“เกาะช้าง” ฟ้าสวย น้ำใส เสน่ห์เมืองน่าเที่ยวภาคตะวันออก

ตะลุยเที่ยว “เกาะช้าง” เกาะสวรรค์แห่งทะเลตราด ที่มีทั้งน้ำใส ฟ้าสวย หาดทรายขาว กับธรรมชาติที่ยังอุดมสมบูรณ์ พร้อมกิจกรรมให้เลือกทำมากมาย


พูดถึงทะเล “ตราด” เป็นอีกจุดหมายการท่องเที่ยวของคนรักทะเล ดินแดนสุดปลายบูรพาแห่งนี้ มีหลายเกาะที่งดงามให้ได้ไปสัมผัสผืนทราย ชายหาด และน้ำทะเลสวยใส

โดยเฉพาะที่ “เกาะช้าง” เกาะสวรรค์แห่งทะเลตราด อีกหนึ่งเกาะท่องเที่ยวยอดฮิตของทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ


“เกาะช้าง” เป็นเกาะสำคัญแห่ง “หมู่เกาะช้าง” หรือ “หมู่เกาะทะเลตราด” ที่ประกอบไปด้วยเกาะน้อย-ใหญ่ มากถึง 52 เกาะ โดยมีเกาะช้างเป็นเกาะที่มีขนาดใหญ่ที่สุด และใหญ่เป็นอันดับ 2 ของเมืองไทย (รองจากเกาะภูเก็ต)

เกาะช้างโดดเด่นทั้งในเรื่องของธรรมชาติทางทะเลที่งดงาม มีหาดทรายสวยใสหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็นหาดทรายขาว หาดคลองพร้าว หาดไก่แบ้ ฯลฯ ทั้งยังมีสภาพธรรมชาติป่าไม้ที่ยังอุดมสมบูรณ์ มีแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติป่าเขาอย่างน้ำตกธารมะยม น้ำตกคลองพลู เป็นต้น และยังมีกิจกรรมให้นักท่องเที่ยวได้เลือกทำอีกมากมาย


เกาะท่องเที่ยวยอดฮิตแห่งนี้ ก็เพิ่งได้รับการจัดอันดับให้เป็นสถานที่พักผ่อนเขตร้อนชื้นที่ดีที่สุดอันดับ 2 ของโลก โดยนิตยสาร Travel + Leisure สื่อชั้นนำด้านการท่องเที่ยวและไลฟ์สไตล์ เมื่อช่วงปลายปี 2567 ที่ผ่านมา

และสำหรับทริปนี้ ออกเดินทางไปกับ ทริปฟินแบบสไมล์ @ เกาะช้าง โดย การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ภูมิภาคภาคตะวันออก และ เมืองไทยประกันชีวิต โดยเมืองไทยสไมล์คลับ ไปสัมผัสเกาะช้างกันแบบชิลๆ ทั้งการเดินเล่นรับลมริมชายหาด ดำน้ำดูใต้ท้องทะเล สูดอากาศให้เต็มปอดกับการล่องเรือชมธรรมชาติ


เกาะช้างเลี้ยวขวา : หาดทราย ชายทะเล และความครึกครื้น 
หลังจากขึ้นเรือข้ามฝั่งมายังเกาะช้างแล้ว เราเลี้ยวขวามาตามเส้นทางถนน เดินทางมาสู่แหล่งท่องเที่ยวทางฝั่งขวาของเกาะช้าง โดยฝั่งนี้จะเป็นหาดทรายขาวสวย ที่พักหรูติดชายหาด ร้านอาหารต่างๆ และเป็นแหล่งท่องเที่ยวยามค่ำคืนที่คึกคัก ต้อนรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการแสงสีสักหน่อย

ชายหาดท่องเที่ยวของฝั่งนี้ ได้แก่ “หาดทรายขาว” ชายหาดที่ขึ้นชื่อที่สุดของเกาะช้าง มีแนวที่พัก ร้านอาหาร ร้านขายของมากมาย “หาดคลองพร้าว” หาดที่เหมาะกับการเล่นน้ำ เงียบสงบ แต่ก็ไม่เงียบเหงาจนเกินไป “หาดไก่แบ้” โซนยอดนิยาของเหล่าแบคแพคเกอร์ มีร้านอาหาร ที่พัก ร้านค้ามากมาย “หาดบางเบ้า” เป็นหมู่บ้านชาวประมงที่อยู่ปลายเกาะช้าง นักท่องเที่ยวนิยมมาชิมอาหารทะเลสดๆ ในราคาย่อมเยา


ทริปนี้เราเลือกพักกันที่หาดไก่แบ้ มีที่พักสวยๆ ริมทะเลให้เลือก มีร้านอาหาร และความคึกคักในยามค่ำคืน โดยใกล้ๆ หาดไก่แบ้ก็จะเป็น “จุดชมวิวไก่แบ้” เปรียบเสมือนเป็นแลนด์มาร์คของเกาะช้าง จุดชมวิวมีทั้งหมด 2 ชั้น สามารถเดินขึ้นเนินเขาไปยังด้านบนสุดของจุดชมวิวได้อย่างสะดวก 

บนจุดชมวิวไก่แบ้ ก็จะได้เห็นวิวหาดไก่แบ้ รวมถึงเกาะน้อยใหญ่ต่างๆ ทั้ง 4 เกาะ ได้แก่ เกาะมันใน เกาะมันนอก เกาะหยวกและ เกาะปลี ซึ่งจุดสูงสุด ชมวิวความสวยงามได้แบบ 180 องศาเลยทีเดียว รอชมวิวพระอาทิตย์ตกยามเย็นสวยๆ และอย่าลืมภาพคู่กับตู้ไปรษณีย์รูปจรวดสีแดง ที่ตั้งโดดเด่นอยู่บริเวณระเบียงจุดชมวิว




