เที่ยว “บึงละหาน” ชัยภูมิ ทะเลสาบน้ำจืดใหญ่อันดับ 3 ของไทย เดินสะพานไม้ชมวิว ล่องเรือดูทุ่งบัวแดง ชมวิถีชีวิตชาวประมงสองฝั่งคลอง
“ชัยภูมิ” อาจจะเป็นเมืองที่ไม่คุ้นหูเหล่านักเที่ยวมากนัก แต่ที่นี่ก็มีหลากหลายสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็นวิถีชีวิตชาว วัดศักดิ์สิทธิ์ ประเพณีและวัฒนธรรม ไปจนถึงแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์
โดยเฉพาะที่ “บึงละหาน” บึงน้ำจืดที่ยังคงความอุดมสมบูรณ์ เป็นทั้งแหล่งน้ำของชาวบ้าน แหล่งทำกิน รวมถึงยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ที่น่าสนใจไม่น้อย
“บึงละหาน” อยู่ในความรับผิดชอบของ เขตห้ามล่าสัตว์ป่าบึงละหาน ครอบคลุมพื้นที่ตำบลละหาน ตำบลหนองบัวใหญ่ ตำบลหนองบัวบาน และตำบลบ้านกอก โดยมีพื้นที่ส่วนใหญ่อยู่ในบริเวณตำบลละหาน อำเภอจัตุรัส จังหวัดชัยภูมิ
โดยพื้นที่ของบึงละหาน มีขนาดประมาณ 18,000 ไร่ เป็นทะเลสาบน้ำจืด หรือในเชิงวิชาการเรียกว่าพื้นที่ชุ่มน้ำ ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดอันดับ 3 ของประเทศไทย โดยจะเป็นพื้นที่น้ำประมาณ 80% ที่เหลือจะเป็นเกาะ และทุ่งหญ้า
นายอภิรัฐ ทัดกลาง นักวิชาการป่าไม้ชำนาญการ หัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่าบึงละหาน ให้ข้อมูลว่า “บึงละหาน หลักๆ จะเป็นแหล่งน้ำของประชาชนในหลายอำเภอของชัยภูมิ เป็นแหล่งน้ำประปา เป็นแหล่งประมง เป็นแหล่งเก็บผัก หาอยู่หากินของชาวบ้าน ตอนนี้ก็จะทำเป็นพื้นที่ท่องเที่ยวด้วย ทั้งจังหวัดชัยภูมิและอำเภอจัตุรัส ก็พยายามหาจุดเด่นของบึงละหานให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว ซึ่งแนวโน้มของแหล่งท่องเที่ยวบึงละหานก็เป็นการอนุรักษ์ เป็นการท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ และท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมในท้องถิ่นได้”
“พื้นที่จุดท่องเที่ยวหลักๆ ก็คือจุดนี้ เรียกว่า ทุ่งบัวแดง หรือสะพานไม้ทุ่งบัวแดง ซึ่งสะพานไม้นี้ก็จะยาวประมาณ 500 เมตร จุดนี้คือจุดท่องเที่ยวหลัก ปกติช่วงนี้บัวแดงจะบานแล้ว ตั้งแต่ช่วงกุมภาพันธ์ไปก็จะเริ่มบาน แต่ปีนี้อาจจะช้าหน่อย ยังไม่ค่อยขึ้น ก็จะมีการท่องเที่ยวชมบัวแดง การศึกษาธรรมชาติ ท่องเที่ยวดูนกไปในตัวด้วย จุดนี้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ดูแลเป็นหลักโดยชุมชนพื้นที่ เป็นชาวบ้านชุมชนบ้านมะเกลือ มีร้านค้าอยู่ใกล้ๆ ตรงนี้ก็จะเป็นร้านค้าของชุมชนด้วย แล้วก็จะมีบริการเรือนั่งเที่ยวด้วย”
“จุดท่องเที่ยวจุดอื่นๆ ก็จะมีฝั่งบ้านละหาน ต.ละหาน ฝั่งนั้นก็จะมีทุ่งบัวแดงส่วนนึง จากนั้นก็จะมีจุดบ้านดอนละนาม ต.ละหาน จะอยู่ฝั่งตรงข้ามชุมชนบ้านมะเกลือ ก็จะมีทุ่งบัวแดง มีแหล่งท่องเที่ยวของชุมชนคล้ายๆ จุดนี้ ก็จะมีสองสามจุดหลักๆ ของบึงละหานที่เป็นที่ท่องเที่ยวตอนนี้ ทางเขตฯ ก็พยายามจะทำเป็นจุดท่องเที่ยวศึกษาธรรมชาติ ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ตอนนี้ก็จะเริ่มทำลานกางเต็นท์ มีกิจกรรมการดูนก การให้ความรู้เรื่องธรรมชาติ เรื่องพื้นที่ชุ่มน้ำ”
ความอุดมสมบูรณ์ของบึงละหาน ทำให้ที่นี่มีทั้งทุ่งบัวแดงที่กำลังเริ่มบานสะพรั่ง รวมไปถึงสัตว์น้องใหญ่ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่นี้ ไม่ว่าจะเป็น นกอีแจว นกอีโก้ง ที่เป็นนกประจำถิ่น มีกลุ่มของเป็ด เช่น เป็ดแดง เป็ดคับแค ถ้าเป็นกลุ่มของนกอพยพ แต่ละปีก็จะได้ลุ้น บางตัวก็ไม่เคยมาที่บึงละหานเลย อย่างปีนี้ก็ได้เจอนกปากช้อนหน้าดำ ถือว่าเป็นนกอพยพหายาก ในประเทศไทยมีรายงานการพบไม่กี่ครั้งในหลายๆ สิบปีที่ผ่านมา ในแต่ละปีก็จะได้ลุ้นว่าจะได้เจอนกหายากแต่ละชนิดเข้ามาในบึงละหาน
