ชวนเที่ยว 3 ไร่องุ่นในเขาใหญ่-วังน้ำเขียว ช่วงฤดูกาลเก็บเกี่ยว ที่ วิลเลจ ฟาร์ม ไวน์เนอรี่, ไร่องุ่นพีบี วัลเล่ย์ และ ไร่องุ่นกราน-มอนเต้ สัมผัสไร่องุ่นแบบใกล้ชิด เรียนรู้กระบวนการทำไวน์ รวมไปถึงการดื่มด่ำ “ไวน์เขาใหญ่” ที่ได้รับการขึ้นทะเบียน GI ของ จ.นครราชสีมา
พื้นที่ “เขาใหญ่-วังน้ำเขียว” ถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวของคนที่รักธรรมชาติ ชื่นชอบความร่มรื่นเขียวขจีของต้นไม้และภูเขา รักการมาพักผ่อนสูดอากาศบริสุทธิ์
และในพื้นที่ที่ยังคงแวดล้อมด้วยธรรมชาติอุดมสมบูรณ์นี้ ก็เป็นจุดกำเนิดของ “ไวน์เขาใหญ่” สินค้า GI หรือ สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ ของจังหวัดนครราชสีมา
“สินค้า GI” หรือ Geographical Indication หมายถึง สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ คือเครื่องหมายที่ได้รับจากการขึ้นทะเบียนกับกรมทรัพย์สินทางปัญญา ใช้กับสินค้าที่มาจากแหล่งผลิตที่เฉพาะเจาะจง ซึ่งคุณภาพหรือชื่อเสียงของสินค้านั้นๆ เป็นผลมาจากการผลิตในพื้นที่ดังกล่าว GI จึงเปรียบเสมือนเป็นแบรนด์ของท้องถิ่นที่บ่งบอกถึงคุณภาพและแหล่งที่มาของสินค้า
โดยใน จ.นครราชสีมา มีสินค้า GI ที่ได้ขึ้นทะเบียนไว้ล่าสุด จำนวน 11 รายการ และหนึ่งในนั้นก็คือ “ไวน์เขาใหญ่” หมายถึง ไวน์ที่ทำจากการหมักน้ำองุ่นสดสายพันธุ์ vitis vinifera ที่ปลูก เก็บเกี่ยวและผ่านกระบวนการทำไวน์ตามมาตรฐานที่กำหนด ในขอบเขตพื้นที่แหล่งภูมิศาสตร์ไวน์เขาใหญ่ในอำเภอปากช่องและอำเภอวังน้ำเขียว ของจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งอยู่นอกเขตป่าอนุรักษ์
และเมื่อมาเยือนเขาใหญ่-วังน้ำเขียว ในช่วงนี้ ซึ่งถือเป็นฤดูกาลเก็บเกี่ยวผลผลิต ก็พลาดไม่ได้ที่จะไปสัมผัสกับไร่องุ่น รวมถึงกระบวนการผลิตไวน์เขาใหญ่
วิลเลจ ฟาร์ม ไวน์เนอรี่
“วิลเลจ ฟาร์ม ไวน์เนอรี่” (Village Farm Winery) ไร่องุ่นแห่งวังน้ำเขียว เริ่มต้นขึ้นในราวปี 2543 จากพื้นที่การเกษตรดั้งเดิมที่ปลูกองุ่นสำหรับรับทานทั่วไป เปลี่ยนมาเป็นการปลูกองุ่นเพื่อผลิตไวน์ จนกระทั่งในปัจจุบัน กับพื้นที่รวมกว่า 240 ไร่
หลักๆ แล้ว ที่นี่จะปลูกองุ่นพันธุ์ชีราส ซึ่งเป็นพันธุ์ที่นิยมนำมาทำไวน์แดง (แต่ก็สามารถทำเป็นไวน์ขาวได้เช่นกัน โดยไม่ใช้ส่วนเปลือกนำไปบ่ม) ด้วยพื้นที่วังน้ำเขียวที่พอเหมาะกับการปลูกองุ่น เพราะช่วงกลางวันร้อน กลางคืนเย็น อากาศมีความต่างกันเยอะ ทำให้องุ่นเติบโตได้ดี พื้นที่มีความลาดเอียง ทำให้น้ำไม่ขัง และบางจุดในไร่ยังเป็นดินภูเขาไฟเก่า จึงทำให้องุ่นมีรสชาติที่แตกต่าง
การทำไวน์ของที่นี่จะใช้ไวน์เมคเกอร์จากฝรั่งเศส โดยไวน์จะเป็นสไตล์โลกเก่า เป็นไวน์ฝรั่งเศสแบบดั้งเดิม มีผลิตภัณฑ์ทั้งไวน์แดง 4 ตัว และไวน์ขาว 2 ตัว
ช่วงที่องุ่นให้ผลผลิตจะอยู่ราวๆ ปลายกุมภาพันธ์-มีนาคม ในทุกปีก็จะมีการจัดเทศกาลเก็บเกี่ยวผลผลิต ซึ่งก็จะมีการเปิดให้จองเข้าร่วมงาน มีทั้งการจองแบบเข้าร่วมงานพร้อมทานอาหาร และแบบรวมห้องพัก