นอกจากจะเที่ยวตามชายหาดแล้ว ก็ยังมีกิจกรรมการไปดำน้ำดูปะการังและโลกใต้ท้องทะเล ทริปสั้นๆ หนึ่งวันกับการดำน้ำ 3 เกาะ เริ่มจาก "เกาะคลุ้ม" เกาะเล็กๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ด้านหลังเกาะช้าง ไม่ห่างจากอ่าวบางเบ้ามากนัก เพลิดเพลินกับการดำน้ำตื้นชมความงามใต้ท้องทะเล ปะการังที่สวยงามและปลาหลากหลายชนิด โดยเฉพาะ ปลาสลิดหินลายบั้ง ที่ว่ายมาทักทายกันจำนวนมาก 

ต่อด้วย “เกาะเหลายา” โดดเด่นด้วยหาดทรายขาว และน้ำใสเพลิดเพลินกับการว่ายน้ำเล่นรอบเกาะ พักผ่อนบนชายหาด และพักรับประทานอาหารกลางวันบนเกาะ และปิดท้ายด้วย “เกาะหวาย” เพลิดเพลินต่อกับการว่ายน้ำ ดำน้ำตื้นชมความงามของท้องทะเล ปะการังและปลาหลากหลายชนิด ที่เกาะหวายเต็มไปด้วย ปะการังเขากวาง และประการังพุ่ม และหอยเม่นที่บริเวณนี้ค่อนข้างจะชุกชุม แต่ก็เป็นสิ่งยืนยันความสมบูรณ์ของท้องทะเลที่นี่ได้เป็นอย่างดี


เกาะช้างเลี้ยวซ้าย : เที่ยวชุมชน ป่าชายเลน ชมธรรมชาติ
ส่วนเมื่อข้ามเรือขึ้นมายังเกาะช้างแล้ว หากเลี้ยวไปทางฝั่งขวาก็จะเป็นการท่องเที่ยวในอีกบรรยากาศ โดยฝั่งนี้ส่วนใหญ่จะเป็นชุมชนริมทะเล บรรยากาศธรรมชาติ และยังมีผืนป่าชายเลนขนาดใหญ่ที่สุดบนเกาะช้าง

ในเวิ้งอ่าว “บ้านสลักเพชร” มีโฮมสเตย์ที่ได้รับมาตรฐานกระจัดกระจายให้เลือกมากมาย มีจุดขายของการที่ผู้เข้าพักได้เรียนรู้วิถีชีวิตของชาวชุมชนดั้งเดิม ไปพร้อมกับที่พักซึ่งมีวิวสวยของธรรมชาติอันบริสุทธิ์




“บ้านสลักคอก” หมู่บ้านชาวประมงเล็กๆ ตั้งอยู่ทางด้านตะวันออกของเกาะช้าง ที่นี่เป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมอีกแห่งสำหรับนักท่องเที่ยว ด้วยกิจกรรมอันเป็นเอกลักษณ์หนึ่งเดียวของไทย คือ “การล่องเรือมาด”

เรือมาด เป็นพาหนะที่มีมาตั้งแต่ในสมัยโบราณของชาวบ้านแถบนี้ ลักษณะเป็นเรือขุดทำจากไม้ตะเคียน ใช้วิธีการแจวในการล่องไปตามผืนน้ำ ตามบันทึกประวัติศาสตร์ของเกาะช้าง ยังมีการสันนิษฐานว่า เมื่อครั้งที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ เสด็จประพาสมาที่หมู่บ้านสลักคอก พระองค์ทรงประทับเรือมาดเป็นราชพาหนะเพื่อชมทัศนียภาพอันงดงามของอ่าวสลักคอก




ทุกวันนี้ ชาวบ้านในหมู่บ้านสลักคอก ดำรงชีพด้วยการทำประมงพื้นบ้าน ความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติจึงไม่ได้เปลี่ยนแปลงตามกระแสท่องเที่ยว หมู่บ้านแห่งนี้มีพื้นที่ป่าชายเลนประมาณ 600 ไร่ ซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุดของเกาะช้าง เมื่อชาวบ้านมีทักษะในการแจวเรือเป็นทุนเดิม จึงใช้เรือมาดเข้ามาเป็นอาชีพเสริมให้กับชุมชน โดยจุดขายระหว่างเส้นทาง คือ ป่าโกงกางที่อุดมสมบูรณ์ พร้อมทิวทัศน์จากธรรมชาติอันบริสุทธิ์

และนอกจากเรือมาด ที่บ้านสลักคอกก็ยังมีกิจกรรม “พายเรือคายัค” ชมความงามของป่าโกงกางอย่างใกล้ชิดไปพร้อมกับการเก็บขยะที่ลอยอยู่บนน้ำหรือติดอยู่ที่รากของต้นโกงกาง ถือเป็นการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ที่ทั้งได้ชมธรรมชาติที่สวยงาม และช่วยกันดูแลสิ่งแวดล้อมไปด้วยในตัว (ติดต่อล่องเรือมาดและพายเรือคายัค ที่ ชมรมนำเที่ยวพื้นบ้านสลักคอก เกาะช้างใต้ โทร. 08-7748-9497)





#########################################

สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือ ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ Youtube :Travel  MGR และ Instagram : @travelfoodonline และ TikTok : @travelfoodonline