นอกจากนี้ก็ยังมีปลาต่างๆ ซึ่งที่นี่มีคล้ายๆ กับที่อื่น แต่ที่น่าสนใจคือ ปลากราย นำไปทำทอดมันปลากราย ที่นี่เป็นแหล่งของปลากราย ปลาเนื้ออ่อนหลายชนิด ปลาค้าว ปลาเนื้ออ่อน เป็นปลาท้องถิ่นที่ชาวบ้านสามารถนำไปแปรรูปได้ โดยผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นที่ทำจากปลาของชาวบ้านในชุมชนก็มีทั้ง ทอดมันปลากราย ปลาส้มไร้ก้าง และส้มปลา (ปลาส้มคือการใช้ปลาทั้งตัว ส่วนส้มปลาจะใช้แต่เนื้อปลาล้วนๆ)
สำหรับการท่องเที่ยวที่บึงละหาน สามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี แต่ละฤดูกาลก็จะมีความน่าสนใจแตกต่างกันไป โดยหัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่าบึงละหาน ให้ข้อมูลว่า สามารถชมทุ่งบัวแดงบานสะพรั่งได้ตั้งแต่เดือนมีนาคม-มิถุนายน (หรืออยู่ยาวไปจนถึงฤดูน้ำหลาก) ทั้งฝั่งบ้านมะเกลือ บ้านละหาน และบ้านดอนละนามด้วย
นอกจากทุ่งบัวแดงแล้ว ช่วงฤดูหนาว ราวเดือนตุลาคม-กุมภาพันธ์ ก็จะเป็นช่วงของการดูนก และชมนกอพยพ ที่จะมีการอพยพย้ายถิ่นของนกหลากหลายสายพันธุ์ ส่วนในฤดูฝน จะเป็นการท่องเที่ยวเชิงวิถีชีวิต ดูชาวบ้านหาปลา ยกยอ แหล่งที่เป็นหมู่บ้านชาวประมงก็จะดูคึกคักขึ้นมาเป็นพิเศษในช่วงฤดูฝน
และการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ที่ทางเขตห้ามล่าสัตว์ป่าบึงละหานแนะนำ ก็จะเน้นในช่วงฤดูหนาว ด้วยสภาพอากาศที่เหมาะสม ไม่ร้อนจนเกินไป มีกิจกรรมดูนกหลากหลายชนิด และสามารถชมทุ่งบัวแดงต่อได้เลย
ใครที่อยากมาชม “ทุ่งบัวแดง บึงละหาน” ในปีนี้บานช้ากว่าปกติเล็กน้อย แนะนำให้เริ่มมาชมความบานสะพรั่งของบัวแดงตั้งแต่ช่วงกลางเดือนมีนาคมเป็นต้นไป จนถึงราวเดือนมิถุนายน ช่วงที่เหมาะสมในการมาล่องเรือชมบัวแดงและวิถีชีวิตชาวประมง คือช่วงเช้า จนถึงเวลาประมาณ 10.00 น. เพราะเป็นช่วงที่บัวแดงจะบานสะพรั่ง
ส่วนอีกเวลาที่เหมาะในการมาล่องเรือคือช่วงเย็น ราวๆ 17.00 น. เป็นต้นไป แม้จะไม่มีดอกบัวบานสะพรั่งเหมือนในช่วงเช้า แต่ก็ยังสามารถชมทิวทัศน์รอบๆ บึงละหาน และวิถีชีวิตของชาวบ้านที่จะออกมาหาปลาในลำน้ำ และการยกยอในหมู่บ้านชาวประมง บริเวณคลองยายแก้ว ที่สองข้างทางจะเป็นกระท่อมของชาวบ้าน มียอ (เครื่องมือหาปลา) ทั้งสองฝั่งคลอง หากนั่งเรือไปจากจุดลงเรือบริเวณบ้านมะเกลือ ก็จะใช้เวลาราวๆ 10-20 นาที ถึงคลองยายแก้ว
โดยเป็นบริเวณจุดลงเรือ ก็จะมี “สะพานไม้ทุ่งบัวแดง” ที่ทอดยาวลงไปในบึงละหาน สามารถลงไปเดินเล่นถ่ายรูปได้ (ค่าบริการพายเรือของชาวบ้าน 100 - 150 บาทต่อคน / ค่าเดินสะพาน 10 บาทต่อคน)
และหากมาในช่วงเย็น อีกบรรยากาศที่จะได้สัมผัสคือการชมพระอาทิตย์ตกยามเย็นที่งดงาม แสงสีทองส่องสะท้อนผืนน้ำ ดูระยิบระยับจับตา ไม่ว่าจะเป็นการชมพระอาทิตย์ตกบริะวเณสะพานไม้ หรือการล่องเรือชมวิว ก็สวยงามไม่แพ้กัน
* * * * * * * * * * * * * *
สอบถามข้อมูลการท่องเที่ยว “บึงละหาน” เพิ่มเติมได้ที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานนครราชสีมา (ดูแลพื้นที่ นครราชสีมา, ชัยภูมิ) โทร. 0-4421-3366 Faceboook : ททท. สำนักงานนครราชสีมา TAT NAKHONRATCHASIMA
#########################################
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือ ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ Youtube :Travel MGR และ Instagram : @travelfoodonline และ TikTok : @travelfoodonline