ภายในรั้วสีขาวใจกลาง “วัดโพธิ์” โอบล้อมสวนหย่อมขนาดใหญ่เอาไว้ ซ่อนความงามของมวลหมู่ดอกไม้สะพรั่งบานอวดสีสันสดใส ตรึงสายตาด้วยการตกแต่งภูมิทัศน์สวยงามราวกับเป็นฉากในวรรณคดี สถานที่แห่งนี้ เรียกว่า “สระจระเข้”
วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร หรือวัดโพธิ์ นับเป็นสถานที่สำคัญแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ซึ่งไม่เพียงเป็นมรดกล้ำค่าของประเทศไทย แต่ยังได้รับการยอมรับว่าเป็นสถานที่สำคัญระดับโลก
องค์การยูเนสโกยกย่องให้เป็น “มรดกความทรงจำแห่งโลก” นั่นคือ “จารึกวัดโพธิ์” ที่ว่าด้วยภูมิปัญญาไทย และสรรพศาสตร์แขนงต่างๆ ขณะที่ต้นตำรับการนวดวัดโพธิ์ ถือเป็นจุดกำเนิดการนวดแผนไทย ซึ่งได้รับการรับรองให้เป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของมนุษยชาติ พร้อมทั้งมี “พิพิธภัณฑ์นวดไทย” ที่ให้ความรู้ด้านศาสตร์วิชาการนวดแผนไทยแก่ผู้สนใจ
วัดโพธิ์จึงแทบไม่เคยว่างเว้นจากนักท่องเที่ยวผู้มาเยือนจากทั่วโลก โดยไม่จำกัดเชื้อชาติศาสนาใดๆ เพราะแม้แต่คนต่างชาติต่างศาสนา ก็แวะมาศึกษาหรือชื่นชมในมุมมองของศิลปวัฒนธรรม ความสวยงาม หรือศาสตร์วิชาความรู้ที่เป็นมรดกของโลกได้
สระจระเข้ อันซีนวัดโพธิ์
เมื่อปลายเดือนธันวาคม พ.ศ. 2567 ที่ผ่านมา สมเด็จพระมหาธีราจารย์ (ปสฤทธ เขมงกโร) กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าคณะใหญ่หนเหนือ เจ้าอาวาสวัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามหรือวัดโพธิ์ เปิดเผยว่า วัดโพธิ์ ได้เปิด “สระจระเข้” Unseen แห่งใหม่ของวัดโพธิ์ เป็นสวนขนาดใหญ่ปลูกพรรณไม้และไม้ดอกในวรรณคดีอยู่บริเวณกลางวัด มีความร่มรื่น
มีสระน้ำและตรงกลางสระมีภูเขาและบันไดเล็กสามารถเดินขึ้นไปได้ บริเวณด้านบนจะมีเจดีย์ขนาดเล็กเป็นที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ส่วนบริเวณโดยรอบขอบสระ ปลูกพรรณไม้และไม้ดอกในวรรณคดี ถือเป็นสวนรูปแบบวัฒนธรรมไทยแท้
ความจริงแล้วสระจระเข้แห่งนี้ ไม่ใช่สถานที่แห่งใหม่เสียทีเดียว แต่ถือเป็นสวนเก่าแก่ทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ ที่ได้รับการบูรณะซ่อมแซม ก่อนจะเปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้ามาชื่นชมความงดงามได้อีกครั้ง
มีข้อความบันทึกจากหนังสือ สู่ราชสำนักสยาม : บันทึกการเดินทางของคณะทูตจากข้าหลวงใหญ่ แห่งอินเดียถึงราชสำนักสยามและญวน Journal of an embassy from the governor-general of India to the courts of Siam and Cochin China / โดย จอห์น ครอฟอร์ด ทูตอังกฤษ ซึ่งระบุไว้ว่า