สำหรับห้องพักของที่นี่ ปัจจุบันเปิดให้บริการ 12 ห้อง เฉพาะช่วงวันศุกร์-อาทิตย์ ในส่วนของร้านอาหารก็เปิดให้บริการเฉพาะวันศุกร์-อาทิตย์เช่นกัน และตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม เป็นต้นไป จะมีดนตรีสดที่ร้านอาหารในวันเสาร์-อาทิตย์
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 08-1877-3711 Facebook : Village Farm & Winery วิลเลจฟาร์ม แอนด์ ไวน์เนอรี่ - วังน้ำเขียว
ไร่องุ่นพีบี วัลเล่ย์ เขาใหญ่ ไวน์เนอรี่
“ไร่องุ่นพีบี วัลเล่ย์ เขาใหญ่ ไวน์เนอรี่” (PB Valley Khaoyai Winery) หนึ่งในไร่องุ่นไวน์ที่ใหญ่ที่สุดในเขาใหญ่ บนพื้นที่กว่า 2,000 ไร่ โดยองุ่นที่ใช้ทำไวน์จะปลูกอยู่ 4 พันธุ์ คือ ชีราส เทรมานินโญ่ เชอนิน บลองก์ และโคลอมบาร์ด และผลผลิตทั้งหมดจะถูกป้อนเข้าสู่โรงผลิตไวน์ของที่นี่เอง และในช่วงนี้ (ปลายเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม) ก็เป็นช่วงเก็บเกี่ยวผลผลิตองุ่นทำไวน์ จึงสามารถเห็นลูกองุ่นอยู่ตามต้น ก่อนจะถูกเก็บเพื่อนำไปทำไวน์ต่อไป
หากอยากมาสัมผัสบรรยากาศไร่องุ่นไวน์อย่างใกล้ชิด ที่นี่ก็มีโปรแกรม “ทัวร์ชมไร่องุ่น” ที่เปิดให้บริการทุกวัน ในเส้นทางท่องเที่ยวจะจอดให้ชมอย่างใกล้ชิด และถ่ายภาพเก็บความประทับใจทั้งหมด 3 จุด ได้แก่
“แปลงองุ่นผลทานสด” นอกจากที่นี่จะมีองุ่นสำหรับทำไวน์แล้ว ก็ยังมีอีกหนึ่งไฮไลต์คือ องุ่นทานสด เป็นองุ่นไร้เมล็ด สายพันธุ์ Marroo Seedless นำเข้าจากออสเตรเลีย องุ่นกินสดที่เมื่อสุกเต็มที่แล้วจะมีสีม่วงเข้มถึงดำ นอกจากจะมาชมและถ่ายรูปกันแล้ว ยังสามารถเก็บองุ่นเองได้ด้วย
“โรงงานผลิตไวน์” เป็นจุดที่ใช้ในการผลิตไวน์จริงๆ แต่จะไม่ได้มีการผลิตทุกวัน เพราะผลผลิตองุ่นไวน์จะเก็บเกี่ยวปีละครั้งเท่านั้น เมื่อเก็บองุ่นมาแล้วก็จะเดินเครื่องผลิตทันทีเผื่อให้ยังคงความสดและสมบูรณ์ที่สุด
ในจุดนี้ จะได้เห็นตั้งแต่ขั้นตอนการคัดแยกองุ่น การหมัก และการบ่ม โดยจะมีทั้งการบ่มในถังสแตนเลสขนาดใหญ่ และถังไม้โอ๊ค และทุกขั้นตอนตั้งแต่การตัดสินใจเก็บเกี่ยวองุ่นไปจนถึงกระบวนการทำไวน์ จะถูกดูแลโดยไวน์เมคเกอร์ เพื่อให้ได้ไวน์ที่มีคาแรคเตอร์เฉพาะตัวในแบบที่ต้องการ
“ไวน์เทสติ้ง” ชมกระบวนการผลิตทั้งหมดแล้วก็มาสู่การชิมไวน์ โดยจะได้ชิมไวน์ทั้งหมด 3 ชนิด คือ ไวน์ขาว ไวน์โรเซ่ และไวน์แดง หรือหากใครไม่ดื่มไวน์ ก็สามารถเลือกรับเป็นน้ำองุ่นชีราสแทนได้
ทัวร์ชมไร่องุ่น ให้บริการทุกวัน วันละ 4 รอบ (09.15 / 11.15 / 13.15 / 15.15 น.) ใช้เวลาประมาณ 70 นาที/รอบ ค่าเข้าชมคนละ 350 บาท สอบถามเพิ่มเติม โทร. 08-1733-8783, 08-5481-1741 Line ID : @pbvalleykhaoyai Facebook : PBValley.Khaoyai
ไร่องุ่นกราน-มอนเต้
“ไร่องุ่นกราน-มอนเต้” (GranMonte Vineyard and Winery) ตั้งอยู่ในระดับความสูง 350 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล พื้นที่รวมกว่า 100 ไร่ มีสภาพอากาศเหมาะสำหรับการปลูกองุ่นคุณภาพสูงสำหรับการผลิตไวน์ในเขตร้อนชื้น ซึ่งองุ่นไวน์ที่ผลิตมีหลากหลายสายพันธุ์ เช่น องุ่นสายพันธุ์ชีราช, เทมปรานิลโย, และการแบร์เนต์ โซวีนยอง ซึ่งเป็นองุ่นที่ผลิตไวน์แดง นอกจากนี้ยังมีองุ่นพันธุ์เชอแนง บลอง สำหรับทำไวน์ขาว ที่เหลือเป็นองุ่นกินสดทั้งมีเมล็ดและไร้เมล็ด
