xs
xsm
sm
md
lg

“ภูเก็ต” ครองแชมป์เมืองทำเงินท่องเที่ยวของไทย กวาด 4.9 แสนล้านบาท

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“ภูเก็ต” ครองแชมป์เมืองทำเงินท่องเที่ยว ประจำปี 67 กวาด 4.9 แสนล้าน – รัฐบาลลุยกระตุ้นเที่ยวไทย หวังดัน GDP พุ่ง


วันนี้ (10 มีนาคม 2568 ) เวลา 11.00 น. นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า จากข้อมูลของกรมการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พบว่า 10 จังหวัด ทำรายได้จากการท่องเที่ยวมากที่สุด ปี 2567 ได้แก่


1. ภูเก็ต 497,523.93 ล้านบาท
2. ชลบุรี 316,811.02 ล้านบาท
3. สุราษฎร์ธานี 119,098.39 ล้านบาท
4. เชียงใหม่ 103,822.38 ล้านบาท
5. กระบี่ 91,042.62 ล้านบาท
6. ประจวบคีรีขันธ์ 51,702.91 ล้านบาท
7. พังงา 50,897.28 ล้านบาท
8. สงขลา 50,286.40 ล้านบาท
9. เชียงราย 49,420.04 ล้านบาท
10. กาญจนบุรี 36,445.94 ล้านบาท

ทั้งนี้ จากสถิติ 10 จังหวัดทำรายได้มากที่สุดต่อการท่องเที่ยวจากปี 2567 ช่วยให้เห็นถึงแนวโน้มและศักยภาพของแต่ละจังหวัดในการดึงดูดนักท่องเที่ยว ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ช่วยในการวางแผนกำหนดกิจกรรมที่น่าสนใจ ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เดินทางมาท่องเที่ยว อีกทั้ง ยังเป็นโอกาสสำหรับจังหวัดต่าง ๆ ในการพัฒนาและปรับปรุงแหล่งท่องเที่ยวและบริการให้ดียิ่งขึ้น เพื่อรองรับความต้องการของนักท่องเที่ยว ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่ ส่งเสริมธุรกิจโรงแรม ร้านอาหาร และแหล่งท่องเที่ยวให้เติบโตยิ่งขึ้น


“รายได้จากการท่องเที่ยวของ 10 จังหวัดสะท้อนชัดเจนว่า อุตสาหกรรมท่องเที่ยวยังคงเป็นเสาหลักของเศรษฐกิจไทย โดยเฉพาะจังหวัดที่มีศักยภาพด้านธรรมชาติและวัฒนธรรมที่ดึงดูดนักเดินทางจากทั่วโลก รัฐบาลจึงเดินหน้าผลักดันปี 2568 ให้เป็น ‘ปีทองแห่งการท่องเที่ยวไทย’ ที่เดินทางได้ตลอดปี ไม่มีโลว์ซีซั่น พร้อมกระจายรายได้สู่เมืองหลักและเมืองรอง สร้างโอกาสทางเศรษฐกิจให้ทุกภาคส่วน นอกจากนี้ ยังยกระดับมาตรฐานการท่องเที่ยวไทย ด้วยโครงการ “โฮมสเตย์มาตรฐานกรมการท่องเที่ยว” กว่า 226 แห่งทั่วประเทศ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นด้านคุณภาพและความปลอดภัย ดึงดูดนักท่องเที่ยวคุณภาพ และเพิ่มมูลค่าการใช้จ่ายต่อหัวให้เติบโตอย่างยั่งยืน” นางสาวศศิกานต์ ระบุ

ส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือ ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ Youtube :Travel MGR และ Instagram : @travelfoodonline และ TikTok : @travelfoodonline


กำลังโหลดความคิดเห็น