตเพียง 100 เล่มต่อวันเท่านั้น
ททท. คาดการณ์ว่าจะมี ผู้เข้าร่วมชมงานตลอด 5 วันจัดงานจำนวน 130,000 คน สร้างการรับรู้ 45 ล้านคน-ครั้ง สำหรับผู้ที่สนใจ สามารถเข้าร่วมงาน “เทศกาลเที่ยวเมืองไทย ครั้งที่ 43 ประจำปี 2568” วันที่ 26-30 มีนาคม 2568 ตั้งแต่เวลา 10.00 - 21.00 น. ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เข้าร่วมงานฟรี โดยสามารถใช้บริการขนส่งสาธารณะ ได้แก่ รถไฟฟ้า MRT สถานีศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์, เดินทางโดยรถแท็กซี่ ณ จุดบริการ รับ - ส่ง ชั้น G บริเวณฝั่งทะเลสาบ, รถประจำทาง สาย 136 ทั้งนี้สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ TAT Contact Center โทร. 1672 Travel Buddy
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือ ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ Youtube :Travel MGR และ Instagram : @travelfoodonline และ TikTok : @travelfoodonline