“ระหว่างหอสมุด (หอไตร) และศาลาการเปรียญมีบ่อน้ำเล็กๆ ภายในมีปลาจำนวนมาก และมีจระเข้หนึ่งตัว มีเหล่าพระสงฆ์คอยดูแล” จึงสันนิษฐานได้ว่าสระจระเข้นั้นมีมาตั้งแต่ยุครัตนโกสินทร์ตอนต้นแล้ว
ทั้งนี้ ภายในสระจระเข้ปัจจุบัน ไม่ได้มีจระเข้จริงเลี้ยงไว้ แต่ก็มีรูปปั้นจระเข้ขนาดเล็กที่มีความสวยงามสมจริงด้วยท่วงท่าแบบจระเข้ ประดับอยู่บริเวณริมน้ำในสวน
การบูรณะและเปิดใหม่ในรอบ 20 ปี
สมเด็จพระมหาธีราจารย์ กล่าวถึงที่มาของการเปิดสระจระเข้อีกครั้งว่า สระจรเข้ไม่ได้เปิดบริการให้คนเข้าชมมานาน ร่วม 20 ปี จึงอยากพัฒนาให้เป็นแหล่งเรียนรู้และจุดเข้าชมของนักท่องเที่ยว เพราะสระจระเข้ มีความร่มรื่นและมีเสน่ห์แบบไทยๆ ถ้าได้รับการพัฒนาหรือปรับปรุงขึ้นใหม่ จะเป็นสถานที่ที่น่าสนใจยิ่งนัก
“อาตมภาพ จึงได้ปรารภให้ฝ่ายเผยแพร่ของวัดพระเชตุพนฯ ซึ่งมีพระธรรมวชิรปัญญาจารย์ หรือเจ้าคุณเทียบ ซึ่งเป็นประธานฝ่ายและมีพระสุธีวชิรปฏิภาณ เป็นรองประธาน ช่วยดำเนินการพัฒนาขึ้นมาใหม่และเปิดบริการให้นักท่องเที่ยวเข้าชม น่าจะเกิดประโยชน์แก่วัดและผู้เข้าชม”
ทางด้านพระธรรมวชิรปัญญาจารย์ รศ.,ดร.( เจ้าคุณเทียบ) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระเชตุพนฯ กล่าวว่าสมเด็จพระมหาธีราจารย์ ได้ปรารภเรื่องการปรับปรุงสระจระเข้ขึ้นมาใหม่ อาตมภาพและคณะทำงาน ที่ได้รับมอบหมายซึ่งประกอบด้วยพระสุธีวชิรปฏิภาณ รองประธานฝ่ายเผยแพร่ พระมหาสิน พระมหานรินทร์ พระมหานพรัตน์และพระมหาวิจิตร จึงได้ดำเนินการปรับปรุงภูทิทัศน์ พื้นที่ภายในสระจระเข้และพื้นที่โดยรอบให้เป็นสวนขนาดใหญ่กลางวัดที่มีความร่มรื่นสามารถนั่งพักผ่อน หรือ นั่งชมความงดงามของบรรยากาศโดยรอบได้
บริเวณสระจระเข้ ยังมองเห็นความงดงามของพระมหาเจดีย์สี่รัชกาลอย่างชัดเจน ซึ่งวัดโพธิ์ได้ชื่อว่าเป็นวัดแห่งเจดีย์ เพราะมีเจดีย์มากถึง 99 องค์ โดยเจดีย์องค์ใหญ่และโดดเด่นที่สุดในวัด คือ มหาเจดีย์ขนาดใหญ่ 4 องค์ คือพระมหาเจดีย์ประจำรัชกาลที่ ๑ - ๔ ที่สามารถมองเห็นจากสระจระเข้ได้ โดยมีสวนอันงดงามเป็นฉากเบื้องหน้า ทั้งยังรายล้อมไปด้วยสถาปัตยกรรมของอาคาร วิหารต่างๆรอบด้าน
สระแห่งนี้จึงถือเป็น อีกหนึ่งอันซีน - อีกหนึ่งความมหัศจรรย์ของวัดโพธิ์ และเป็นจุดถ่ายภาพแห่งใหม่กลางวัดที่ควรค่าแก่การมาเยือน
ส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือ ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ Youtube :Travel MGR และ Instagram : @travelfoodonline และ TikTok : @travelfoodonline