ซีรีส์ดรามาภาคต่อชื่อดังการันตีรางวัลระดับโลก “The White Lotus season 3” มีกำหนดเข้าฉายในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2568 ซึ่งขณะนี้กำลังเป็นกระแสในวงการอุตสาหกรรมภาพยนตร์ทั่วโลก คณะถ่ายทำได้ยกทัพนักแสดงและทีมงานต่างชาติเข้ามาถ่ายทำในประเทศไทยทั้งเรื่อง และยังมีนักแสดงชาวไทยที่มีชื่อเสียงร่วมแสดง อาทิ “ครูเล็ก ภัทราวดี, ดอม เหตระกูล เมธี ทับทิมทอง” นอกจากนี้ยังได้ซุปเปอร์สตาร์ระดับโลกอย่าง “ลิซ่า ลลิษา มโนบาล”มาร่วมแสดงในซีรีส์ภาคนี้อีกด้วย ทำให้ประเทศไทยได้รับความสนใจและถูกกล่าวถึงอย่างแพร่หลาย คาดว่าเมื่อซีรีส์ออกฉายอย่างเป็นทางการ จะมีนักท่องเที่ยวเดินทางตามรอยสถานที่ถ่ายทำในประเทศไทยเพิ่มมากขึ้นหลายเท่าตัว
นายจาตุรนต์ ภักดีวานิช อธิบดีกรมการท่องเที่ยว เปิดเผยว่า “คณะถ่ายทำซีรีส์ “The White Lotus season 3” ได้เข้ามาถ่ายทำในประเทศไทย เมื่อช่วงเดือนธันวาคม 2566 - สิงหาคม 2567
ใช้โลเคชั่นถ่ายทำใน 5 จังหวัด คือ กรุงเทพมหานคร จังหวัดภูเก็ต จังหวัดสุราษฎร์ธานี จังหวัดปทุมธานี และจังหวัดพังงา มีเงินลงทุนถ่ายทำมากกว่า 1,100 ล้านบาท สร้างงานให้กับทีมงานชาวไทยในอุตสาหกรรมภาพยนตร์กว่า 300 ราย”
นายจาตุรนต์กล่าวว่า “เหตุผลหลักในการเลือกประเทศไทยเป็นสถานที่ถ่ายทำ คือ มาตรการIncentive โดยซีรีส์เรื่องนี้ได้รับเงินคืนร้อยละ 20 ของค่าใช้จ่ายในประเทศไทย โดยก่อนหน้านี้
ผู้กำกับได้เลือกที่จะไปถ่ายทำ season 3 ที่ญี่ปุ่น แต่เมื่อพิจารณาถึงความคุ้มค่าจากมาตรการ Incentive ที่รัฐบาลไทยให้การสนับสนุน ประกอบกับความสวยงามของธรรมชาติ
ความพร้อมของสถานที่ถ่ายทำและความเป็นมืออาชีพของทีมงานไทย จึงตัดสินใจเข้ามาถ่ายทำในประเทศไทยโดยปรับเนื้อหาให้เข้ากับประเทศไทยมากยิ่งขึ้น ซึ่งเชื่อว่าจะช่วยกระตุ้นให้เกิดกระแสท่องเที่ยวตามรอยภาพยนตร์เช่นเดียวกับ ที่ฮาวาย สหรัฐอเมริกา และเกาะซิซิลี ประเทศอิตาลี ที่ได้รับประโยชน์จากการท่องเที่ยวเมื่อซีรีส์เรื่องนี้เข้าไปถ่ายทำ”
ปัจจุบันมาตรการ Incentive สำหรับคณะถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศในประเทศไทย มีอัตราร้อยละ 15 – 30 เมื่อคณะถ่ายทำมีเงินลงทุนถ่ายทำในประเทศไทยตั้งแต่ 50 ล้านบาทขึ้นไป โดยสามารถขอรับสิทธิประโยชน์เพิ่มเติมด้านอื่นๆ อาทิ การจ้างงานทีมงานหลักชาวไทย การส่งเสริมการท่องเที่ยว Soft Power การถ่ายทำใน 55 จังหวัดเมืองน่าเที่ยว และการทำ Post – Production ซึ่งในปีพ.ศ. 2568 ในระยะเวลาเพียง 1 เดือน มีภาพยนตร์ต่างประเทศที่มีงบประมาณลงทุนขนาดกลาง
และขนาดใหญ่สนใจเข้าร่วมมาตรการคืนเงินดังกล่าวแล้ว มากกว่า 10 เรื่อง เรียกได้ว่ามาตรการIncentive สำหรับคณะถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศ ของประเทศไทยสามารถสร้างแรงดึงดูด
และขยับเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ ของคณะถ่ายทำต่างประเทศ อันจะก่อให้เกิดประโยชน์ทางเศรษฐกิจ สร้างรายได้ให้กับประเทศ กระจายไปสู่ภาคท้องถิ่นที่เป็นสถานที่ถ่ายทำ สร้างงานให้กับทีมงานชาวไทย และที่สำคัญที่สุดคือการประชาสัมพันธ์ประเทศไทยไปสู่สายตาผู้ชมภาพยนตร์ทั่วโลก
ติดตามข้อมูลข่าวสารการถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศในประเทศไทยได้ที่ https://tfo.dot.go.th
หรือ Facebook : TFO Thailand Film Office หรือสอบถามข้อมูลได้ที่โทร 02 141 3122