กราน-มอนเต้เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายไวน์คุณภาพสูง มีการผลิตนับแสนขวดต่อปี และนอกจากการผลิตไวน์แล้ว ที่นี่ยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังอีกแห่งหนึ่งของเขาใหญ่ ในรูปแบบการนำทัวร์ชมไร่องุ่น มีผู้บรรยายให้ความรู้เกี่ยวกับการปลูกองุ่น สายพันธุ์องุ่น การเข้าไปชมกระบวนการผลิตไวน์อย่างใกล้ชิด รวมถึงปิดท้ายด้วยการชิมไวน์ หรือแพร์ริ่งไวน์ขั้นพื้นฐาน (ส่วนเด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี หรือใครที่ไม่ดื่มไวน์ ก็จะได้รับน้ำองุ่นสดจากไร่แทน)
จุดแรกของการชมไร่องุ่น คือการนั่งรถรางลัดเลาะเข้าไปในไร่ โดยในช่วงนี้เป็นช่วงที่มีผลผลิตองุ่นทำไวน์ออกมา เราจึงได้เห็นลูกองุ่นสดๆ ที่ต้น และยังสามารถทดลองตัดองุ่นได้ด้วย พอเห็นภาพรวมเกี่ยวกับการปลูกองุ่น และองุ่นสายพันธุ์ต่างๆ แล้ว ก็เข้าสู่กระบวนการผลิตไวน์
ซึ่งหากมาในช่วงเก็บเกี่ยวผลผลิตก็จะได้เห็นการทำงานของจริง ตั้งแต่การคัดแยก การหมัก การบ่ม รวมไปถึงการจัดการของเหลือใช้จากกระบวนการทำไวน์ โดยที่ไวน์เนอรี่แห่งนี้นับว่าเป็น Zero Waste ไม่ว่าจะเป็นก้านองุ่นก็นำไปทำปุ๋ย เปลือกนำไปทำเป็นเหล้ากลั่น เมล็ดองุ่นแยกนำไปสกัดเป็นน้ำมันเมล็ดองุ่น 100% และจุดสุดท้ายคือไวน์เทสติ้ง โดยที่นี่จะมีให้ทดลองชิมไวน์ 4 ตัว แพริ่งกับอาหารที่คิดมาแล้วว่าเข้ากันได้ดีกับไวน์ชนิดนั้นๆ
ในฤดูกาลเก็บเกี่ยวองุ่น ตั้งแต่วันที่ 10 ก.พ. - 16 มี.ค. 68 มีแพคเกจทัวร์ไร่องุ่นสุดพิเศษ ได้สัมผัสบรรยากาศของฤดูกาลเก็บเกี่ยว มีให้เลือก 2 แบบคือ ทัวร์เก็บเกี่ยวองุ่นอย่างเดียว และ ทัวร์เก็บเกี่ยวองุ่นพร้อมเซตอาหาร 3 คอร์ส (ทัวร์มีทุกวัน จันทร์-ศุกร์ วันละ 5 รอบ เสาร์-อาทิตย์ และวันหยุด วันละ 6 รอบ)
และพิเศษ อีเวนท์ที่หนึ่งปีจะมีครั้งเดียว “Sparkling Harvest Festival 2025” ในวันที่ 22 ก.พ.68 ตั้งแต่เวลา 10.00-20.00 น. ภายในงานมีกิจกรรมแข่งขันเก็บองุ่นแดงสายพันธุ์ Syrah ซึ่งองุ่นที่แข่งกันเก็บเสร็จแล้ว จะถูกนำไปทำเป็น GranMonte Sparkling Rosé บรรจุใส่ขวดที่ลงมือเพ้นท์เอง และส่งให้ถึงบ้านในปีถัดไป
นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมอื่นๆ อีก เช่น ลิ้มรสไวน์ระดับพรีเมียมจากไร่ ชมขบวนรถโบราณคลาสสิค โชว์บอลลูนสุดอลังการ แข่งการกลิ้งถังโอ๊ค เพลิดเพลินไปกับดนตรีสดในบรรยากาศไร่องุ่นสุดโรแมนติก เป็นต้น สอบถามเพิ่มเติม โทร. 09-4831-0909 Line ID : @granmonteอีเมล reservation@granmonte.com Facebook : GranMonte Vineyard and Winery
#########################################
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือ ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ Youtube :Travel MGR และ Instagram : @travelfoodonline และ TikTok : @travelfoodonline