แก๊งคอลล์เซ็นเตอร์ บ่อนการพนัน ธุรกิจสีเทา ไปจนถึงธุรกิจผิดกฎหมาย ทำให้ภาพลักษณ์ของเมือง “เมียวดี" (Myawaddy) ประเทศเมียนมา เมืองชายแดนตรงข้ามอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก กลายเป็นด้านลบไปแล้วในสายตานักท่องเที่ยว
นับเป็นเรื่องน่าเสียดาย เพราะความจริงแล้ว ในอดีตเมืองริมฝั่งแม่น้ำเมยอย่าง “เมียวดี” ถือเป็นจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของนักท่องเที่ยวชาวไทยผู้ชื่นชอบศิลปวัฒนธรรม วัดวาอาราม ไหว้พระ รวมถึงนักท่องเที่ยวสายมู เป็นหนึ่งในเมืองชายแดนที่มีทัวร์ท่องเที่ยวแบบเดย์ทริปข้ามสะพานมิตรภาพที่จังหวัดตากไปชมวิถีชีวิตท้องถิ่นของประเทศเพื่อนบ้าน
ลองมาทำความรู้จักการท่องเที่ยวเมียวดีในอีกด้าน ซึ่งมีความน่าสนใจไม่น้อย โดยทัวร์เมียวดี มีตั้งแต่บริษัทนำเที่ยวของฝั่งไทย หรือไปวอล์ก อิน จัดเดย์ทริปทางฝั่งเมียนมาก็ได้
เริ่มต้นที่จุดหมายยอดนิยมอย่าง “วัดมิจาโกง” หรือ “วัดจระเข้” ซึ่งมีเอกลักษณ์เด่น คือ รูปปั้นจระเข้ขนาดใหญ่ตั้งตระหง่านสะดุดสายตาอยู่ภายในวัด รูปปั้นจระเข้มีความยาวตั้งแต่หัวจรดหาง 65 เมตร ลำตัวถูกทาด้วยสีเขียวสดใส บริเวณด้านกลางลำตัวจระเข้เป็นที่ตั้งของหอไตรกลางน้ำ มีตำนานเล่าว่าในอดีตมีจระเข้ตัวใหญ่จะเข้ามากินพระภิกษุสงฆ์ ที่ปฏิบัติธรรมอยู่ในวัด ท่านจึงแสดงธรรมจนจระเข้ได้เห็นธรรมและละกิเลสเลิกกินเนื้อสัตว์
วัดแห่งนี้มี “หอแสดงพุทธประวัติพระพุทธเจ้า” ล้อมรอบ “เสาอโศก” อันเป็นเครื่องหมายเพื่อระบุสถานที่สำคัญทางพระพุทธศาสนา พื้นที่ภายในอาคารถูกทำเป็นห้องต่างๆ ที่ประดับรูปปั้นที่เล่าพุทธประวัติให้เดินชม
ถัดมาไม่กี่นาทีไปที่ “วัดมอญพระยืน" วัดเล็กๆของชาวมอญที่สร้างไว้ มีองค์พระยืนงามสง่า และเป็นสถานที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้าจากประเทศศรีลังกา
“วัดเจ้าโลวจี” หรือ “วัดก้อนหินใหญ่” ที่ตั้งอยู่บนลานหินขนาดใหญ่บนเนินเขา ทำให้มองเห็นยอดเจดีย์สีทองเหลืองอร่ามได้ตั้งแต่ระยะไกล บริเวณด้านหลังองค์เจดีย์ ก็ยังเป็นที่ตั้งของก้อนหินขนาดใหญ่ที่มีเจดีย์อยู่ด้านบนและมีมังกรพันรอบก้อนหิน ซึ่งเป็นที่มาของชื่อวัด
นอกจากนี้ ในเมืองเมียวดียังมีวัดอื่นๆที่สำคัญ เช่น วัดชเวมินหวุ่น (วัดเจดีย์ทอง) ซึ่งถือเป็นคู่บ้านคู่เมืองเมียวดี มีองค์เจดีย์สีทองอร่ามจำลองมาจากเจดีย์ชเวดากองที่เมืองย่างกุ้ง, วัดพระเขี้ยวแก้ว, วัดเด้ถั่นเอ่ (วัดอธิษฐาน) เป็นต้น ซึ่งทัวร์ปกติจะนิยมพานักท่องเที่ยวตระเวนชมประมาณ 4-5 วัด
ก่อนไปปิดท้ายด้วยบรรยากาศดั้งเดิมของ “ตลาดบุเรงนอง” ที่สุดคึกคัก ด้วยเป็นศูนย์รวมสินค้า ทั้งสินค้าของเมียนมา จีน และสินค้าท้องถิ่น ไม่ว่าจะเป็น เสื้อผ้า แป้งทานาคา ใบพลู-หมาก อาหารการกินต่างๆ ที่น่าลิ้มลองอยู่ไม่น้อย รวมทั้ง “แตงโมยักษ์” เอกลักษณ์ของเมือง
น่าเสียดายที่ในปัจจุบัน “เมียวดี” ได้รับผลกระทบขัดแย้งของการเมืองภายในประเทศเมียนมา ต่อเนื่องกับภาพที่กลายเป็นเมืองธุรกิจสีเทา ทั้งๆที่พื้นที่ฝั่งตรงข้ามสะพานมิตรภาพยังเต็มไปด้วยวิถีชีวิตเรียบง่าย และศิลปวัฒนธรรมที่มีเสน่ห์ในแบบเมืองชายแดน